ตอนที่5 ยัยตัวยุ่ง

892 Words
ตอนที่5 ยัยตัวยุ่ง เรือนไม้ชั้นเดียวซึ่งปลูกอยู่ห่างจากเรือนไทยหลังใหญ่คือจุดหมายของน่ารัก ระหว่างที่เดินผ่านทางเดินเล็กๆ รายล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวขจีอากาศเย็นสดชื่น ด้วยผลงานแห่งธรรมชาติรังสรรค์ หญิงสาวจำได้ว่าตอนเด็กๆ คุณแม่พาเธอและพี่สาวมาเที่ยวเยี่ยมยืนคุณน้าปานวาดและอาจารย์ศิราณีบ่อยๆ พอโตขึ้นพอรู้ความก็ถูกมารดากะเกณฑ์ให้มาเรียนรำไทยกับอาจารย์ศิราณี ในขณะที่ปิ่นมุกดาพี่สาวของเธอกลับได้อภิสิทธิ์วิ่งเล่นกับนายศิวะได้สบายๆ มารดามักเคี่ยวเข็ญเธออย่างหนักในเกือบทุกเรื่อง ต่างจากพี่สาวที่ท่านจะถามความเห็นก่อนเสมอ เมื่อไม่ได้รับความเห็นชอบจากอีกฝ่ายก็ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด ทว่าเพื่อความสุขของมารดาหญิงสาวจึงยอมตามใจท่าน ถ้าสิ่งนั้นไม่หนักหนาสาหัสมากนักสำหรับความรู้สึกของเธอ น่ารักหยุดยืนมองต้นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ที่ครั้งวัยเยาว์เธอเคยเล่นซนปีนขึ้นไปบนนั้น ขณะเล่นซ่อนแอบกับพี่สาวและนายศิวะ แต่ตอนลงกลับลงมาไม่ได้เพราะมีตุ๊กแกตัวใหญ่ลายพร้อยขวางทางลงเอาไว้ เธอกลัวจนร้องจ้าต้องแบกหน้าขอร้องเด็กชายที่เธอไม่ค่อยถูกชะตาให้ช่วยพาลงมา ถึงเขาจะยอมช่วยแต่ก็บ่นเธอจนหูชา แถมยังฟ้องมารดาของเธอจนหญิงสาวโดนตำหนิ หมอนั่นชอบวางกล้ามทำตัวเป็นพี่ใหญ่ทั้งที่จริงอายุห่างกับเธอเพียงหกปีเท่านั้น แถมยังชอบมองว่าเธอเป็นเด็กแก่แดดไม่รู้จักโต เวลาพบกันทีไรต้องได้มีเรื่องให้ทะเลาะปะทะคารมกันอยู่ตลอด จะว่าไปแล้วก็นานหลายเดือนทีเดียวที่ไม่ได้เจอกับหมอนั่น คงตั้งแต่นายด็อกเตอร์ปากปีจอไปต่างประเทศเมื่อสามเดือนก่อน มารดาของเธอจึงดีใจแทบกระโดดเมื่อเห็นเขาในข่าวช่วงค่ำของเมื่อวาน อันที่จริงเธอเองก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นเขาแม้นจะแสดงออกอย่างโจ่งครึ่มต่อใครๆ ว่าชังน้ำหน้าเขาก็ตาม ทำไมน่ะเหรอ… เธอก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เขาเป็นผู้ชายหนึ่งในไม่กี่บนโลกที่เธอเผลอจ้องตาแล้วเกิดอาการใจสั่นแปลกๆ เขาทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาตลอดเวลายิ่งตอนที่เขาพูดคุยอย่างสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นด้วยแล้วยิ่งน่าหมันไส้ เธอเกลียดรอยยิ้มใสซื่อของเขายามยิ้มให้เธอแถมยังเผื่อแผ่ไปยังผู้คนอีกมากมาย น่ารักสรุปง่ายๆ ในใจของตัวเองว่าเธอคงไม่ถูกชะตากับเขามาตั้งแต่ชาติที่แล้วกระมัง “ว้าว ลมอะไรกันหอบยัยน่าเกลียดพัดมาถึงเรือนของฉัน” เสียงทักทายประโยคแรกของเจ้าของบ้านทำให้หญิงสาวนิ่วหน้า น่ารักหันขวับไปตามต้นเสียงและพบว่าชายหนุ่มที่มารดาให้นำผลไม้มาให้กำลังยืนอยู่บนบันไดไม้ไผ่ที่พาดกับต้นมะม่วงอีกต้น พุ่มไม้ใบหนาทำให้เห็นแต่ส่วนใบหน้าและขาของเขาโผล่ออกมาเท่านั้น “คุณนายแม่ให้ฉันเอาผลไม้มาให้นาย คนปากปีจอ” น่ารักวางกระเช้าผลไม้ลงยืนเท้าเอว “ฝากขอบคุณคุณน้าด้วยนะ แล้วมุกล่ะมาด้วยหรือเปล่า” “ไม่มา” หญิงสาวตอบกลับเสียงขุ่น ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเธอเดินมาเพียงคนเดียวยังถามถึงพี่สาวของเธออีก ไม่ได้เจอกันตั้งนานแทนที่จะถามสารทุกข์สุกดิบเธอบ้างสักคำก็ไม่มี น่ารักคิดอย่างน้อยใจ “อืมมม วางกระเช้าไว้ตรงนั้นก็ได้ฉันกำลังยุ่งอยู่” “นายขึ้นไปทำอะไรบนนั้นหรอ” หญิงสาวยกมือป้องแสงจ้ามองไปยังด้านบน “ลูกนกมันพลัดตกลงมาจากรัง ฉันก็เลยปีนเอามันกลับขึ้นมาใส่รังตามเดิมเดี๋ยวแม่นกกลับมาไม่เห็นหน้าลูก” ศิวะบอกสาเหตุที่เขาปีนขึ้นมา ใจดีแบบนี้ตลอดเลยสินะ…น่ารักเผลอยิ้ม “ฉันขอขึ้นไปดูด้วยสิ ฉันอยากเห็นลูกนก” หญิงสาวปรี่เข้ามาหาบันไดไม้ไผ่ที่ศิวะกำลังยืนอยู่ “เฮ้ย! ขึ้นมาไม่ได้นะรออยู่ข้างล่างนั่นแหละ ฉันจะเสร็จแล้ว” ชายหนุ่มร้องห้ามเสียงหลงด้วยสภาพของบันไดไม้ที่เริ่มไม่ค่อยแข็งแรง เพราะมีการอายุการใช้งานมายาวนานคงไม่ปลอดภัยนักถ้าจะปีนขึ้นมาถึงสองคน ทว่าหญิงสาวกลับคิดไปอีกอย่างว่าเขาไม่อยากให้เธอเข้าไปยุ่ง เธอจึงยิ่งอยากจะปีนขึ้นไปกันใหญ่ เรื่องอะไรจะต้องไปฟังเขาด้วย “อย่ามาห้ามซะให้ยากเลย ฉันจะขึ้นไปดูลูกนกด้วย” น่ารักจับบันไดไม้และปีนขึ้นไปทว่าปลายบันไดที่วางอยู่อย่างหมิ่นเหม่เกิดเคลื่อนตัวทำให้เสียหลักเอนลง ด้วยอารามตกใจน่ารักจึงกระโดดหลบออกมาได้ทัน แต่ชายหนุ่มที่อยู่ด้านบนดันตกลงมากระแทกพื้นเสียงดัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD