ตอนที่ 4 ยอมจำนน (3)

2684 Words
บราเซียตัวน้อยถูกถอดทิ้งไว้ข้างเตียงเผยให้เห็นอกอวบอูมขาวเนียน ที่ยามต้องกับแสงจันทร์ข้างนอกมันยิ่งขับให้ผิวกายนั้นน่าหลงใหลแม้ว่าหญิงสาวจะใช้มือเล็กๆนั้นปกปิดเอาไว้ก็ตาม ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัวบัดนี้ไฟในตัวของเขาลุกโชนยากที่จะดับได้อีกแล้ว “อ้ะ” หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อมือหนาเข้ามาตวัดเอวเธอให้ล้มลงก่อนที่ตัวเขาจะทาบทับเข้ามาด้วยความรวดเร็ว อารมณ์ปรารถนาในตัวเดือดพล่านทำให้ชายหนุ่มอดใจรอให้หญิงสาวเริ่มเกมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ภัทรรินก้มลงจูบลงบนริมฝีปากบางที่กำลังเผยอขึ้นด้วยความตกใจทำให้ชายหนุ่มรุกล้ำเข้าไปควานหาความหอมหวานข้างในได้อย่างง่ายดาย ความรู้สึกแปลกใหม่เริ่มเข้ามาแทนที่อีกครั้งจนหญิงสาวเผลอจูบตอบโดยไม่รู้ตัว ทำให้ร่างสูงข้างบนพอใจอยู่ไม่น้อย เขาค่อยๆถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะจูบไล้ลงไปบนคอขาวระหงเรื่อยลงมาจนถึงอกอวบอิ่มคู่งามที่แต่งแต้มด้วยยอดสีชมพูอ่อนระเรื่อซึ่งเขาได้เคยลิ้มรสไปแล้วสองครั้งกำลังเบ่งบานตอบรับกับสัมผัสของเขาอย่างท้าทาย ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจพร้อมกับก้มลงจาบจ้วงอย่างหิวกระหายจนร่างบางบิดสะท้านด้วยความวาบหวิว “อืออออ” เสียงครางเบาๆจากคนใต้ร่างทำให้เลือดในกายเขาฮึกเหิมยิ่งนัก เขาดูดดื่มเธออย่างร้อนแรงและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ย้ายจากอีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้าง จนร่างงามเกิดรอยแดงขึ้นจากการสัมผัสนั้น หญิงสาวได้แต่ครางเสียงกระเส่ากับความรู้สึกแปลกใหม่ที่คนใจร้ายกำลังมอบให้ มือหนาค่อยๆเคลื่อนไปตามผิวกายของร่างงาม ก่อนจะออกแรงดึงทึ้งกางเกงขาสั้นพร้อมกับชั้นในอีกตัวออกไปพร้อมกันอย่างขัดใจ ทำให้หญิงสาวสะดุ้งโหยงรีบถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก ที่ร่างกายตัวเองไม่มีอาภรณ์ปกปิดอยู่แม้แต่ชิ้นเดียว “กรี๊ดด ไม่นะ ปล่อย ฉัน” ทันทีที่สติกับคืนมา มือน้อยๆพยายามป้องกันตัวเองอย่างถึงที่สุด ร่างบางถอยกรูดไปจนแผ่นหลังชิดกับขอบเตียงโดยมีร่างสูงทามทับมาติดๆ “เธอไม่ขัดใจฉัน ดีที่สุด….มัฑนา” ชายหนุ่มใช้มือแค่ข้างเดียวตวัดร่างคนตัวเล็กให้ลงมานอนที่เดิมอย่างง่ายดาย บางอย่างในตัวมันกำลังบอกเขาว่าจะหยุดตอนนี้ไม่ได้อีกแล้ว “ได้โปรด ปล่อยฉันไป อื้อออ…..” เสียงเล็กๆถูกกลืนลงคอทันทีพร้อมกับริมฝีบางปากที่สั่นระริกเมื่อถูกคนตรงหน้าจาบจ้วงลงมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว ภัทรรินกำลังเข้าไปหาความหอมหวานในโพรงปากหวานนั่นอีกครั้งโดยใช้มื้อรั้งต้นคอของหญิงสาวเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เธอหันหน้าหนีไปทางอื่น ส่วนอีกมือกำลังหยอกเย้ากับอกอวบอิ่มนั้นอย่างไม่รู้เบื่อก่อนจะค่อยลากนิ้วเรียวหนาลงเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่กุหลาบงามตรงกลางกายสาว ซึ่งตอนนี้มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานทำให้เขาพอใจยิ่งนักที่หญิงสาวใต้ร่างกำลังคล้อยตามอารมณ์ไปกับเขา ถึงแม้ในใจจะพายามอดกลั้นไว้แต่ดูเหมือนร่างกายจะไม่ร่วมมือด้วยเสียเลย เมื่อเห็นว่าสติของหญิงสาวกำลังหลุดลอยอีกครั้งเขาจึงถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งแล้วลากไซ้ลงมายังซอกคอขาวระหง ทั้งที่มือหนายังคงหยอกเย้ากับกลีบกุหลาบงามเหมือนจงใจจะให้เธอขาดใจตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานของหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มกัดริมฝีปากด้วยความเสียวซ่านจนมันห้อเลือดส่ายหน้าไปมาจนผมเผ้าสยายยุ่งเหยิงแล้วกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างผู้ชนะ ก่อนจะผละออกจากกายสาวแล้วจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองด้วยความรวดเร็ว เขาเองก็ต้องการแทบไม่ต่างจากเธอเลยจริงๆ ภัทรรินออกแรงจับขาเรียวนั้นแยกออกเพื่อที่เขาจะได้เวลาปลดปล่อยสักที ถึงแม้จะตกอยู่ในอารมณ์วาบหวิวแต่หญิงสาวก็ยังคงดื้อด้านไม่ยอมเสียง่ายๆ ใบหน้าหวานที่ยังคงหลับตาพริ้มก็ต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงการรุกรานของคนเบื้องบน “นะ นั่นคุณจะทำอะไร”เรียวปากเล็กเผยอขึ้นพร้อมกับพยายามถอยหนีหลังจากที่ดวงตาคู่สวยเผลอไปเห็นแกนกายของชายหนุ่มที่ชูชันพร้อมที่จะบดขยี้ร่างเธอให้แหลกในอีกไม่ช้า จนใบหน้าหวานนั้นแดงก่ำด้วยความเขินอายพยายามดิ้นหนีอย่างสุดชีวิตเพราะคิดว่าเธอคงรับความใหญ่โตนั่นไม่ไหวแน่ๆ “นิ่งๆ เถอะน่า” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างขัดใจก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างรั้งเอวบางนั่นเอาไว้ไม่ให้ถอยหนีอีก “กรี๊ด ปล่อยฉัน ฉัน เจ็บ ไม่นะ ปล่อยยย” ทันทีที่รับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมซึ่งชายหนุ่มกำลังสอดใส่เข้าไปทำให้หญิงสาวตาเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวด สองมือเล็กพยายามจิกที่นอนเอาไว้เพื่อระบายความเจ็บถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม ภัทรรินกัดฟันพยายามแทรกแซงความเป็นชายเข้าไปในกายสาวอย่างยากลำบาก ความคับแน่นภายในทำให้เขาแทบบ้า แต่นั่นไม่ทำให้ความต้องการของเขาลดน้อยลงเลย ร่างสูงก้มลงมาประกบริมฝีปากคนตัวเล็กใต้ร่างอีกครั้งหมายจะปลอบเพื่อให้หญิงสาวยอมเปิดทางให้เขา โดยที่ไม่สนใจน้ำตาที่กำลังไหลนองหน้าหวานอยู่แม้แต่น้อย “อืม” ภัทรรินส่งเสียงครางอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยอมเปิดทางให้เขาแล้ว เขาจึงจ้วงแทงความเป็นชายเข้าไปทีเดียวจนสุดทางรักจนหญิงสาวรู้สึกจุกเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย “กรี๊ดดด” ถึงแม้อารมณ์วาบหวิวจะเข้ามาแทนแต่ความเจ็บปวดก็ยังคงพุงปรี๊ดจนร่างบางต้องร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เจ็บปวดปานจะขาดใจตาย ชายหนุ่มหน้านิ่วรู้สึกว่าหญิงสาวกำลังตอดรัดความเป็นชายของเขาไว้ราวกับจะบดขยี้ให้มันแตกละเอียด ทำให้เขาก้มลงจูบเรียวปากที่กำลังเผยอออกเพื่อระบายความเจ็บปวดนั่นอีกครั้งก่อนจะไล้ลงมาที่ซอกคอขาวระหง หนวดเคราบางๆของเขาที่กระทบกับผิวเนียนทำให้หญิงสาวรู้สึกวาบหวิวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนลืมความเจ็บปวดจนหมดสิ้น ร่างสูงค่อยๆสาวความเป็นชายออกมาอย่างช้าๆ แล้วดันมันเข้าไปอีกครั้งจนสุด ทำแบบนั้นซ้ำๆจนมั่นใจว่าคนใต้ร่างปรับตัวกับความใหญ่โตได้แล้ว ก่อนจะค่อยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนร่างบางสั่นไหวตอบรับอารมณ์ของเขา “อื้อออ” ความเสียวกระสันแล่นเข้ามาแทนที่หญิงสาวสมองขาวโพลน รู้สึก ดีอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวเล็กจิกลงบนแผ่นหลังแกร่งนั้นอย่างลืมตัว “สวยเหลือเกิน” ชายหนุ่มครางออกมาอย่างพอใจในขณะที่ยังคงขยับกายเข้าออกอย่าเนิบนาบ เขาผละออกจากร่างงามเพื่อจะมองความเป็นชายเข้าออกในกลีบกุหลาบนั่นอย่างหลงใหล พลันร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็ต้องตกใจเมื่อไปสะดุดกับบางอย่างที่กำลังไหลออกมาจากทางรักของหญิงสาว เลือดแห่งความบริสุทธิ์ของกายสาวไหลออกมาหยดใส่ที่นอนสีขาวสะอาดนั้นจนเป็นจุดสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ชายหนุ่มยิ่งได้ใจกระแทกกายเข้าออกรัวและเร็วขึ้นกว่าเดิม…….เพราะความมั่นใจว่าเขาคือคนแรกของเธอ ถึงแม้ชายหนุ่มจะรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย ที่ผู้หญิงเจนจัดเรื่องบนเตียงอย่างมัฑนา จะเป็นสาวพรหมจรรย์ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไฟในกายที่ลุกโชนมันไม่สามารถดับได้อีกต่อไปแล้ว มัฑนาพยายามแหวกม่านน้ำตาขึ้นมองคนใจร้ายที่ยังคงตักตวงความสุขจากกายของเธออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนร่างบางกระตุกไปสองสามครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะขึ้นไปแตะขอบสวรรค์เลยสักนิด พั่บ พั่บ พั่บ เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังคงดังระงมไปทั่วห้อง หญิงสาวร่างบิดพลิ้วกระตุกรับแรงปรารถนาของชายหนุ่มไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนรู้สึกหอบเหนื่อยลมหายใจขาดช่วง หน้ามืดตาลายแทบจะเป็นลมอยู่รอมร่อ ต่างกับอีกคนที่ยิ่งความเร็วขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวเพื่อจะทะยานไปให้ถึงสรวงสวรรค์ในที่สุด “ไม่ไหวแล้ว อ่า อื้ออออ” ร่างสูงกระตุกสองสามครั้งก่อนที่จะกระแทกเป็นครั้งสุดท้ายปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในออกมาจนหมดสิ้น “อื้อออ” ร่างบางระหงใต้ร่างเองก็กระตุกอีกครั้งพร้อมกับชายหนุ่ม ภัทรรินถอนแกนกายออกจากร่างงามช้าๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็กอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้งที่มือหนายังคงซุกซนอยู่กับอกนุ่มหยุ่นนั้นอย่างไม่รู้เบื่อ….. …………………………………………………………………………………… แสงแดดอ่อนๆยามสายปลุกให้ร่างบางระหงของมัฑนาให้ตื่นขึ้นจากนิทราที่แสนเจ็บปวด หลังจากที่เมื่อคืนเธอต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอไม่ได้ก่ออย่างสาสมจากคนใจร้าย ร่างบางพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก รู้สึกเจ็บตรงกลางกายจนใบหน้าหวานนั้นเหยเก บัดนี้คนใจร้ายไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ดีเสียอีกเธอจะได้ไม่ต้องเห็นคนเลวๆพันนั้น ยิ่งเขาทำกับเธอแบบนี้เธอก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้น เสียแรงที่ครั้งหนึ่งเคยหลงใหลนับถือเขาเป็นเจ้านาย หญิงสาวพยุงร่างตัวเองเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อลบล้างรอยราคีที่แปดเปื้อนบนเรือนร่างให้หมดสิ้น แต่สิ่งที่เสียไปตรงนั้นต่อให้ลบล้างยังไงมันก็ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว คิดมาถึงตอนนี้หญิงสาวถึงกับเข่าอ่อนลงไปนั่งร้องไห้กับพื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เสียงรถหรูของชายหนุ่มเจ้าของไร่ถูกขับออกไปจากคฤหาสน์หลังงาม โดยมีหญิงสาวยืนจ้องมองจากหน้าต่างห้องนอนของเขาไล่หลังไปราวกับจะสาปส่งให้เขาไปตายเสียให้พ้น มัฑนาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ชายหนุ่มจัดให้เมื่อวันก่อนที่พัทยา เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จกำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้องอย่างคนกำลังใช้ความคิด จานข้าวต้มที่สายป่านยกมาให้ในขณะที่เธอกำลังอาบน้ำยังคงตั้งไว้ที่เดิมโดยที่หญิงสาวไม่ได้แตะมันเลยสักนิดก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปเคาะประตูเรียกคนข้างนอกขึ้นมา ก็อกๆๆ “มีใครอยู่มั้ยคะ ขึ้นมาเปิดประตูให้ฉันหน่อย”หญิงสาวพยายามอ้อนวอน “พี่คนสวยอยากได้อะไรอีกมั้ยคะ ป่านจะได้ไปหามาให้” เสียงสายป่านเด็กรับใช้ วัย 15 ปี หลานสาวแม่นมตอบกลับมาจากข้างนอก หลังจากที่ได้รับหน้าที่เฝ้าหน้าห้องเอาไว้ “พี่อยากออกไปข้างนอก อยู่ในนี้อึดอัด เปิดประตูให้พี่หน่อยนะ” “คุณภัทรรินสั่งไว้ห้ามพี่ออกมาค่ะ พี่ต้องการอะไรก็บอกป่านได้” “โธ่ พี่ไม่อยากถูกขังอยู่แบบนี้ เปิดประตูให้พี่หน่อยนะ” มัฑนาพยายามอ้อนวอนเด็กสาวอีกครั้งอย่างน่าเห็นใจเพื่อหวังให้สายป่านสงสารเธอ “ถ้าป่านทำแบบนั้น ป่านจะเดือดร้อนนะพี่” แล้วสายป่านก็เงียบไป ปล่อยให้มัฑนากลับมานั่งลงบนเตียงดังเดิม แผนแรกที่เธอคิดไว้ไม่สำเร็จ เธอจึงหันไปจัดการถอดผ้าปูที่นอนออกมาทั้งสามผืน ก่อนจะมัดเป็นเชือกต่อกันให้ยาวแล้วนำมันไปมัดไว้กับที่กั้นตรงระเบียงห้อง พร้อมกับทิ้งผ้าให้ห้อยยาวลงมาจนถึงพื้นชั้นหนึ่ง หญิงสาวใช้วิชาปีนต้นไม้สมัยยังอยู่บ้านนอกค่อยๆปีนไต่ผ้าปูที่นอนนั้นลงมาอย่างช้าๆในขณะที่สำรวจรอบๆบ้านจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอยู่ ตุ๊บ!! ร่างบางร่วงมาก้นจ้ำเบ้ากองอยู่บนพื้น รู้สึกเจ็บแปล๊บตรงกลางกายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องรีบลุกขึ้นเพื่อจะหาทางออกไปจากไร่ให้เร็วที่สุดก่อนที่คนใจร้ายจะกลับมา หญิงสาวคิดว่าเขาพาเธอมาที่นี่เพื่อจะได้ทำงานในไร่ชดใช้หนี้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิดไว้ เขาพาเธอมาเพียงเพื่อให้เธอเป็นนางบำเรอให้กับเขา ซึ่งนั่นเธอไม่มีวันยอมอีกแน่นอน…… มัฑนาค่อยๆย่องไปทางหลังบ้าน เหลือบไปเห็นรองเท้าแตะคู่งามวางไว้หน้าเรือนเล็ก จึงถือโอกาสขโมยมาใส่ก่อนจะค่อยๆเดินลัดเลาะไปทางสวนหย่อมตรงไปยังถนนสายหลักของไร่ทันที แสงแดดในยามเทรายงแผดเผาลงมาอย่างไม่ใยดี หญิงสาวยังคงเดินไปเรื่อยๆ บนถนนเล็กในไร่โดยอาศัยป้ายบอกทางที่เป็นไม้เล็กๆตรงข้างทางเพื่อออกไปจากไร่ “ป้าๆ ใครอ่ะ สวยจังเลย” เสียงคนงานในไร่ดังขึ้นในขณะที่กำลังทยอยไปยังโรงครัวเพื่อรับประทานอาหารในช่วงพักเที่ยง หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินเข้าถามทางเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าทางออกจากไร่อีกไกลมั้ยคะ” “ถ้าไปจากนี้ก็ประมาณหนึ่งกิโลอ่ะจ่ะ คุณเป็นแขกมาพักที่รีสอร์ทเหรอคะ” แป้งหญิงสาวคนงานตอบแทนผู้เป็นป้า “อ่อ ค่ะว่าจะออกไปตลาดซื้อของนิดหน่อย” หญิงสาวจำเป็นต้องโกหกเพราะไม่รู้จะบอกความจริงว่ายังไง “ถึงว่า ป้าไม่เคยเห็นหน้า” ฤดี หญิงชาวไร่วัยสูงอายุเอ่ย “ทำไมไม่ไปกับรถของรีสอร์ทล่ะคะ อีกครึ่งชั่วโมงน่าจะมาแล้ว” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” มัฑนารีบขอตัวอย่างรวดเร็ว ถ้าจะให้รออีกหนึ่งชั่วโมงมีหวังเธอต้องหนีไม่พ้นแน่ๆ หญิงสาวยังคงเดินทอดน่องไปบนถนนสายเล็กอย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะเมื่อเช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่จะให้เธอนั่งพักเธอคงทำไม่ได้เพราะกลัวว่าเจ้าของไร่จะกลับมาถึงเสียก่อน บรื้นนน เสียงรถยนต์ดังอยู่ไม่ไกล ทำให้หญิงสาวรีบวิ่งไปยังเสียงนั้นทันทีอย่างมีความหวัง ….ในที่สุดเธอก็มาถึงถนนใหญ่จนได้ ร่างบางต้องเดินไปบนถนนยาวใหญ่ อีกครั้ง อย่างไม่รู้ทิศรู้ทางเพราะตั้งแต่มาทัศนศึกษาตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย จึงได้แต่เดินดุ่มๆไปตายเอาดาบหน้าเพื่อที่จะโบกรถขออาศัยเข้าเมืองไปด้วย แต่เหมือนร่างกายของเธอจะไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ดวงตาเริ่มพร่ามัว โลกทั้งใบหมุนติ้ว จนร่างบางเดินโซเซออกไปนอกถนนใหญ่ ปี๊นนนน เอี๊ยดดดด รถหรูสีขาวกำลังวิ่งมาชนร่างเธออย่างจัง แต่โชคดีที่คนขับยังมีสติเหยียบเบรกไว้ได้ทัน จึงทำให้หญิงสาวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ร่างสูงในรถจะก้าวลงมาเพื่อดูอาการของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD