บทที่ 3 หญิงไร้มารยาท

1165 Words
ดูเหมือนว่าฉันจะวางใจเกินไปหน่อย หลังจากพักสายตาไปงีบหนึ่งและเริ่มสึกตัวเพราะเสียงท้องร้องที่ประท้วงออกมา อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูไม้ลั่นยามเปิดออก ก่อนที่ผ้าห่มของฉันจะถูกกระชากออกไป เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นหญิงสาววัยกลางคนแปลกหน้าคนหนึ่งมองมาด้วยสายตาดูแคลนอย่างเปิดเผย โอ้โห หรือนี่จะเป็นฉากกลั่นแกล้งของหญิงรับใช้ที่เคยอ่านในนิยาย แต่เจ้าหล่อนดูไม่พอใจฉันมากเลยทีเดียว ดูดวงตาเล็กๆ นั่นสิ แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าแล้ว ฉันเสยผมหน้าม้าขึ้นแล้วมองกลับอย่างไม่พอใจด้วยเช่นกัน เป็นแค่คนรับใช้ มีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้ “มีอะไร” อีกฝ่ายดูจะไม่ชอบขี้หน้าฉันมากทีเดียว ใบหน้าถึงได้บิดเบี้ยวขนาดนั้น “นายท่านบอกให้ดิฉันมาปลุกคุณอีให้ไปรับประทานอาหารค่ำค่ะ แต่ถ้าคุณอียังต้องการพักผ่อน ดิฉันจะได้ออกไปรายงานว่าคุณไม่ต้องการอาหารค่ะ” หล่อนไม่รอคำตอบและรีบร้อนออกไปราวกับไม่ต้องการรับคำสั่งจากฉัน แต่ฉันเป็นพวกไม่ชอบให้ใครมัดมือชกเสียด้วย ลิ้มลองพลังเสียงจากสาวยุคสองพันหน่อยเป็นไง “นี่ หยุดนะ!!!” แล้วก็ได้ผลชะงัดเมื่อหญิงรับใช้คนนั้นตกใจจนสะดุ้ง ก่อนจะหันมามองฉันด้วยความสงสัย สงสัยอะไร สงสัยในความไร้มารยาทของตัวเองก่อนเถอะ ฉันลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายตาดูแคลนไม่ต่างกัน แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้หล่อนไม่พอใจมากทีเดียว ถึงได้มองตาแข็งตัวสั่นขนาดนั้น แต่ฉันจะทำให้รู้ว่าระดับที่ต่างกันมันเป็นอย่างไร ฉันใช้นิ้วจิ้มไปที่ไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หล่อนน่ะ เป็นหญิงรับใช้ของบ้านสกุลหง ถือดีอะไรเข้ามาให้ของผู้หญิงที่แต่งงานกับนายท่านของเธอโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือดีอะไรมาออกคำสั่งฉัน แล้วมีถือดีอะไรที่จะออกไปโดยไม่ได้รับคำตอบ” หล่อนเงียบแต่ก็ไม่กล้าโต้แย้ง คนพวกนี้เมื่อเห็นคนที่ดูหัวอ่อนก็จะข่มเหง ไม่เว้นแม้แต่เจ้านาย ถ้าไม่แสดงความแข็งกร้าวออกไป ฉันก็คงถูกกดดันเหมือนกันม่านอี แน่นอนว่าหงเฉินก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วย เขากลับชอบเสียด้วยซ้ำที่ได้ยืมมือคนนอกรังแกภรรยาตัวเอง แต่คนพวกนี้คิดผิดแล้วที่มาเล่นงานฉัน ฉันไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างม่านอีเสียด้วย “ทำอะไรน่ะ” อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของหงเฉิน ฉันเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าไม่พอใจ และดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างฉันเท่าไหร่เมื่อหญิงรับใช้คนนี้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นนายทันที “นะ นายท่าน ดิฉันแค่มาปลุกนะ นายหญิงค่ะ แต่ดูเหมือนนายหญิงจะไม่พอใจ เลยตำหนิดิฉัน...” ดูหล่อนสิ แสร้งบีบน้ำตากอดเข่าเล่าความเท็จ เห็นแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือจะทน หงเฉินมองฉันด้วยสายตาไม่พอใจ แน่ละว่าใครจะชอบที่มีคนมาข่มเหงคนของตัวเอง “นี่เธอ คิดว่าเป็นนายหญิงแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง” ฉันกลอกตาพลางกอดอกอย่างเบื่อหน่าย “แล้วคุณสามีคิดว่าการที่หญิงรับใช้เปิดประตูห้องของฉันโดยที่ฉันยังไม่ได้อนุญาต คือการกระทำที่มีมารยาทนักเหรอคะ แต่ฉันเข้าใจว่าคุณงานยุ่งจนไม่มีเวลาอบรมพวกเขา ถึงได้ไม่มีมารยาทขั้นพื้นฐานกันขนาดนี้ เอาเถอะค่ะ ยังไงฉันก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันจะยอมใจกว้างสักครั้งก็แล้วกัน” ฉันพูดไปแบบนั้นแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะลงโทษคนของตัวเองหรอก ยิ่งกับฉันที่เป็นคนนอกด้วยแล้ว หลังจากนี้คงถูกกดดันยิ่งกว่าเดิม และการกลั่นแกล้งก็อาจจะรุนแรงขึ้นด้วยหากเขาแสดงออกว่าไม่ชอบการกระทำของฉัน ฉันลอบสังเกตคนตรงหน้าเมื่อเห็นเขานิ่งไปราวกับครุ่นคิดบางอย่าง ดูเหมือนว่าสายตาที่หงเฉินมองมาจะไม่ได้คาดโทษฉันอย่างที่ควรจะเป็น อยู่ๆ ก็ดูเป็นคนมีเหตุผลขึ้นมาเฉยเลย หงเฉินเหลือบมองหญิงรับใช้ที่หวังความเมตตาจากเขา หล่อนคงคิดว่าอย่างไรหงเฉินก็ต้องเข้าข้างคนบ้านตัวเองแน่ แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นก็ไม่ต่างจากสามีที่รู้เห็นเป็นใจในการกลั่นแกล้งภรรยา นี่แค่วันแรกนะ กว่าจะครบหนึ่งปี ฉันคงต้องเข้าโรงพยาบาลประสาทเพื่อตรวจสุขภาพจิต หลังจากเงียบมานานหงเฉินก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะขยับตัวออกห่างจากหญิงรับใช้แล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาตำหนิ ทำให้หล่อนถึงกับหน้าซีด “พรุ่งนี้ฉันจะให้พ่อบ้านเจียวเลือกหญิงรับใช้มาดูแลเธอ” ฉันหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างเบื่อหน่ายเมื่อเขาตั้งใจเลี่ยงประเด็น ไม่ยอมลงโทษคนของตัวเองต่อหน้าฉัน ทั้งที่มันเกี่ยวข้องกับอำนาจของฉันโดยตรง “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยส่งหญิงรับใช้ที่มีมารยาทมาแล้วกันนะคะ” ฉันเหลือบมองหญิงรับใช้ที่หน้าแดงด้วยความอับอาย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันน่ะเกลียดพวกไม่รู้ฐานะของตัวเองเป็นที่สุด” จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้อีกฝ่าย ให้เขาได้รู้ว่าม่านอีคนหัวอ่อน ไม่มีอีกต่อไปแล้ว หงเฉินถอนหายใจอีกครั้ง “ได้ แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม” ฉันส่ายหน้าเล็กน้อย “ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ เอาไว้คุยกันอีกครั้งตอนอาหารค่ำนะคะ” พูดจบฉันก็ปิดประตูใส่หน้าอีกฝ่ายทันที โดยไม่สนใจว่าจะไร้มารยาทในสายตาของเขาหรือไม่ก็ตาม ฉันเดินไปนั่งบนเตียงอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอกที่สามารถขัดขืนตัวตนของม่านอีได้สำเร็จ หลังจากนี้หล่อนคงเอาเรื่องของฉันไปนินทา ว่าฉันคือนายหญิงที่มีนิสัยร้ายกาจและชอบข่มเหงผู้น้อย เป็นแบบนั้นได้ก็ดี ชาติก่อนม่านอีถูกคนรับใช้ร่วมกันข่มเหงเพราะไม่ได้รับความโปรดปรานจากสามี เมื่อม่านอีต้องการขัดขืนและเริ่มเอาแต่ใจ ก็จะถูกสามีตำหนิซึ่งหน้า ทำให้ไม่มีใครยำเกรง แต่ฉันจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเป้าหมายของฉันคือการหย่าร้างกับหงเฉินภายในหนึ่งปี ไม่ใช่การเรียกร้องขอความรักของเขาอีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD