“โอเคเราจะกลับบ้านก็ได้ แต่ต้องหยุดดื่มเหล้า หันมากินข้าวกินปลา ป้าขอเราแค่นี้จะได้ไหม” ประโยคคำถามนั้นทำให้ทิวเขาเงียบเสียงลง
“เราคงอยากเห็นป้าอกแตกตายใช่ไหม” ธารร้องไห้ออกมา นั่นทำให้ทิวเขาตกใจยิ่งนัก
“ผมสัญญาครับคุณป้า ว่าจะดูแลตัวเอง คุณป้าอย่าร้องไห้เลยนะครับ” อย่างน้อยทิวเขาก็ยังรักผู้เป็นป้า ธารถอนใจอย่างโล่งอก เป็นอันว่าแทนที่จะมาเยี่ยมก็มารับหลานชายกลับบ้านแทน
“ทิวเขาทำอะไรเรารึเปล่าหนึ่ง” พอกลับถึงบ้านทิวเขาก็แยกตัวไปพักผ่อน ในขณะที่ธารเรียกหนึ่งธิดาไปเอ่ยถาม
“ไม่ได้ทำค่ะ”
“หมอกานนท์เล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว อย่าโกหกฉันสิ ถึงนั่นจะเป็นหลานชาย แต่ฉันก็ไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะฉันหรอกนะ ฉันขอร้องให้เธอไปดูแลเขาเอง”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะคุณท่าน คุณทิวเขาอาจจะแค่หงุดหงิดน่ะค่ะ เพราะทั้งป่วยและอาจจะยังเสียใจเรื่องของคุณเพียงฟ้าอยู่”
“ขอบใจเธอมากนะหนึ่ง บางทีฉันคิดว่าตัวเองแก่แล้ว เลยคิดจะทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ลงไป ถ้าทิวเขาไม่อยากมีลูกเต้าไว้สืบสกุล และไม่คิดจะมีเมียอีกในชาตินี้ ก็คงเป็นเวรเป็นกรรมของฉันเองที่ตระกูลของฉันจะไม่มีคนสืบทอด ทรัพย์สมบัติจะมีไว้ทำไมก็ไม่รู้ ฉันคิดว่าจะแบ่งให้การกุศลครึ่งหนึ่ง และส่วนที่เหลือจะแบ่งให้เธอกับทิวเขาคนละครึ่ง เผื่อเธอมีลูกมีเต้าจะได้มีคนสืบทอดกิจการของฉัน”
“ใครบอกว่าผมจะไม่ทำตามที่คุณป้าต้องการล่ะครับ” ทิวเขาทันมาได้ยินว่าผู้เป็นป้าพูดว่าจะยกทรัพย์สินให้ผู้หญิงหน้าเลือดที่นั่งประจบอยู่บนพื้นแทบเท้าของท่าน นั่นทำให้เขาต้องรีบเข้ามาเบรกเอาไว้เสียก่อน
“เราพูดจริงๆ เหรอ” ประโยคนั้นของหลานชายทำให้ธารดีใจเป็นอันมาก
“ผมพูดจริงสิครับ แต่ก่อนหน้านี้ผมขอเวลาคิดคุณป้าลืมไปแล้วเหรอครับ ยังไม่ได้ถามผมสักคำ ทำไมถึงจะยกเลิกล่ะครับ” พูดแล้วมองคนที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ตรงพื้นด้วยดวงตาเฉียบ
“ป้าก็คิดว่าเราจะไม่ยินยอม”
“หรือมีใครฟ้องอะไรคุณป้า”
“ไม่มีใครฟ้องอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ก็ดีครับ งั้นหนึ่งธิดาก็ทำหน้าที่เมียวันนี้เลย” เขาตรงเข้ากระชากแขนของคนที่กำลังนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่กับพื้น
“โอ๊ย!” หนึ่งธิดาร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“ทิวเขา ใจเย็น ๆ หลานไม่ควรทำอะไรรุนแรงกับหนึ่งเขาแบบนี้นะ”
“ผมก็แค่จะพาเขาไปอยู่ด้วยกันที่กระท่อม” พูดจบทิวเขาก็ลากร่างเล็กของหนึ่งธิดาออกไป ธารตกใจแต่ก็ไม่ห้ามปราม คิดว่าทิวเขาคงไม่ทำอะไรหนึ่งธิดารุนแรง อย่างน้อยหนึ่งธิดาก็เป็นผู้หญิง แต่ธารคิดผิด เพราะยิ่งเป็นผู้หญิง ทิวเขายิ่งเกลียดจับใจ
เขาไม่มีที่ระบาย ก็คิดที่จะระบายอารมณ์เอากับหนึ่งธิดา เพราะเธอเสนอหน้าเข้ามาในตอนที่เขากำลังรู้สึกแย่ เข้ามาแสดงธาตุแท้ของผู้หญิงหิวเงิน อยากอุ้มท้องลูกของเขานัก เขาก็จะจัดให้อย่างสาสม
“โอ๊ย! คุณทิวเขา หนึ่งเจ็บนะคะ” เธอร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนเขาผลักเข้ามาในกระท่อมจนร่างเซล้มลงกับพื้นกระท่อมไม่เป็นท่า
“ปั๊มลูกกัน” คนห่าม ๆ ทำเอาเธออ้าปากค้างตาโต
“คุณทิวเขา คุณพูดอะไรคะนี่”
“ก็คุณป้าบอกให้มีลูก เราก็มีลูกให้ท่านกัน นี่ฉันช่วยเธอหาเงินแล้วไง”
“ไม่นะคะ” หนึ่งธิดากรีดร้องสุดเสียง แต่ทิวเขาไม่ได้สนใจ เขากดร่างเธอไปบนเตียงกว้าง ก่อนจะซุกหน้าเข้าไปหา
เธอตัวสั่น พยายามดิ้น มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ถ้าเขายังไม่พร้อมและเธอยังไม่เต็มใจ ก็ควรที่จะคุยกันด้วยดี ธารเองก็ไม่ได้บังคับเขาหรือบังคับเธอ ท่านแค่เสนอตามประสาคนป่วยที่อยากอุ้มหลานสักคนเท่านั้น
ดูเหมือนว่าความคิดมากมายในหัวของเธอจะถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว
แคว่ก! เสียงเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นทำให้เธอกรีดร้องสุดเสียง แต่เขาตะปบปิดปากของเธอเอาไว้
“เธอจะกรีดร้องให้คนในไร่แห่กันมาดูเหรอว่าเราทำอะไรกันอยู่” ประโยคของเขาทำให้เธอส่ายหน้าไปมา คนป่าเถื่อนเช่นเขาไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ ๆ หนึ่งธิดาหัวใจเต้นรัวเร็ว เธอพยายามหาทางเอาตัวรอด แต่คิดจนสมองแทบแตกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าหนีไม่รอดก็ต้องพูดให้เขาใจเย็นลงกว่านี้ เธอไม่อยากโดนเขาข่มขืนในวันแรกของการตกเป็นเมียเขาหรอกนะ
เมื่อเธอสงบลงเขาก็ปล่อยมือจากปากน้อยของเธอ
“ถ้าหนึ่งยอมคุณ คุณจะไม่ทำรุนแรงใช่ไหมคะ” ประโยคต่อรองของเธอ ทำให้ทิวเขาหัวเราะลั่นกระท่อม เขามองเธออย่างเหยียดหยาม นั่นทำให้หนึ่งธิดาหน้าชา
“คุณหัวเราะอะไรคะ”
“ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ แกล้งทำเป็นดีดดิ้นไม่อยาก แต่สุดท้ายเธอก็อยากให้ฉันเอา จะได้มีลูก จะได้ท้อง จะได้ฮุบสมบัติของคุณป้า”
“หนึ่งไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะคะ”
“อย่ามาโกหกหน้าตาย ฉันเคยเห็นผู้หญิงโกหกหน้าตายแบบเธอมาแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะว่าเธอใช่เล่ห์เหลี่ยมออดอ้อนขอทรัพย์สินของคุณป้าครึ่งหนึ่งหลังจากยกให้การกุศล ฉันเป็นหลานชายของท่านทั้งคน แต่คุณป้าคิดจะยกสมบัติให้การกุศล ยกสมบัติให้เธอ เป็นเรื่องตลกสิ้นดี” เขาหัวเราะออกมา ทำให้หนึ่งธิดาหน้าชาหนักกว่าเดิม
“หนึ่งไม่เคย”
“เลิกโกหกแล้วมาทำลูกกันให้สมใจเธอกับคุณป้าจะดีกว่า แต่อย่าหวังเลยนะว่าฉันมีลูก ฉันจะให้เธอแตะต้องลูกอีก ลูกของฉันจะต้องไม่มีแม่หิวเงินอย่างเธอ” เขาซุกใบหน้าเข้ามาใหม่ หนึ่งธิดาเลิกดิ้น เพราะเธอช็อกไปเลยที่เขามีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว รู้สึกเสียใจที่เขาคิดว่าเธอหน้าเงินขนาดนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าธารเสนอเงินให้เธอห้าล้านบาท แต่เธอไม่เคยอยากได้ทรัพย์สมบัติของเขาเลย
“นอนแข็งเหมือนท่อนไม้ ความจริงผู้หญิงอย่างเธอก็น่าจะผ่านผู้ชายมาเยอะแล้ว งัดกลเม็ดเด็ดพลายหรือลีลาขั้นเทพออกมาใช้สิ” เขายังสาดประโยคคำพูดอันเจ็บแสบใส่เธอ หนึ่งธิดาปวดแปลบในใจ เมื่อเธอไม่มีอะไรดีสำหรับเขาเลย
“แต่ก็ไม่เป็นไร เอา ๆ กันให้จบ ยังดีที่คุณป้าหาลูกสาวคนงานให้ ไม่ใช่กระหรี่ซ่องไหน”
หนึ่งธิดาหลับตาน้ำตาซึม ยอมให้เขาย่ำยีเอาแต่ใจ ผ่านคืนนี้ไปก็จบสิ้น เธอท้องเมื่อไหร่ก็ถือว่าหมดสิ้นภาระหน้าที่ที่ธารมอบหมายให้ เธอมั่นใจว่าธารจะดูแลลูกของเธอได้เป็นอย่างดี ท่านไม่ได้หวงห้ามหากเธอจะมาเยี่ยมลูก ถึงเวลานั้นเธอจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
“โอ๊ย!” เธอร้องเมื่อโดนคมฟันขาวกัดเข้าเต็ม ๆ น้ำตาของเธอไม่ได้ช่วยอะไร เขาไม่ใจอ่อนและไม่ได้แยแสว่าเธอจะรู้สึกเช่นไร
เรียวขาเพรียวถูกแยกออกจากกัน ขาของเธอสั่นระริก ร่างกายสั่นเทาราวลูกนก หนึ่งธิดายอมรับว่าหวาดกลัวสุดใจ เธอกัดฟันข่มกลั้นความเจ็บปวดเมื่อเขากดกายลงมาหา
ไร้การเล้าโลม ไร้ความเสน่หา เธอเป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์ทางเพศของเขาเพื่อผลิตลูกเท่านั้น
แว็บหนึ่งในหัวกับคำว่าบุญคุณค้ำหัวและผู้มีพระคุณที่กำลังป่วยหนักกำลังจะตาย เธอก็ไม่อยากรับงานนี้ ความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาทำให้เธอจิกมือเข้าหากันจนเจ็บ กัดปากจนห้อเลือด
ดูเหมือนทิวเขาเองก็จะชะงักไป เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวที่ยอมเสนอตัวอุ้มท้องลูกให้เขาจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ แต่นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธ
“คิดว่าจะเอาความสาวสดของเธอมาจับฉันอย่างนั้นเหรอ ไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน เพราะคนอย่างฉันไม่มีทางใจอ่อนให้กับผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธอ คิดว่าตัวเองยังเวอร์จิ้นอยู่เลยจะเรียกร้องให้มากขึ้น ยอมทุ่มมอบพรหมจรรย์ให้ฉันเพราะหวังสูงมากกว่าอุ้มท้องลูกของฉันให้คุณป้าใช่ไหม” เขาคิดไปอีกทาง ใจของเขามืดบอดยิ่งกว่าอีกา หนึ่งธิดาจุกจนเจ็บ ไม่คิดว่าเขาจะมีความคิดเช่นนี้