พลอยไพลินตักข้าวใส่จานพร้อมกับหมูผัดกิมจิฝีมือของเธอวางไว้บนโต๊ะอาหารตรงระเบียงหน้าบ้าน พ่อเลี้ยงอติเดินมายืนดูที่โต๊ะใช้ช้อนเขี่ยอาหารดูก่อนจะตักชิม
"อร่อยแหะ..."
เขาเผลอชมออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโต๊ะ ชายหนุ่มตักกินอาหารอยู่หลายคำไม่พูดอะไรเพราะว่าหิวมากไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน
"พลอยไพลินเดินไปตักน้ำเย็นให้เขาวางลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มสดใส
"อร่อยป่ะ"
"เฉยๆไม่เท่าไหร่ นี่ถ้าไม่หิวนะไม่กินหรอกไม่เห็นอร่อยตรงไหน"
เขาพูดออกมาก่อนจะตักกินอีกคำ พลอยไพลินที่ได้ยินแบบนั้นก็เดินไปแย่งช้อนออกจากมือของเขาก่อนจะถือจานหมูกิมจิไปเทลงในถังขยะทั้งหมด ชายหนุ่มอ้าปากค้างด้วยความตกใจลุกขึ้นโวยวายหญิงสาวทันที
"อะไรของเธอเนี่ยยัยเด็กบ้า เอาไปทิ้งทำไม"
"ไม่อร่อยก็ไม่ต้องกินค่ะ"
"เสียของหมดรวยนักเหรอเธออ่ะ"
เขาเดินมาบีบข้อมือหญิงสาวด้วยอารมณ์โกรธ เธอง้างมือเตรียมจะตบเขาคืนแต่ครั้งนี้ชายหนุ่มรู้ทันจึงหลบได้ทันเวลา
"แสบนักนะมานี่"
เขาลากเธอออกมาจากในบ้านเดินเข้ามาในไร่โดยที่เธอพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมแต่ไม่เป็นผลเลยเขาแรงเยอะมาก
"ปล่อยนะ!"
"แสบนักนะฤทธิ์เยอะสุดๆ"
เขาลากเธอมาถึงแปลงปลูกผักปล่อยมือเธออย่างแรงจนหญิงสาวเซถอยหลังล้มลงพื้น
"โอ๊ย!เจ็บนะ"
พลอยไพลินโวยวายออกมาก่อนจะหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างหาเรื่อง เขาขยับเข้ามาใกล้บีบคางเธออย่างแรงก่อนจะเอ่ยเสียงขู่
"ทำงานอยู่ที่นี่แหละอยู่ในบ้านก็สร้างแต่ปัญหา!"
"ฉันไม่ทำหรอกทำไมต้องทำ"
"ถ้าไม่ทำไม่ต้องกินข้าว! ลุงชานสอนงานเด็กมันหน่อยและถ้าวันนี้ไม่เสร็จอย่าหวังว่าจะได้กลับไปนอนอย่างสบายใจเลย"
พูดจบเขาก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวอ้าปากค้างมองตามเขาไปด้วยความมึนงงมองไปโดยรอบที่มีแต่แปลงผักก็รู้สึกขยาดเข่าอ่อนถึงกับทรุดลงกับพื้น
"ฉันมาทำอะไรที่นี่ กรี๊ดดดดด"
ลุงชานเอามือปิดหูแทบไม่ทันก่อนจะเดินมานั่งลงตรงหน้าหญิงสาวพร้อมกับอุปกรณ์ปลูกผักในมือ หญิงสาวกระพริบตาปริบมองคุณลุงก่อนจะยิ้มออกมา
"คุณลุงอะไรเหรอคะ"
"อุปกรณ์ปลูกผักไงหนู ลองทำมั้ยสนุกนะ"
"สนุกเหรอคะ... เอาสิ"
เธอจับอุปกรณ์ตรงหน้าก่อนจะมองตามลุงชายที่ปลูกผักด้วยความชำนาญ เธอทำตามเขาบ้างและถามเป็นพักเมื่อไม่รู้ขั้นตอนในการทำ
พ่อเลี้ยงอติที่หัวเสียกับหญิงสาวก็กลับมาที่บ้านใหญ่ ชาริที่กำลังจัดโต๊ะอาหารเห็นพ่อเลี้ยงก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
"พี่อติเมื่อวานหายไปไหนคะอยู่ๆก็ลุกออกไป"
"มีธุระนิดหน่อยนะ ทำอะไรอยู่เหรอเรา"
"ทำอาหารค่ะพี่อติ ลองชิมดูมั้ยคะชาริกำลังฝึกทำอาหารจะได้ทำรอพี่อติเวลากลับจากทำงาน"
เขามองน้องสาวก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ปกติหน้าที่เตรียมอาหารจะเป็นของชาดา ถึงเธอจะทำอาหารไม่ได้อร่อยมากมายอะไรแต่เขาก็กินทุกมื้อที่เธอตั้งใจทำ พาลนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่ทำอาหารอร่อยมากแต่ไม่รู้คุณค่าเททิ้งอย่างไม่เสียดายพูดแล้วก็โมโห
"เอาสิลองดูก็ได้"
"นั่งเลยค่ะ"
เธอพาพ่อเลี้ยงอติมานั่งลงที่โต๊ะอาหารตักข้าวใส่จานให้ก่อนจะลุ้นให้เขาลองชิมดู ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติไม่คงที่และคงต้องฝึกอีกพักใหญ่กว่าจะดีขึ้น
"เค็มไปหน่อยแต่พี่กินได้นะ"
"งั้นไม่ต้องกินก็ได้นะคะพี่อติ ชาริให้แม่บ้านทำให้ใหม่ดีมั้ยคะ"
"ไม่ต้องๆพี่กินได้"
เขาตักกับข้าวตรงหน้ากินต่อเพราะไม่อยากให้น้องสาวรู้สึกไม่ดีเสียชาดาไปคนหนึ่งแล้วเขาไม่อยากให้ชาริรู้สึกแย่อีก ชาริยิ้มออกมาอย่างดีใจและมีความตั้งใจที่จะไปเรียนทำอาหารอย่างจริงจังจะได้ทำอาหารให้เขาก็ในทุกวัน
ทางด้านของพลอยไพลินหญิงสาวนั่งปาดเหงื่อเพราะใช้แรงไปเยอะก็เลยรู้สึกร้อนมาก เธอช่วยลุงชานปลูกผักเป็นแปลงมันเยอะมากและต้องใช้เวลาพอสมควร
"ลุงคะเมื่อไหร่มันจะเสร็จ"
"ทำไปเรื่อยๆจ้ะหนูไม่ต้องรีบ วันนี้ไม่เสร็จพรุ่งนี้ก็มาทำต่ออีกไม่เป็นไรเลย"
"แต่หมอนั่นบอกว่าถ้าหนูปลูกไม่เสร็จจะไม่ได้กินข้าวนะคะ"
เธอเอ่ยออกมาอย่างใสซื่อ คุณลุงยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบแซนวิชที่ซื้อมาเมื่อเช้าสองอันส่งไปให้พลอยไพลินอันหนึ่ง
"อ่ะแบ่งกันกินคนละอัน"
"ให้หนูเหรอคะขอบคุณค่ะ"
พลอยไพลินยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะแกะกินแซนวิชด้วยความเอร็ดอร่อย ไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อวานหิวมากทำข้าวก็ไม่ได้กินรู้สึกแย่ชะมัดที่ต้องมาอยู่ที่นี่และถูกหมอนั่นกลั่งแกล้งไม่หยุด
"อร่อยจังเลยค่ะลุง"
"อร่อยก็กินให้หมดเดี๋ยวลุงเอาน้ำเย็นมาให้"
"ขอบคุณค่ะ"
เธอกัดแซนวิชกินก่อนจะมองไปโดยรอบด้วยความสังเกต ไร่ที่นี่ไกลสุดลูกหูลูกตามองไม่เห็นทางออกเลยไม่รู้ว่าพื้นที่กี่ไร่ถึงได้กว้างขนาดนี้
หญิงสาวนั่งลงใต้ต้นไม้ใบหน้าสวยสลดลงเมื่อนึกถึงคุณพ่อคุณแม่ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับก็เผลอน้ำตาซึม
"หนูคิดถึงพ่อกับแม่จังเลย ฮึก!"
เสียงสะอื้นของเธอได้ยินไปถึงผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เพิ่งลงจากรถมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะไปในบ้าน เดินทางกลับมาจากต่างประเทศกลับมาเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของลูกที่เสียคนรักไปจึงอยากจะมาดูว่าเข้มแข็งพอที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้หรือไม่ เธอเชื่อว่าลูกชายเก่งและจะไม่เสียใจนาน เธอได้ยินเสียงสะอื้นก็เดินตามหาเสียงก่อนจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ ใบหน้าสวยเปื้อนคราบน้ำตาทำเอาเธออดสงสารไม่ได้ ท่านเดินเข้าใกล้ก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงสดใส
"แม่หนูร้องไห้ทำไมจ๊ะ"
พลอยไพลินรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะหันไปมองตามเสียง เธอมองหน้าผู้ใหญ่ตรงหน้าก่อนจะฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย
"เปล่าค่ะหนูแค่คิดถึงบ้าน"
"แล้วมาทำอะไรตรงนี้มันร้อนนะ"
"ก็ไอ้เจ้าไร่ที่นี่สิคะมันบังคับให้หนูมาปลูกผัก ดูมือหนูสิคะเละหมดแล้วค่ะ"
หญิงสาวได้ทีก็เอาใหญ่ระบายอารมณ์ไม่สนว่าใครเป็นใครเพราะเธอรู้สึกแบบนั้นจึงพูดออกไป ท่านเดินมานั่งลงข้างหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้เพราะไอ้เจ้าของไร่ที่ว่าเขาคือลูกชายของเธอเอง
"แล้วทำไมต้องบังคับหนูมาปลูกผักด้วยล่ะ"
"หมอนั่นบอกว่าพ่อแม่ของพลอยไปชนแฟนเค้าเสียชีวิตค่ะก็เลยจับหนูมาแก้แค้นทั้งที่หนูเองไม่เกี่ยวอะไรเลย ฮึก! ดูเขาสิคะเสียแฟนแต่ยังมีคนเคียงข้างส่วนหนูมีแค่พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่มีหนูต่างหากที่ต้องโกรธเขามากกว่า ไอ้ผู้ชายเลวไอ้คนเฮงซวย ไอ้คนไม่มีหัวใจหนูเกลียดหมอนั่นค่ะ ฮืออออ"
คุณหญิงของไร่ถึงกับอึ้งอย่างพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าลูกชายตัวดีทำงามหน้าจับหนูคนนี้มาแก้แค้นเพื่อระบายอารมณ์ความเจ็บปวด เธอคิดว่าเขาจะทำใจได้แล้วซะอีกแต่ไม่คิดว่าจะทำเรื่องเลยร้ายขนาดนี้
"โธ่ลูก... แล้วหนูจะอยู่ยังไง"
"ฮือออ ไม่รู้ค่ะพ่อแม่ไม่อยู่แล้วแฟนก็ไม่มีคงต้องอยู่คนเดียวค่ะ ฮึก! ชีวิตมันเศร้านะคะเสียพ่อกับแม่แล้วยังต้องมาซวยโดนไอ้เจ้าไร่บ้านี่จับตัวมาทรมานอีก ข้าวก็ไม่ได้กินตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะคุณป้าช่วยพาหนูออกไปจากที่นี่ได้มั้ยคะเดี๋ยวหนูให้เงินค่าจ้างค่ะ"
เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากคุณป้าตรงหน้าดูจากการแต่งตัวดูเป็นผู้ดีน่าจะสามารถช่วยเธอให้หนีออกจากที่นี่ได้ และถ้าเธอออกจากที่นี่ได้เมื่อไหร่จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย...
"แล้วหนูจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ"
"ให้ออกจากที่นี่ได้ก็พอแล้วค่ะเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาเลย"
"งั้นหนูไปกับป้านะ เดี๋ยวเรื่องนี้ป้าจัดการเอง"
พลอยไพลินได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาแล้ว บางทีคุณป้าคนนี้อาจจะพาเธอออกจากที่นี่ได้
"จะพาหนูออกไปจากที่นี่เหรอคะ! พะ...พูดจริงนะคะ"
"ตามมาซิ"
"ได้ค่ะไปค่ะ"