@บ้านของแม็กซ์เวลล์
เวลา 16:30 น.
"คูมพ่อ" แขนเล็กๆกางออกกว้าง เมื่อมิลินพบหน้าผมอีกครั้ง ผมยิ้มกว้าง ย่อตัวลงต่ำ พลางอ้าแขนรับตัวบุตรสาวเข้าสู่อ้อมกอดทันที
"ลูกโป่ง" เสียงใสพูดขึ้นอย่างดีใจ มิลินปรบมือดั่งลั่น มองรอบบ้านที่ถูกประดับด้วยลูกโป่งที่สวยงาม
"สวยจังเลยค่ะ มิลินชอบลูกโป่งสีขาว"
"งั้นแด๊ดดี้เอาลูกโป่งสีขาวให้มิลินนะครับ" ตามนั้น ผมปลดลูกโป่งตัวที่อยู่ใกล้สุดออกมา
แต่ทว่า
"ไม่เอาค่ะ มิลินอยากให้ลูกโป่งสีขาวอันเล็ก อยู่กับลูกโป่งอันใหญ่ๆค่ะ พ่อแม่ลูกต้องอยู่ด้วยกัน" ผมมองหน้าลูกสาวแล้วถึงกับชะงัก ผมรู้สึกว่าพักนี้มิลินพูดถึงอะไรที่เกี่ยวกับครอบครัวบ่อยมาก
"คูมแม่ เมื่อไหร่มิลินจะเจอคูมแม่" ดวงตากลมโตใสแป๋วมองมาที่ผม แปลกดีนะ เกิดมามิลินไม่เคยใกล้ชิดกับแม่ด้วยซ้ำ แต่เหมือนกับโหยหา อย่างกับคนเคยพบกัน และคิดถึงกันมากมาย
ครืดด~ ครืดด~
และเหมือนโทรศัพท์จะช่วยชีวิตผมไว้
"มีคนโทรมาครับ แด๊ดดี้ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ" มิลินพยักหน้ารัวๆ ผมหอมแก้มบุตรสาวทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะปล่อยตัวมิลินลง เป็นจังหวะที่แม่ของผม และเวกัสเดินออกมาพอดี
ผมปลีกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ เห็นเป็นเบอร์โทรของลูกน้องที่ทำงานที่โทรเข้ามา
"อื้ม.."
[นายครับ บิ๊กเซลล์แจ้งว่า พบคุณคริสกับ เอ่อ.. สามีของเธอ ที่โชว์รูมใหญ่ครับ]
"แน่ใจเหรอว่าใช่คริส แล้วเขาไปที่นั่นทำไม!" ชื่อของอดีตภรรยา เรียกความสนใจจากผมทันที
[นายสะดวกหรือเปล่าครับ ผมอยากให้นายมาดูเองมากกว่า] ผมเหลือบตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเพียงนิด คิดคำนวณบางอย่างเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับออกไป
"แล้วเจอกัน!" ผมละโทรศัพท์ออกจากหู และหมุนตัวกลับ แต่ก็ถึงกับชะงัก เมื่อพบเวกัสยืนมอง
"อะไร!"
"มีเค้กมาส่งแล้วค่ะ ตอนอยู่ข้างในกัน มิลินพูดถึงเรื่องแม่ใหญ่เลย พี่แม็กซ์ยังไม่บอกน้องเหรอคะ ว่าแม่เขาไม่มา"
"ไม่จำเป็นต้องบอก พอถึงเวลา ก็แค่บอกว่าแม่เขาติดงาน เท่านั้นก็พอ"
"อีกแล้วเหรอคะ มันซ้ำกับปีเดิมและปีที่แล้วอีกแล้วนะคะ กัสว่าพี่แม็กซ์ควรพูดความจริงกับน้องนะคะ"
"เอาเป็นว่าฉันมีปัญญาทำให้มันแตกต่างจากทุกปีก็แล้วกัน ไม่ต้องมายุ่ง!" ผมตอบกลับด้วยความหงุดหงิด ผมรู้ก็แล้วกันว่าผมกำลังทำอะไร ไม่จำเป็นต้องให้เด็กแบบยัยนั่นมาสอนด้วยซ้ำไป
เวลาผ่านไป
@บ้านของแม็กซ์เวลล์
เวลา 21:21 น.
"ป้าโทรหาตาแม็กซ์ไม่ติดเลย ป่านนี้ไปอยู่ที่ไหน ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ" มารีญาพูดออกมา ในขณะที่มือยังคงกดโทรศัพท์
"ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้สำคัญกับลูกแค่ไหน ตาแม็กซ์นี่ไม่ไหวเลยจริงๆ"
"ใจเย็นๆก่อนนะคะคุณป้า กัสว่าพี่แม็กซ์อาจจะกำลังรีบกลับมา"
"คูมย่า" เสียงเล็กๆที่ดังอยู่ทางด้านหลัง ส่งผลให้ฉันหมุนตัวกลับไปทันที
มิลินที่อยู่ในชุดเจ้าหญิงสีขาว ผมยาวๆมัดไว้เป็นสองข้าง ดวงตากลมโตคู่นั้นคลอน้ำตาเบาๆ
"ทำไมไม่กินขนมกับพี่อ้อยในบ้านล่ะลูก ข้างนอกยุงเยอะนะคะ" ป้ามารีญาเดินเข้าไปหาหลานสาว ย่อเข่าทั้งสองข้างลงกับพื้น แล้วจับมือหลานสาวมากุม
"คูมพ่ออยู่หนาย มิลินอยากหาคูมพ่อ"
"เดี๋ยวคูมพ่อก็มาแล้วค่ะ ย่าโทรตามคูมพ่อแล้ว"
"คุมพ่อไปรับคูมแม่มาหามิลินเหรอคะ" คำพูดของเด็กหญิงวัยห้าขวบ ส่งผลให้หัวใจของฉันกระตุกอย่างแรง หลายวันแล้ว ที่มิลินรอคอยอย่างมีความหวัง เหมือนที่ครั้งหนึ่ง ฉันเคยคอยใครสักคนเหมือนกัน
"มิลินอยากหาคูมพ่อแล้ว" คุณป้ามารีญาหันมามองฉันด้วยความหนักใจ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่าแม่มิลินไม่มา แต่ไม่มีใครยอมพูดกับมิลินตรงๆเลย
"มิลินอยากเป่าเค้ก อยากนอนกับคุณพ่อแล้วก็คูมแม่" น้ำตาที่คลอหน่วยของมิลิน ทำให้ฉันทนไม่ไหว ต้องทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆป้ามารีญาอีกคน
"มิลินขา มิลินไปเอาของขวัญกับพี่กัสหน่อยสิคะ กล่องใหญ่มากๆเลย"
"ของขวัญมิลินเหรอคะ?" เด็กหญิงวัยห้าขวบเอียงคอมอง ตากลมโตกระพริบถี่ มองฉันเหมือนมีความหวัง
"ใช่แล้วค่ะ ของขวัญของมิลินเอง ปะ ไปกับพี่กัสนะคะ" ฉันยื่นมือออกไปด้านหน้า เพื่อขอมือเล็กๆของมิลินแบบทุกครั้ง ซึ่งมิลินเอง ยอมวางมือมาทับมือฉันเช่นกัน
ฉันจูงมือเด็กหญิงมาที่มุมหนึ่งของตัวบ้าน โดยมีป้ามารีญาที่เดินตาม
"ว้าวววว~" ส่งสดใสดังขึ้น เมื่อฉันดึงผ้าคลุมกล่องของขวัญลายการ์ตูนสีขาวออกห่าง มิลินยิ้มกว้าง แล้วเดินไปโอบกล่องของขวัญไว้ทันที
"ใหญ่มาก"
"สุขสันต์วันเกิดค่ะคนสวยของพี่กัส ทุกอย่างที่อยู่ในกล่องของขวัญ พี่กัสให้มิลินหมดเลยค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"พี่กัสรักมิลินนะคะ มิลินรักพี่กัสไหมเอ่ย.." ฉันเอียงหน้าถาม มิลินเลยผละจากกล่องของขวัญ แล้วมากอดฉันแทน
"มิลินรักพี่กัสค่ะ" ฉันกอดเด็กหญิงที่คลุกคลีมาตั้งแต่น้องเกิดด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง รัก และมีความผูกพันธ์กัน แม้จะไม่ใช่สายเลือดกันเลยก็ตาม
ฉันรู้จักป้ามารีญา ในฐานะผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือฉันหลายๆอย่าง พ่อกับแม่ของฉันเลิกกัน แล้วทิ้งฉันไปคนละทิศคนละทาง พ่อตายจาก แม่มีสามีใหม่ ชีวิตไปคนละทิศละทาง ทิ้งบ้าน ทิ้งเงินทองให้ฉัน แต่ไม่หลงเหลือความสุขให้ฉันเลย
"วันนี้วันเกิดพี่กัส พี่กัสได้ของขวัญไหมคะ" คำถามจากเด็กหญิง ส่งผลให้หัวใจของฉันสั่นไหว
"ของขวัญจากคุณย่าไงคะ ย่าให้ของขวัญวันเกิดพี่กัส แต่เล็กกว่าของมิลินเยอะเลยค่ะ" ป้ามารีญาเป็นคนตอบ
"แล้วคูมพ่อล่ะคะ คูมพ่อให้ของขวัญพี่กัสไหม"
"...แด๊ดดี้ของมิลินบอกว่า หากพี่กัสอยากได้อะไร แด๊ดดี้จะซื้อให้ทุกอย่างเลยค่ะ" พอได้ยินแบบนั้น มิลินจึงพยักหน้ารัวๆ
"แล้วมิลินล่ะคะ มีของขวัญให้พี่กัสไหม?" เป็นอีกครั้ง ที่เด็กหญิงส่ายหน้ารัวๆ
"ถ้าอย่างนั้น พี่กัสไม่เอาของขวัญ แต่ขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ"
"ได้ค่ะ" ฉันยิ้มให้กับท่าทีใสซื่อ แม้จะยังไม่รู้ว่าฉันจะขออะไร แต่มิลินก็ตอบตกลงในทันที
"พี่กัสอยากให้มิลินเป็นเด็กดี เชื่อฟังแด๊ดดี้ เชื่อฟังคุณย่า เป็นเด็กดีของแด๊ดดี้ เป็นเด็กดีของคุณย่า เพราะคนสองคนนี้ รักมิลินที่สุดเลยค่ะ" เด็กหญิงอมยิ้ม แล้วพยักหน้ารัวๆ
"มิลินรักคูมพ่อ รักคูมย่า รักคูมแม่ ...รักพี่กัสด้วยค่ะ" แม้จะเป็นเพียงคำพูดของเด็กห้าขวบ แต่ก็ทำฉันยิ้มได้ เพราะทุกวันนี้ ไม่มีเลยคนที่บอกว่ารักฉัน สักคนก็ไม่มีเลย
จากนั้น คุณป้ามารีญาก็พามิลินไปดูของขวัญของคุณย่า พร้อมทั้งของคุณอาส่งส่งล่วงหน้ามาจากต่างประเทศ พี่แม็กซ์มีน้องชายแท้ๆหนึ่งคน เห็นว่า อายุห่างกันมากอยู่เหมือนกัน
เข็มนาฬิกายังคงหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ตัวเลขที่เริ่มขยับ บ่งบอกว่า กำลังดึกเข้าไปทุกวินาที ไม่มีวี่แววว่าแด๊ดดี้ของมิลินจะกลับบ้าน ป้ามารีญาไม่สามารถติดต่อเขาได้ด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับ มีเพียงฉันที่รู้ ว่าเขาไปที่ไหน เพราะบังเอิญได้ยินเขาคุยโทรศัพท์ก่อนจะออกไป
@บ้านแม็กซ์เวลล์
เวลา 22:10 น.
"คูมพ่อไปหนาย.." น้ำเสียงของมิลินเริ่มงอแง และไม่โอเคจนฉันรู้สึกได้ บ่อยครั้งที่มิลินชะเง้อคอมองหา ไม่มีวี่แววเลย ว่ารถพี่แม็กซ์จะกลับเข้ามา
ฉันลอบมองที่ใบหน้าขอคุณป้ามารีญา เห็นว่า เหมือนท่านจะไม่โอเคแล้วเหมือนกัน
"มิลินอยากหาคูมพ่อ" น้ำหญิงวัยห้าขวบน้ำตาคลอ ภาพที่เด็กผู้หญิงนั่งคอยให้พ่อกับแม่กลับบ้าน สะกิดหัวใจของฉันอย่างจัง
ผู้ใหญ่หลายคน คิดว่าความรู้สึกของเด็กไม่ใช่เรื่องสำคัญ จะโกหกไปวันๆ ยังไงก็ได้ ฉันเข้าใจว่าเหตุผลที่ทำให้ผู้ใหญ่เลือกทำ มันจำเป็นและบางทีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกไม่โอเคจริงๆนะ ฉันไม่โอเคเลย
"มิลินอยากหาคูมพ่อ ...คูมพ่อไปรับคูมแม่ที่ไหน"
"แม็กซ์นะแม็กซ์ ทำแบบนี้ได้ยังไง!"
"กัสว่าเราควรคุยกับมิลินตรงๆนะคะ ปล่อยให้คอยโดยไม่มีจุดหมาย มิลินยิ่งเสียใจ" ฉันมองตามเด็กหญิงห้าขวบ ที่เดินออกไปยืนคอยพ่อหน้าบ้าน หัวใจของฉันยิ่งกระตุกซ้ำ เมื่อเห็นมิลินนั่งชันเข่า คอยที่หน้าประตูบ้าน หดหู่เป็นบ้า เมื่อภาพในวัยเด็กของฉันมันย้อนคืนกลับมา
"ป้าว่า..."
"ให้กัสบอกมิลินเถอะนะคะ กัสรักน้อง เป็นห่วงความรู้สึกของน้อง ถ้าจะให้ปล่อย ให้มิลินคิดไปเองว่าแม่จะมา กัสบอกเลยว่ากัสไม่สามารถหาวิธีรับมือ กับผลลัพธ์สุดท้ายที่มันจะตามมาได้ แต่หากกัสไปบอกกับน้องตรงๆ แล้วต่อจากนั้น มิลินจะมีปฏิกิริยาแบบไหน กัสเชื่อว่ากัสรับมือกับน้องได้อย่างแน่นอน!"
"เมื่อไม่มีทางเลือก ก็คงต้องเป็นแบบนั้น ป้าสงสารหลานเหมือนกัน!" พอตกลงกันแบบนั้น ฉันจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆมิลิน โดยที่มีป้ามารีญายืนมอง
"ยุงกัด..." เสียงเล็กๆร้องบอก พร้อมทั้งน้ำตาเม็ดโตที่คลอออกมา ฉันรีบไล่ฝ่ามือไปตามร่างกายของเด็กหญิง เพื่อขับไล่ยุงไม่ให้กัดเธอ
"มิลินง่วงแล้ว คูมพ่อยังไม่มาเลยค่ะ" แล้วน้ำตาของเด็กหญิงก็ร่วงเผาะออกมา ทำให้ฉันคว้าตัวมิลินเข้ามากอดทันที
"คนดีของพี่กัส ไม่ร้องนะคะคนเก่ง"
"ฮึก.. มิลินอยากหาพ่อ"
"คุณพ่อติดธุระค่ะ คุณย่ากำลังพยายามโทรหาคุณพ่อ ให้พี่กัสอยู่เป็นเพื่อนมิลินนะ"
"คูมแม่ ฮึก... คูมแม่มิลินทำไมยังไม่มา"
"...คุณแม่ คุณแม่ไม่ได้มาค่ะ คุณแม่คงอยู่ไกลมาก"
"ฮึก... ตะ แต่ ฮึก... คูมพ่อบอกว่าคูมแม่จะมา"
"ไม่มาค่ะ วันนี้คูมแม่ไม่ได้มา แต่ไม่ได้หมายความว่า มิลินจะไม่ได้เจอคุณแม่นะคะ วันหลังค่ะ วันหลังมิลินจะได้เจอคุณแม่แน่ๆ"
"แต่วันนี้วันเกิดมิลินนี่คะ ฮึก... แล้วทำไมคูมแม่ไม่มา"
