ตอนที่ 1-2

2037 Words
“เออว่ะ คอนโดก็ยึด บัตรเครดิตก็โดนจำกัดวงเงิน แต่ทีกับไอ้ปาร์คล่ะใจดี ขนาดวันก่อนยังมีสาวๆเอาดอกไม้กับขนมมาส่งให้มันถึงหน้าบ้านเลยนะ ไม่เห็นป้าจะว่าเลย หรือว่าผมต้องไปเรียนหมอแบบไอ้ปาร์คมันดี ป้าถึงจะใจดีกับหลานๆอย่างพวกผมบ้าง สาวๆตามมันเป็นพรวนไม่โดนว่าสักคำ” ปริญเอ่ยเสริมน้องชายออกไปบ้าง เพราะตั้งแต่น้องชายคนสุดท้องไปเข้ามหาลัย ประตูหน้าบ้านก็ไม่เคยแห้งเลย เพราะมีของมาส่งให้ทุกวันจากบรรดาสาวๆที่มาแอบชอบน้องชายของเขา “เดี๋ยวเถอะ อย่ามาพูดแบบนี้นะ ป้าน่ะรักหลานทุกคนเท่าๆกัน แต่ที่ป้าไม่ว่าตาปาร์คก็เพราะว่ามันไม่ได้เล่นความรู้สึกกับสาวๆพวกนั้นไง แถมยังไล่ปฎิเสธสาวๆพวกนั้นด้วยซ้ำ แต่กับพวกแกเนี่ย เอาไม่เลือก สักวันเถอะจะไปไข่ทิ้งไว้จนเขามาเอาเรื่อง” กันติมาเอ่ยพูดบอกไปอย่างมีเหตุผลที่สุด “แต่ถึงสาวๆจะตามมัน ผมก็ยังไม่เคยเห็นไอ้ปาร์คมันมีแฟนเลยนะป้า นี่มันเรียนมาจนอยู่ปีสามแล้วนะ ผมยังไม่เห็นแฟนมันเลยสักคน ผมกับพี่ปาล์มเข้าปีหนึ่งก็พาแฟนมาบ้านแล้ว แต่ไอ้ปาร์คนี่มันแปลก มันปฎิเสธสาวๆไม่พอนะ นี่มันยังสำอางอีก ผมก็หวังว่ามันจะไม่ใช่เกย์ก็แล้วกัน” ปติภพเอ่ยพูดไปแบบแกล้งๆผู้เป็นป้า เพราะน้องชายของเขามันก็สำอางอย่างกับอะไร แต่เขาก็พอมั่นใจว่าน้องชายของเขาไม่ได้เป็นเกย์อย่างแน่นอน ไม่งั้นมันก็คงไม่แอบมีหนังสือโป๊อยู่ในห้องหรอก  “ดูพูดเข้าสิตาเปรม น้องแกจะเป็นเกย์ได้ยังไงกัน ตาปาร์คพึ่งอายุแค่ยี่สิบเอ็ดเท่านั้นเอง ไม่ได้แก่แดดแบบเราสองคนสักหน่อยที่เอาสาวๆเป็นว่าเล่นน่ะ  ไม่เอา อย่ามาพูดว่าน้องแบบนี้อีกนะ ป้าไม่ชอบเลย ถ้าพ่อแม่แกรู้เข้ามาด่าป้าตายแน่ๆ” กันติมาพูดเอ็ดหลานชายไปอย่างไม่พอใจ เพราะหลานเธอจะต้องไม่ใช่เกย์ เธออุตส่าห์เลี้ยงปากรณ์มาตั้งแต่แบเบาะ มันจะต้องไม่เป็นอย่างนั้น “ก็ไม่แน่นะป้า ถ้าขืนไอ้ปาร์คมันยังไม่มีแฟนแบบนี้ ป้าเตรียมใจไว้เลย ว่าไอ้ปาร์คเป็นเกย์แน่นอน ฮ่าๆ” ปริญเอ่ยเสริมออกไปอย่างแกล้งๆ เพราะเอาจริงๆแล้วคนอย่างปากรณ์มันไม่มีทางเป็นเกย์ได้หรอก ไม่งั้นเขากับปติภพคงไม่ไปเจอหนังสือโป๊ในห้องมันหรอก แถมเขายังเอาข้ออ้างนี้ไปขอยืมห้องน้องชายเพื่อที่จะพาสาวๆไปเริงรักที่คอนโดมันมาเป็นเดือนๆได้หรอก “รอดูไปเถอะ ตาปาร์คจะเอาแฟนมาให้แกสองคนดูเข้าสักวัน วันนั้นแหละ ป้าจะหัวเราะให้ฟันล่วงเลย” กันติมาพูดไปแบบงอนหลานชายทั้งสอง เพราะขี้แกล้งน้องมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้ก็ยังคงไม่วายจะแกล้งอยู่ “หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายนะป้า ฮ่าๆ” ปติภพเอ่ยเสริมไปก็หัวเราะแบบขำๆ เพราะเขาแค่พูดแซวเล่นเท่านั้น หรือต่อให้น้องชายของเขามันจะเป็นหรือไม่เป็น มันก็ยังเป็นน้องชายที่เขารักคนเดิมนั่นแหละ “หัวเราะไปเถอะ งั้นป้าก็จะบอกข่าวร้ายให้แกสองคนฟัง ป้าห้ามพวกแกห้ามเอาผู้หญิงไปนอนห้องน้องอีกเด็ดขาด ถ้าใครขัดคำสั่ง ป้าจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับพวกแกให้หมดเลย ไม่เชื่อก็ลองดูสิ อยากจะเล่นๆกับผู้หญิงดีนัก ป้าก็จะจัดให้” กันติมาพูดขู่ออกไปจนหลานทั้งสองทำหน้าจ๋อยลงทันที “ครับๆ คุณป้า พวกผมสองคนไม่พาไปแล้วก็ได้ครับ อย่ามาหาเมียให้พวกผมก็พอ” ปริญเอ่ยพูดบอกไปก็ทำหน้ายิ้มแบบกวนๆใส่ผู้เป็นป้า ส่วนปติภพเองก็ยิ้มออกไปไม่ต่างจากพี่ชายเท่าไหร่นัก สงสัยเขาต้องเร่งกลับไปเรียนต่อซะแล้วสิ ดูท่าอยู่ไทยมันจะไม่สนุกซะแล้ว ณ วันรับน้องปีหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังในกรุงเทพมหานคร “นรินดา” สาวใต้หน้าคมก็ถอนหายใจยาวๆกับการมาเรียนที่นี่ เพราะเธอต้องมาเข้าสังคมกับพวกลูกไฮโซทั้งหลายที่มาเรียนกันที่นี่ เพื่อเชิดหน้าชูหน้าตาให้พ่อแม่ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกแม่สุดที่รักบังคับให้มาเรียนในกรุงเทพ เพื่อที่จะทำให้เศรษฐีบ้านนอกอย่างเธอกลายเป็นสาวเมืองกรุงอย่างสมบูรณ์แบบ แถมเธอยังมีหน้าที่คอยช่วยดูแลร้านจิวเวอร์รี่ของที่บ้านที่มาเปิดสาขาในกรุงเทพอีก ไหนจะไอ้พี่ชายจอมขี้บ่นของเธอ มันจึงทำให้เธอไม่มีทางปฎิเสธได้เลย เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องสานต่อมันจากพ่อและแม่ของตัวเอง แทนพี่ชายที่เลือกบริหารงานบริษัทมากกว่าทำฟาร์มไข่มุกและร้านจิวเวอร์รี่ “พี่คะ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ไปทางไหนเหรอคะ พอดีหนูเรียนหลักสูตรนานาชาติน่ะค่ะ ก็เลยไม่รู้จะไปทางไหนดี” สาวผมยาวหน้าสวยเดินเข้ามาพูดกับนรินดา พร้อมกับใบหน้างงๆ จนนรินดามองแล้วถอนหายใจทันที “เฮ้อ นี่ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันก็เด็กปีหนึ่งเหมือนๆเธอนั่นแหละ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่หรอก” นรินดาเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัยว่าหน้าเธอมันแก่มากเหรอ ถึงได้มาเรียกเธอว่าพี่แบบนี้ ทั้งๆที่เธอออกจะสวยและหน้าเด็ก “ปะ เปล่าๆ เราแค่ไม่รู้ว่าจะทักยังไงดี เราพึ่งเข้ามาเรียนในกรุงเทพน่ะก็เลยยังไม่รู้จักใคร แล้วก็ยังไม่มีเพื่อนด้วย เราชื่อสายหมอกนะ มาจากเชียงราย แล้วเธอชื่ออะไรอ่ะ” สายหมอกรีบเอ่ยแนะนำตัวทันทีที่เห็นหญิงสาวสวยตรงหน้าตอบกลับมาแบบเป็นกันเอง ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ดูเย่อยิ่งไล่เธอให้ออกมา เพียงเพราะเธอเป็นเด็กต่างจังหวัด “เราชื่อไวน์ มาจากภูเก็ต ถ้าเธอยังไม่มีเพื่อนก็มาเป็นเพื่อนกับเราก็ได้ เราก็ยังไม่มีเพื่อนที่นี่เหมือนกัน แต่ขออย่างน่ะพูดแบบเป็นกันเองเถอะ แกก็ได้นะ เราไม่ว่า” นรินดาพูดบอกไปก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ได้เลย เราก็ไม่ชินเหมือนกัน พูดเป็นกันเองจะได้สนิทกันไวๆเนอะ งั้นเราเรียกเธอว่าไวน์ ส่วนเธอก็เรียกเราว่าหมอก โอเคไหม” สายหมอกพูดก็ยิ้มที่ได้เพื่อนคนแรกแล้ว “โอเคสิ งั้นเดี๋ยวไวน์จะพาหมอกไปที่คณะละกันนะ เพราะไวน์ก็เรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์เหมือนกัน แต่ไวน์เรียนออกแบบเครื่องประดับน่ะ” นรินดาเอ่ยพูดบอกไปก่อนจะพาเพื่อนสาวคนแรกของเธอ เดินไปยังคณะที่พวกเธอเรียน “เห้ยจริงดิ เราเรียนออกแบบพวกผลิตภัณฑ์น่ะ งั้นช่วงปีหนึ่งปีสองเราต้องได้เจอกันแน่เลย” สายหมอกพูดออกไปอย่างดีใจ ถึงแม้จะเรียนกันคนละสาขา แต่เธอก็หวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกันแบบนี้ต่อไป “คงเจอแหละมั้ง แต่ตอนนี้ไวน์ว่าเราหยุดคุยแล้วรีบไปลงทะเบียนดีกว่า ไปสายเดี๋ยวก็โดนลงโทษอ่ะ” นรินดาเอ่ยพูดบอกไปก็รีบพากันเดินไปยังคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัย พอทั้งสองมาถึงก็รีบลงทะเบียนแล้วไปนั่งรวมแถวกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะให้ออกไปแนะนะตัว และให้ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มละสี่คนเพื่อทำความรู้จักกัน แล้วพวกลูกคุณไฮโซก็ไปเกาะกลุ่มเพื่อนที่ตามๆมาเรียนด้วยกัน ส่วนนรินดาและสายหมอกก็ได้เพื่อนใหม่ผู้หญิงหนึ่งคนและก็มีผู้ชายอีกหนึ่งคน “ทำไมที่นี่มันต้องแบ่งพรรคแบ่งพวกด้วยอ่ะ แค่เริ่มก็รู้แล้วว่าที่นี่ต้องอยู่ยากแน่ๆ” สายหมอกพูดออกมาขณะใช้สายตามองไปยังเพื่อนๆกลุ่มอื่นๆ ที่พูดคุยกันแล้วก็หัวเราะแบบไม่เกร็งใจใคร “อืม ฉันก็ว่างั้นแหละ แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกเหมือนสายตารังสีไม่เป็นมิตรยังไงไม่รู้อ่ะ โดยเฉพาะยัยนั่นอ่ะ มองหน้าฉันบ่อยมากอ่ะ ” นรินดาเอ่ยพูดตอบเพื่อนออกไป แล้วมองดูเพื่อนๆรอบข้างเช่นกัน จนไปเจอสายตาของคนที่ห้อยป้ายชื่อว่าเบียร์ มองเธอแบบเหมือนกับว่าเธอเป็นศัตรูอย่างนั้นแหละ “ก็เธอสวยขนาดนี้มันก็ต้องเสี่ยงที่เธอจะไปแย่งตำแหน่งดาวคณะของเบียร์ไง ยัยนี่น่ะ ชอบทำตัวเด่นตั้งแต่เรียนมัธยมละ ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆยังไม่ชอบเลย เรื่องเยอะชิบ เธอมาลุคธรรมดาบ้านๆแต่ยังสวยขนาดนี้ถ้าจับแต่งตัวหน่อยล่ะก็กินขาดเลยแน่นอน” โดนัทพูดไปก็ยิ้มกริ่มใส่นรินดาที่สวยที่สุดในกลุ่มนี้ไปด้วยสายตาแพรวพราว ที่เขาเลือกมานั่งในกลุ่มนี้เพราะดูแล้วแต่ล่ะคนไม่ค่อยเรื่องเยอะเท่าไหร่ อีกอย่างเขาไม่ชอบพวกที่มันมาอวดรวยด้วย ยกเว้นตัวเขาเอง “แล้วพวกเราจะมีเพื่อนคนอื่นๆคบไหมอ่ะ ”นาราพูดไปก็ถามแบบสงสัย เพราะดูเหมือนเพื่อนๆที่นี่จะดูแบ่งพรรคพวกกัน “มีสิ ฉันนี่ไง อยู่ยากแต่ถ้ามีเพื่อนอย่างฉัน รับรองเลยว่าพวกเราอยู่ได้แน่ๆ ถึงพวกเธอจะไม่ใช่ลูกไฮโซอ่ะนะ แต่พวกเธอก็เป็นเศรษฐีภูธร จะกลัวอะไรล่ะ เพื่อนฉันมีเยอะแยะ คนดีๆทั้งนั้น แต่ไอ้แก้งค์นั้นน่ะ ไม่ต้องหวังเป็นเพื่อนด้วยหรอก ไม่มีทางคบพวกเธอสามคนแน่ๆ คบกับโดนัท เดี๋ยวก็มีเพื่อนตรึมรับรอง” โดนัทพูดออกไปก็ยิ้มแบบชอบใจ เพราะเขาคิดว่าสามสาวกลุ่มนี้น่าจะพอคบได้ “งั้นพวกเรามาเป็นเพื่อนกัน มาสัญญากันหน่อย” นรินดาเอ่ยพูดแล้วเอามือไปกางไปตรงกลาง แล้วเพื่อนๆทั้งสามคนก็เอามือมาทับมือซ้อนกันอีกทีเป็นการสัญญาจนกระทั่งรุ่นพี่เอ่ยขึ้นมา “เอาล่ะน้องๆทุกคนมารับโน๊ตจากพี่รหัสที่ใบ้มาให้นะครับ พี่ให้เวลาสองชั่วโมง น้องๆต้องไปหาพี่รหัสให้เจอ ไม่งั้นสีบนหน้า พี่ก็จะไม่ให้ล้างนะครับ” รุ่นพี่เอ่ยขึ้นมาทุกคนก็รีบไปรับโน๊ตมา พร้อมกับตามหาพี่รหัสของตัวเองกันไปทั่วคณะ “ไอ้ธาม น้องรหัสแกน่ารักนิวะ แบบนี้แกคงไม่คิดจะเคลมน้องรหัสตัวเองหรอกนะโว๊ย” วีรภาพเอ่ยแซวไปเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนหนุ่มมองไปที่น้องรหัสของตัวเอง ด้วยสายตาที่แปลกไป แถมคนเจ้าชู้อย่างมันก็ยากที่จะไม่ให้เขาคิดแบบนี้ “มันก็ต้องดูก่อนว่าน้องเขานิสัยแบบไหน” ธีรภัทรเอ่ยพูดไปก็มองเด็กสาวที่ห้อยป้ายชื่อว่าไวน์ แบบไม่ละสายตา เพราะเธอไล่ตามหาเขาจนโดนเพื่อนๆของเขาป้ายสีเต็มใบหน้า จนไม่เห็นเคล้าโครงความสวยหลงเหลืออยู่ เห็นแล้วก็รู้สึกขำจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD