ตอนที่2 สาวน้อยน่ารัก
บ้านปิ่นมุกดา
“น่ารัก น่ารัก มาดูข่าวนี้สิลูก”
นางสาวิภานั่งอยู่บนโซฟาราคาแพงในห้องนั่งเล่นขณะดูข่าวสารบ้านเมืองในทีวี ก่อนจะร้องเรียกบุตรสาวคนเล็กเสียงดังเมื่อภาพข่าวหนึ่งปรากฏขึ้น
“อารายกันค่ะคุณนายแม่เรียกซะเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้านเชียว”
น่ารักสาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดปีเดินยิ้มกริ่มเข้ามาหามารดา หลังจากนั่งลงบนโซฟาเดียวกันก็วาดวงแขนไปโอบผู้เป็นมารดาเอาไว้
“ดูสิ ข่าวในทีวี” มารดาพยักเพยิบหน้าไปที่หน้าจอ
“มีอะไรน่าสนใจกว่าลูกสาวอีกเน้อ” น่ารักทำแก้มป่องๆ แต่ก็ยอมหันไปดูทีวีตามมารดาของเธอ
‘ตอนนี้ด้านหลังของพวกเราคือทุ่งนาในเขตอำเภอหนึ่งของจังหวัดหนองคายนะคะ ซึ่งเป็นเหมือนที่ซ่อนสมบัติขนาดใหญ่เลยนะคะผู้ชม หลังจากที่ด็อกเตอร์ศิวะทำการสำรวจและปักเขตเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ระดมกำลังขุดรอบๆ บริเวณนี้ทันที ผ่านไปเพียงสามสิบนาทีเท่านั้นค่ะสิ่งแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ขุดพบก็คือหีบทองสำฤทธิ์ซึ่งภายในบรรจุข้าวของเครื่องใช้ทำด้วยโลหะเงินและบางส่วนยังพบเครื่องประดับทองค่ะ นอกจากนี้ยังพบของมีค่าอีกมากมายซึ่งเราต้องรอให้เจ้าหน้าทีออกมาแถลงข่าวอีกครั้ง ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่นะคะได้นำสิ่งกีดขวางเข้ามากั้นและกันประชาชนส่วนหนึ่งออกจากบริเวณเรียบร้อยแล้ว’
“ข่าวนายด็อกเตอร์ขี้เก็กนั่นอีกแล้วใช่มั้ยคะคุณนายแม่ โถ่เสียเวลาช่วยพี่หวานทำขนมเอาไว้ใส่บาตรเช้าหมดเลย” น่ารักทำหน้าเบื่อหน่าย
“ฟังพูดเข้าสิประเดี๋ยวได้ตีกันบ้าง มีอย่างที่ไหนไปเรียกพี่เขาว่ายังงั้น”
“โหยย เดี๋ยวนี้แตะต้องกันไม่ได้เชียวเอะอะก็จะตีลูกหรอ นี่แนะ” น่ารักจี้เอวมารดาจนบิดตัวหนีไปมาหัวเราะร่วนด้วยความจักจี้
“ฮา ฮา หยุดนะยัยรักประเดี๋ยวแม่ได้หายใจไม่ทันกันพอดีเล่นเป็นเด็กไปได้”
มารดาพยายามปัดป้องมือของลูกสาวที่จี้เอวของตนเองพัลวันนางรักและเอ็นดูด็อกเตอร์ศิวะเหมือนลูกหลานเนื่องจากชายหนุ่มเป็นหลานชายผู้อาภัพของเพื่อนรักของนาง เด็กหนุ่มคนนี้ฉลาดเฉลียวมีไอคิวสูงกว่าคนทั่วไป เขาเรียนจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุเพียงยี่สองปี แต่อาภัพขาดทั้งบิดามารดาที่มาด่วนจากไปตั้งแต่เขาเยาว์วัย
“น่ารักหยุดก็ได้ แต่คุณนายแม่ห้ามทำเหมือนจะยกลูกสาวตัวเองใส่พานให้ตาด็อกเตอร์ขี้เก็กนี่อีก ตกลงมั้ย” น่ารักหรี่ตามองมารดาที่พยักหน้ารับคำเธอช้าๆ
“เด็กคนนี้นี่” นางสาวิภาทำท่ากระเง้ากระงอดลูกสาวคนเล็ก
“โอ้ยยย ดูทำหน้าเข้าสิงอนลูกเหรอคะ มามะหอมแก้มให้น๊า” ลูกสาวดึงร่างมารดาเข้ามาหาพร้อมกับระดมจูบพวงแก้มของผู้เป็นแม่ฟอดแล้วฟอดเล่า
“แม่หายแล้วพอเถอะ มีอะไรก็ไปทำไป๊ดูสิน้ำลายเปื้อนแก้มแม่หมดแล้ว”
“งั้นน่ารักเข้าครัวไปช่วยพี่หวานทำขนมต่อนะคะคุณแม่”
มารดาพยักหน้ามองลูกสาวคนรักฉีกยิ้มกว้างเดินปรี่เข้าไปในครัว
“ลูกคนนี้เมื่อไหร่จะโตกับเขาสักที”
มารดายิ้มตามหลังอย่างมีความสุข นางมีบุตรสาวสองคนสามีเป็นชาวอังกฤษมักจะเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แต่ก่อนนางมักจะตามสามีไปตลอดทว่าระยะหลังมาสุขภาพไม่ค่อยดีเคยต้องอยู่บ้านดูแลลูกๆ แทน ปิ่นมุกดาบุตรสาวคนโตปีนี้อายุก็อย่างเข้ายี่สิบห้าปี เธอมีอาชีพเป็นดารานักแสดงด้วยมีรูปร่างหน้าตาสะสวย มีงานการที่สามารถเอาตัวรอดได้ในสังคมอย่างสุขสบาย จะมีก็แต่น่ารักลูกสาวคนสุดท้องที่ปีนี้อายุเพิ่งจะยี่สิบเอ็ดปี เพิ่งจะสเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาลด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับสอง โชคดีอย่างหนึ่งของนางก็คือลูกสาวทั้งสองเป็นเด็กดีไม่เคยทำให้นางและสามีต้องคอยเป็นห่วงกังวลใด
“ฮัลโหล มุกหรือลูก” นางสาวิภายกโทรศัพท์มือถือขึ้นกดรับเมื่อมีสัญญาณเรียกเข้า
“ค่ะคุณแม่ คืนนี้มุกนอนค้างที่คอนโดนะคะพอดีติดงานเลี้ยงปิดกล้องละครน่ะคะ” ปลายสายรายงานเสียงใส
“จ๊ะ รักษาสุขาภาพด้วยนะลูกอย่าหักโหมงานมากนัก เดี๋ยวจะล้มหมอนนอนเสื่อไป”
“ค่ะคุณแม่ คุณแม่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะแล้วนี่ยัยรักดีไปไหนซะละคะไม่เห็นได้ยินเสียงเลย”
“โอ้ย รายนั่นน่ะกำลังสนุกอยู่กับการทำขนมอยู่ในครัวโน้น”
“ฝากบอกยัยรักด้วยนะคะว่ามุกของลายเซนพี่ปราบพระเอกในดวงใจของนางไว้ให้แล้ว”
“ได้จ๊ะ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะคุณแม่ บายคะ”
นางสาวิภากดปิดโทรศัพท์ถอนใจออกมาช้าๆ ถ้าลูกของนางรักใคร่กลมเกลียวกันแบบนี้ นางคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก หากวันหนึ่งมีเหตุให้ต้องจากพวกเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ…