“ช่วงนี้ดูคุณเครียดมากเลยนะคะเมฆ มีปัญหาอะไรที่บริษัทหรือเปล่า” การรอคอยสามีกลับจากทำงานเป็นกิจวัตรประจำวันของหล่อนอย่างหนึ่ง จอมเกล้าคลี่ยิ้มให้กับสามีที่เดินเข้ามาในบ้านและก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นบนด้วยกัน
“ก็เรื่องงาน...บางทีก็ยุ่งๆ หน่อยๆ ไม่มีอะไรหรอก ยัยหนูหลับแล้วเหรอ” ชายหนุ่มส่งเสื้อสูทที่ถอดออกให้ภรรยาเมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องส่วนตัว แล้วตรงเข้าหอมแก้มหล่อนเบาๆ เหมือนอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน แต่สีหน้าและท่าทีอ่อนล้าของเขาก็ทำให้ผู้เป็นภรรยาอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้
“หลับแล้ว นี่เกือบสองทุ่มแล้วนะคะเมฆ จริงสิอาทิตย์หน้างานเลี้ยงคุณหญิงศจีนะคะ เรายังไม่ได้ไปตัดชุดกันเลย” หล่อนเดินตามหลังเขาไป
“ผมไม่ไปได้ไหมคุณ...อย่างที่บอกไปงานผมเยอะมาก แค่กลับบ้านก่อนหนึ่งทุ่มนี่ผมก็เคลียร์กองเอกสารในแต่ละวันไม่ทันอยู่แล้ว” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็ไปด้วย ครอบครัวคุณหญิงกับครอบครัวของฉันสนิทกันมานาน ถ้าไม่ไปจะโดนตำหนิเอาได้ว่าละเลยไม่ให้ความสำคัญกับท่านนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นคงเลี่ยงไม่ได้...แต่เราก็มีเสื้อผ้าเยอะอยู่แล้วนี่ หลายชุดคุณก็ยังไม่ได้ใส่เลย สวยๆ ทั้งนั้นไม่เห็นจะต้องไปตัดใหม่ให้เสียเวลา เสียเงิน”
“เมฆคะ...งานสำคัญทั้งที” หล่อนมองค้อนสามี เขาก็ยิ้มตอบเอาใจแล้วเดินมากอดแล้วหอมแก้มขาวฟอดใหญ่ หญิงสาวเก็บเสื้อสูทของสามีไว้ในส่วนที่ต้องจัดการซักเรียบร้อย
“ความสุขของคุณผมจะกล้าขัดได้ยังไง หืม...แต่ให้ช่างมาวัดตัวที่บ้านก็แล้วกันนะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างจริงๆ”
“ได้ค่ะ...ขอบคุณมากนะคะ คุณน่ารักที่สุดเลย”
“ต้องมีรางวัลนะ” เขาฉวยโอกาสที่เมียสาวกำลังยิ้มอย่างยินดีฉกจูบหล่อนอย่างดูดดื่มก่อนจะผละห่างเล็กน้อย
“ว้ายเมฆ! ไหนบอกว่าเหนื่อยค่ะ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วจะได้ทานข้าว นอนดึกตื่นเช้าคุณจะยิ่งเพลียนะคะ”
“นี่จอม...น้องเกล้าจะสามขวบแล้วนะ ไม่อยากมีลูกอีกสักคนไว้ให้เป็นเพื่อนเล่นกันเหรอ”
“แค่คนเดียวคุณก็ทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ” ดวงตากลมโตขึงเข้ม ในฐานะภรรยาหล่อนอยากให้เขามีเวลาให้กับครอบครัวมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่าเมฆีต้องทำงานหนักเพื่อดูแลหล่อนและลูก เขามีความมุ่งมั่นเกินกว่าที่หล่อนจะยับยั้งอะไรได้
“ผมยังไหวเสมอนะจอม...ไม่มีอะไรที่ผมทำให้คุณกับลูกไม่ได้”
“เอาล่ะค่ะ...ไปอาบน้ำเถอะ คุณมาเหนื่อยๆ เราอย่าเพิ่งคุยเรื่องเครียดๆ กันอีกเลยนะคะ”
“อืม...อาบน้ำให้ผมหน่อยสิ”
“ได้ยังไง...ฉันต้องไปเตรียมอาหารนะ”
“ได้สิ อาบน้ำให้ผมก่อนแล้วเรื่องอาหารเดี๋ยวเราไปช่วยกัน”
“เอ่อ...”
“ว้าย! คุณคะ” เสียงหวานอุทานแหววเมื่อร่างของหล่อนถูกอุ้มยกขั้นเหนือพื้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“หลังๆ มานี้ผมรู้นะว่าผมมีเวลาให้คุณน้อยลง เราต้องใช้ทุกวินาทีให้มันคุ้มค่านะเมียจ๋า” เขากล่าว ทำให้หล่อนยิ้มเขินอายแล้วก็ได้แต่ก้มหน้างุด สองมือจับรั้งหัวไหล่เขาเพื่อพยุงตัว ยอมให้สามีอันเป็นที่รักโอบอุ้มพาเดินเข้าห้องน้ำแต่โดยดี