"วันเกิดพี่กัส ยังไม่มีใครมาเลยค่ะ คุณพ่อของพี่กัสอยู่บนสวรรค์ ส่วนคุณแม่ อยู่ไกลมากเลยค่ะ ...แต่มิลินโชคดีมากๆนะคะ ได้ของขวัญกล่องใหญ่กว่าพี่กัส มีคุณพ่ออยู่ด้วยที่บ้านทุกวัน มีคนย่าคอยทำอาหารให้ทานทุกวัน แต่พี่กัสไม่มีใครเลยค่ะ ...มิลินอย่าโกรธคุณแม่นะคะ ที่วันนี้คุณแม่มาไม่ได้ เพราะวันหลังมิลินยังมีโอกาสที่จะเจอคุณแม่ได้ แต่ดูอย่างพี่กัสสิคะ คุณพ่อพี่กัสอยู่บนสวรรค์ ทำยังไงพี่กัสก็ไม่มีโอกาสได้เจอคุณพ่อเลย แต่พี่กัสก็ไม่เห็นร้องไห้เลยค่ะ" ฉันพยายามสวมกอดมิลินเอาไว้ รู้ดีว่าเด็กหญิงวัยห้าขวบยังไม่เข้าใจ แต่ยังไงมิลินก็ควรรู้ ว่าคุณแม่ของเขาไม่ได้มา เขาจะได้ไม่ต้องตั้งความหวังเขาจะได้ไม่ต้องคอยอยู่แบบนี้ ฉันรู้ ว่าการรอคอย มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
"ทำไมคูมพ่อ ฮึก... ถึงบอกว่าคูมแม่จะมา ฮึก... แล้วทำไมคูมแม่ถึงไม่มา"
"เวกัส!" เสียงเรียกชื่อฉัน ทำให้ใบหน้าของฉัน หันไปทิศทางนั้นทันที
หัวใจของฉันเต้นถี่ มีความหวัง ว่ามิลิน จะไม่ต้องนั่งคอยอีกต่อไป แม้ข้างกายของพี่แม็กซ์จะไม่มีแม่ของมิลินมาด้วย แต่ฉันเชื่อว่า แค่คนเป็นพ่อ สวมกอดลูกบ้าง ให้ความสำคัญกับลูกให้มากๆ และอธิบายที่มาที่ไปทุกอย่าง มิลินจะต้องเข้าใจอย่างแน่นอน
"คูมพ่อ ฮึก..." ทันทีที่เห็นบิดา มิลินหาพ่อทันที
พี่แม็กซ์มารับลูก ออกไปจากหน้าตักของฉัน เขาสวมกอดบุตรสาววัยห้าขวบของตัวเองเอาไว้แน่น ฉันมองภาพนั้น พร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา แต่ทว่า อีกไม่กี่วินาทีต่อมา หัวใจของฉันกลับกระตุกวาบ เมื่อแววตาที่เกรี้ยวกราด ตวัดมองฉันอย่างไม่พอใจ
นานมาก ที่พ่อกับลูกเขาใช้เวลาปรับความเข้าใจกัน ทั้งฉันและป้ามารีญา ไม่มีใครกล้าเข้าหน้าพวกเขาเลยสักคน ภาพที่เห็น คือมิลินร้องไห้ คนเป็นพ่อ พยายามกอดปลอบตลอดเวลา ก่อนที่ผลลัพธ์สุดท้าย มิลินจะหลับไป โดยไม่ทันมีโอกาสได้เป่าเค้ก หรือปาร์ตี้สนุกๆแบบที่เด็กหญิงวัยห้าขวบวาดฝัน ว่าจะทำ
หมับบ~
"อ๊ะ.." ฉันร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อทันทีที่มิลินหลับไป เขาก็อุ้มลูกไปนอนบนฟูกด้านล่าง แล้วตรงเข้ามากระชากข้อมือฉันอย่างแรง
"แม็กซ์ ทำอะไร ปล่อยน้อง!"
"ฝากคุณแม่ดูมิลินด้วยนะครับ ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเวกัส!"
"แม็กซ์เวลล์!"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ผมจะให้ของขวัญวันเกิดยัยนี่เท่านั้นเอง!"