เล่น.ล้ำ.เกียร์
[Cross The Gear]
EPISODE6 จะรับจ็อบเพิ่มเหรอ
เวลาต่อมา...ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้า
“ขอให้มีความสุขนะคะ” เสียงเล็ก ๆ เอ่ยขึ้นพร้อมลูกโป่งสีชมพูที่ยื่นให้กับคู่หนุ่มสาวซึ่งกำลังจะเดินเข้าไปในห้าง ทำให้แฟนหนุ่มของเธอรับมันไว้ แล้วยื่นมือมาลูบที่หัวของมาสคอตกระต่ายสีชมพู
“ถ่ายรูปกับกระต่ายไหม ผมถ่ายให้”
“ไว้วันหลังนะตัวเอง เดี๋ยวไปดูหนังไม่ทัน”
“โอเค งั้นไปกัน”
ภาพของคู่รักหนุ่มสาวที่ออกมาดูหนังรอบเย็น จับจูงมือกันอย่างรักใคร่ช่างน่าอิจฉา เมื่อคิดย้อนกลับไปช่วงเวลาสี่เดือนที่ตัดสินใจเปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อนสนิทเลื่อนมาเป็นแฟนกับแมค เรื่องออกเดตระหว่างเธอกับเขาเรียกว่านับครั้งได้เลย เพราะหลังจากคบเป็นแฟนได้สองเดือน แมคก็ได้ไปเป็นนายแบบเสียแล้ว
“ขอให้มีความสุขนะคะ” นาบีได้แต่คิด แล้วหันไปยื่นลูกโป่งในมือให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าห้างแห่งนี้ นี่ก็เป็นงานของเธอเช่นกัน
“ขอให้มีความสุขนะคะ”
“พ่อขาพี่กระต่ายน่ารักจัง” เสียงของเด็กน้อยกระโปรงชมพูที่กระโดดเหยง ๆ เรียกให้บิดามองเจ้ามาสคอตตัวโต ทำให้นาบีเดินไปย่อตัวลงแล้วยื่นลูกโป่งให้หนูน้อย
“ขอให้เป็นวันที่ดีนะคนเก่ง” เธอเอ่ย ทำให้หนูน้อยขยับยิ้มร่า
“พี่กระต่ายน่ารัก” เจ้าของร่างเล็ก ๆ เดินมาโอบกอดเธอผ่านชุดมาสคอตเทอะทะ ก่อนที่บิดาของหนูน้อยจะจูงลูกสาวเดินจากไป นาบีได้แต่ขยับยิ้มภายใต้หัวกระต่าย มองดูหนูน้อยตัวเล็กน่ารักคนนั้นจนลับตา
“ขอให้มีความสุขนะคะ”
“ขอให้มีความสุขนะคะ”
หญิงสาวเดินเข้าไปหาผู้คน หยิบยื่นลูกโป่งสีหวานใบแล้วใบเล่าจนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มทอประกายสีส้มอมแดง นาบีจึงเดินมานั่งพักที่ด้านข้างของห้างสรรพสินค้า หัวมาสคอตกระต่ายถูกถอดออกวางไว้ข้างตัว ปลายเชือกลูกโป่งผูกไว้กับหูของกระต่าย ก่อนที่หญิงสาวจะยกหลังมือปาดเหงื่อบนใบหน้าออก
วาบ!
ทว่าจู่ ๆ ข้างแก้มของเธอก็รู้สึกเย็นวาบราวถูกทาบด้วยน้ำแข็ง นั่นทำให้นาบีหันมามองต้นตอของมันทันที
“คุณลูกค้า?” นาบีพึมพำออกมา
“ไม่คิดว่าพี่สาวจะมีจ็อบแจกลูกโป่งด้วย” เจ้าของร่างสูงที่ย่อตัวนั่งลงข้าง ๆ ทำให้หญิงสาวมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเธอจะบังเอิญเจอเขาที่นี่
“รับไปสิครับ” พันวาเอ่ยย้ำ มองขวดน้ำที่เขายื่นให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” เธอทำเพียงรับมันมา แล้วลอบมองเขาจากเสี้ยวหน้าหล่อเหลาด้านข้าง...วันนี้เขาไม่สวมแมสก์แฮะ
“ร้อนไหมครับ” พันวาพึมพำ แล้วหันหน้ามาขยับยิ้มบาง ๆ ทำให้หญิงสาวที่ได้เห็นใบหน้าของเขาชัด ๆ ได้แต่อึ้งไป คนอะไรทำไมผิวเนียนละเอียดได้ขนาดนั้นนะ ใบหน้าเรียวได้รูป รับกับจมูกโด่งเป็นสันอย่างที่ส้มโอว่าจริง ๆ ผิวพรรณก็ดูดีอย่างกับคนเจ้าสำอางแน่ะ
“พี่...”
“พี่สาวครับ...จ้องผมขนาดนี้ ผมเขินแย่เลยนะ” น้ำเสียงลุ่มลึกที่เอ่ยมา ทำให้นาบีหลุดจากภวังค์ที่เผลอจ้องหน้าอีกฝ่ายเสียขนาดนั้น
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” นาบีว่าก่อนจะแก้เก้อด้วยการเปิดน้ำในมือกระดกดื่ม สายตาก็เหลือบไปเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ละสายตาจากเธอไปไหนเลย ทำไมเขาต้องมองมาแล้วยิ้มแบบนั้นด้วยล่ะ
“แค่ก ๆ มีอะไรรึเปล่าคะ แล้วคุณลูก...”
“พี่รู้ชื่อผมแล้วนี่ ทำไมยังเรียกคุณลูกค้าอีกครับ” ไม่รอให้เธอพูดจบพันวาก็แทรกเสียงขึ้นเสียก่อน
“เอ่อ...มันเคยชินน่ะ ขอโทษนะคะ” เธอพึมพำ แล้วหลุบสายตาลงมองพื้น ทำให้ชายหนุ่มหยิบหัวมาสคอตมาสวม
“จะทำอะไรคะ?” นาบีรีบถามเขาทันที
“มันดูน่าสนุกน่ะครับ ผมขอเอาไปแจกต่อนะ” พันวาเอ่ยแล้วปลดเชือกลูกโป่งออก ก่อนที่เขาจะเดินไปยังหน้าห้างสรรพสินค้า โดยไม่รอให้เธอมีโอกาสปฏิเสธแม้แต่น้อย
“ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ” น้ำเสียงลุ่มลึกติดห้าวหน่อย ๆ ที่หยิบยื่นลูกโป่งให้กับหญิงสาวซึ่งเดินผ่านมาพอดี ทำให้เธอชะงักไป สายตาที่กวาดมองเสื้อผ้าแบรนด์หรูของกระต่ายหนุ่ม ทำให้เธอเอียงคอมองเขา
“ถอดหัวกระต่ายได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ครับ มันเป็นกฎ” พันวาเอ่ยมั่ว ๆ ไปอย่างนั้น ก่อนที่เขาจะย่อตัวลงแล้วยื่นลูกโป่งให้หนูน้อยที่ผ่านมาพอดี
“ขอให้มีความสุข เป็นเด็กดีนะสาวน้อย”
“ขอบคุณค่ะพี่ชายกระต่าย” หนูน้อยตอบรับ ก่อนจะเดินมากอดเขาด้วยรอยยิ้มแล้วจากไป ทำให้พันวาได้แต่นิ่งไปกว่าอึดใจ...เมื่อกี้เขาโดนกอดเหรอ ก็แปลกดีแฮะ...แต่มันไม่ได้แย่เลย
นาบีที่มองเจ้าของร่างสูงเดินแจกจ่ายลูกโป่งให้กับผู้คน ได้แต่คิดว่าเขาคงจะว่างงานมากเลยสินะ ทำไมถึงเป็นคนที่ดูเหมือนไม่คิดอะไรเลย เหมือนมีชีวิตเพื่อทำอะไรตามใจตัวเองไปเรื่อยอย่างนั้นแหละ
และเมื่อผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีพันวาก็เดินกลับมาหาเธอ ในมือของเขาไม่มีลูกโป่งเหลืออยู่แล้วล่ะ เขาแจกมันหมดแล้วจริง ๆ
“ใส่แบบนี้ร้อนเหมือนกันนะครับ” คนที่วางหัวมาสคอตลงเอ่ยออกมา ใบหน้าหล่อเหลาที่ซึมไปด้วยเหงื่อชื้น ทำให้เธอเปิดกระเป๋า แล้วล้วงเอากระดาษทิชชูส่งให้เขาซับหน้า
“มือผมไม่มีแรงเลยครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อน แล้วทำท่าขยับนิ้วเบา ๆ ทำให้นาบีหรี่สายตามองเขาอย่างจับผิด
“ถือว่าขอบคุณที่ช่วยนะคะ” นาบีที่ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเอ่ยออกมา ก่อนที่กระดาษทิชชูในมือจะถูกเธอซับเหงื่อบนใบหน้าให้เขา
“ว้าว...สบายจังครับ มีคนเช็ดให้ด้วย” พันวาพึมพำ เรียวปากบางสวยคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ พร้อมกับสายตาคู่คมที่หลุบมองหน้าเธอ ทำให้นาบีได้แต่ชักมือกลับ เพราะทนดาเมจของสายตาคู่สวยไม่ไหว
“แจกลูกโป่งได้เงินเท่าไหร่เหรอครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“เหมาห้าสิบลูกสองร้อยค่ะ” เธอตอบเขา
“ก็ถือว่าได้เงินไวรึเปล่าครับ”
“อืม...ก็ไม่รู้สิคะ ถ้าโชคดีหมดไวก็ดีไป แต่บางวันแจกจนค่ำกว่าจะหมดก็มีนะคะ” เธอเล่า ทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น
“ทำไมล่ะครับ ลูกโป่งก็สวยดีนี่”
“อืม...บางคนไม่อยากถือเข้าไปในห้างน่ะ พวกเขาคิดว่ามันเกะกะค่ะ” เธอว่า แล้วขยับยิ้มจาง ๆ
“ต้องแจกให้หมดสินะครับ”
“ใช่ ถ้าแจกไม่หมดก็จะยังไม่ได้ค่าจ้าง แต่ถ้าเทียบระหว่างกระดาษทิชชูกับลูกโป่ง บอกเลยว่าทิชชูแจกง่ายกว่า พกง่ายแถมเอาไปใช้งานได้ด้วย” เธอเล่า ทำให้ชายหนุ่มพยักหน้ารับ นอกจากงานในร้านสะดวกซื้อหญิงสาวก็เที่ยวรับจ็อบเล็ก ๆ ไปเรื่อย เขาไม่รู้เลยว่าเธอมีภาระอะไรนักหนา ถึงเที่ยวหาเงินตัวเป็นเกลียวเสียขนาดนี้
“จริงสิ! ตอนที่ผมเดินเล่นในห้าง มีคนเอาโบชัวร์มาแจกด้วย” พันวาเอ่ย แล้วดึงแผ่นโบชัวร์ออกมาส่งให้เธอ ทำให้นาบีรับมันมาอ่าน
“เอ๊ะ! มหา’ลัยนี้...ให้เงินเดือนดีจัง” นาบีที่อ่านใจความในกระดาษได้ว่ามหาวิทยาลัยเอกชนMDLกำลังเปิดรับเจ้าหน้าที่ภายในมหา’ลัยหลายอัตราก็รู้สึกว่าโอกาสของเด็กจบใหม่อย่างเธอมาถึงแล้ว
“พี่สนใจเหรอครับ จะรับจ็อบเพิ่มเหรอครับ” พันวาเอ่ยถามเธอ
“เขารับตั้งแต่วุฒิมอหกเลยนะ ถ้าได้ทำงานที่นี่ก็ดีสิ” เธอพึมพำ