17 ปีต่อมา
“ว้าว...หน้าตาน่ากินมากๆ ค่ะคุณไอรีณ คุณลิน่าต้องชอบแน่ๆ เลยค่ะ” โซเฟียเอ่ยชมจากใจ มองดูขนมเค้กรสชอกโกแลตที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม น่าทานจนอยากจะตัดมาทานสักชิ้นเสียตอนนี้ แถมคนทำยังใส่ใจในรายละเอียด พิถีพิถันทุกขั้นตอน ทำด้วยใจรักเพื่อคนที่ตัวเองรัก เธอจึงเชื่อมั่นว่า เจ้าของวันเกิดวันนี้จะต้องพอใจกับขนมเค้กก้อนนี้แน่นอน
คนถูกชมยิ้ม ยืนมองขนมเค้กที่ตัวเองเพิ่งทำเสร็จหมาดๆ ด้วยความภาคภูมิใจและมีความสุขที่ได้ทำขนมเค้กให้คนที่ตัวเองรักและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด ฉับพลันรอยยิ้มนั้นจางหาย เมื่อนึกถึงเจ้าของวันเกิด
“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” หากเป็นวันเกิดปีก่อนๆ ของแองเจลิน่า คำพูดประโยคนี้คงไม่ลอดจากปากของไอรีณ เพราะตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นภายในคฤหาสน์หลังนี้ เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เธอต้องยอมรับ
ฐานะของไอรีณในคฤหาสน์หลังนี้จะว่าใช้คนรับใช้ก็พูดไม่เต็มปาก จะจัดอยู่ว่าเป็นเจ้านายก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะไอรีณได้รับเงินเดือนจากการเป็นพี่เลี้ยงลูกสาวเจ้าของบ้าน แต่ได้พักในห้องนอนชั้นบนของคฤหาสน์ ต่างกับคนรับใช้คนอื่นที่เดินทางไปกลับ อีกทั้งเป็นที่รู้กันดีว่า ไอรีณมีอีกสถานะหนึ่งกับเจ้าของบ้าน ฐานะของไอรีณก่ำกึ่ง ทว่าคนรับใช้ทุกคนต่างให้ความเคารพเธอไม่ต่างกับเจ้านาย
“คุณลิน่าต้องชอบแน่ๆ ค่ะ คุณลิน่าพูดเสมอว่า ไม่มีใครทำขนมเค้กอร่อยเท่าคุณไอรีณ ไม่อย่างนั้นคุณลิน่าคงไม่บอกให้คุณไอรีณทำให้ทานบ่อยๆ ฉันเชื่อว่า ขนมเค้กวันเกิดคุณลิน่าปีนี้ก็ต้องถูกชมเหมือนทุกปีที่ผ่านมาค่ะ”
โซเฟียรู้ความหมายในคำพูดประโยคนั้น ยิ่งได้เห็นใบหน้าอันเศร้าสร้อยและรอยยิ้มที่จางหายจากใบหน้าของไอรีณด้วยแล้ว ความสงสารและเห็นใจมีเพิ่มมากขึ้น เธอจึงพูดปลอบใจให้คนทำขนมเค้กคลายจากความเศร้า ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ไอรีณไม่มีทางหายจากความรู้สึกที่เป็นอยู่ หนำซ้ำจะโบกทับมากขึ้น
ระหว่างที่ไอรีณกับโซฟียกำลังสนทนากันอยู่นั้น ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่ากำลังมีบุคคลหนึ่งเดินมายังห้องครัว แววตาของบุคคลนี้มีแต่ความมุ่งร้าย คล้ายนางมารร้ายไม่มีผิด เธอเดินมาหยุดยืนตรงประตูห้องดังกล่าว สายตาร้ายกาจมองไปยังไอรีณ ก่อนจะเบนมามองเค้กก้อนใหญ่ที่รู้ดีว่า ไอรีณทำให้ใคร ณิชาภากระตุกยิ้ม ก้าวเดินเข้าไปในห้องนั้น
“แหม ทำเค้กซะก้อนใหญ่เชียวนะ” ผู้พูดเดินมาหยุดใกล้เค้กวันเกิด “แต่ฉันคิดว่า ลิน่าคงไม่ต้องการเค้กก้อนนี้ เพราะฉันสั่งเค้กมาให้ลิน่าแล้ว ฉะนั้นก็ทิ้งมันไปซะ”
ณิชาภาทำในสิ่งที่ไอรีณกับโซเฟียไม่คาดคิด เธอยกเค้กก้อนนั้นแล้วโยนลงไปในถังขยะ ความที่ถังขยะมีความเล็กกว่าขนมเค้ก ส่งผลให้เนื้อเค้กบางส่วนตกลงอยู่ข้างถังขยะ หกเรี่ยราดเต็มไปหมด ไม่หนำใจ เธอยังใช้ปลายเท้าขยี้เนื้อเค้กกับพื้นจนเลอะเทอะ ก้มมองผลงานของตนที่ทำอย่างสะใจ
คนทำขนมเค้กมองเค้กที่ตนตั้งใจทำด้วยความตกใจและเสียใจ ไม่นึกว่าณิชาภาจะทำเช่นนี้ โซเฟียมองหน้าอดีตภรรยาของเจ้าของคฤหาสน์เขม็ง ถ้าไม่กลัวตกงานเธออยากจะเข้าไปตบสักฉาด เพราะรู้ดีว่า ไอรีณไม่เก่งเรื่องนี้ แถมยังไม่มีปากมีเสียงกับใคร ทำให้ถูกข่มเหงอยู่เนืองๆ แต่พอนึกถึงภาระของตัวเอง ทำให้โซเฟียต้องข่มใจไว้เต็มกำลัง
“คุณทำอย่างนี้ทำไม นั่นเค้กวันเกิดของลูกสาวคุณนะ” โซเฟียถามเพราะไม่เข้าใจว่า อีกฝ่ายทำเช่นนี้ด้วยเหตุผลใด
“ฉันพูดเมื่อกี้ไม่ได้ยินหรือไง หรือว่าหูหนวก ถ้าได้ยินไม่ชัดฉันจะพูดอีกรอบ” ณิชาภาชักกลับ กอดอกมองหน้าไอรีณ “แกฟังฉันไว้นะไอรีณ ลิน่าไม่ต้องการเค้กชิ้นนี้ พอๆ กับไม่ต้องการแกมาเป็นพี่เลี้ยง แล้วก็เลิกฝันได้แล้วว่า แกจะมาแทนที่ฉันได้ มันไม่ทางเป็นแบบนั้นแน่นอน เพราะต่อไปนี้ฉันจะดูแลลูกสาวของฉันเอง รวมทั้งดูแลเลอันด้วย หน้าที่ของแกหมดลงแล้ว ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ”
เจ็บปวดใจเหลือเกิน...นี่คือความรู้สึกของไอรีณ หญิงสาวอาภัพไม่เคยคิดว่า ตนเองจะมาแทนที่ณิชาภา ทุกคนมีแม่ผู้ให้กำเนิดได้เพียงคนเดียว เธอเพียงแค่ทำหน้าที่ดูแลเลือดเนื้อเชื้อไขของณิชาภาเท่านั้น ไม่คิดจะขึ้นมาแทนที่ เพราะรู้ดีว่า ไม่มีทางเป็นไปได้
“คุณลิน่าอายุสิบห้าปีแล้วนะ จิตใต้สำนึกของความเป็นแม่และเมียเพิ่งทำงานหรือไง ถึงได้จะกลับมาดูแลคุณเลอันกับคุณลิน่า” คนที่ตอบโต้กลับเป็นโซเฟีย ที่อดรนทนไม่ไหวสวนกลับแทนไอรีณที่เอาแต่ยืนร้องไห้ “มาช้าไปหน่อยไหม แล้วคิดเหรอว่าคุณเลอันกับคุณลิน่าจะต้องการให้คุณดูแลพวกเขา” ณิชาภาไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่าของสาวใช้ เธอกอดอก หน้าเชิด ยิ้มมุมปาก ทำสีหน้าและแววตาราวกับว่า เป็นผู้ถือถ้วยแห่งชัยชนะ
“จะมาช้าหรือมาเร็ว เลอันกับลิน่าก็ต้องการฉัน ไม่เหมือนคนบางคนหรอกที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเป็นเมียเลอัน แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่นางบำเรอ น่าสมเพช” ณิชาภาแบะปากใส่ไอรีณ มองเหยียดหยาม “ฉันจะทำบุญกับเธอสักครั้ง ฉันจะบอกให้เลอันให้เงินเธอเป็นค่าตัวสักก้อน เธอจะได้มีเงินไปตั้งตัว ไม่ใช่เสียตัวฟรีๆ แล้วไม่ได้อะไรเลย”
ไอรีณหน้าชา น้ำตาหลั่งริน มือเท้าเธอเย็นเฉียบ ความเสียใจแทรกซึมทุกอณูจิตใจ หัวใจเจ็บช้ำเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบซ้ำๆ จนช้ำเกินเยียวยา ณิชาภาพูดถูก เลอันโดรกับแองเจลิน่าต้องการณิชาภาเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนก็ตาม แล้วเธอก็เป็นได้เพียงนางบำเรอของเลอันโดร ไม่อาจขยับฐานะไปอยู่ในตำแหน่งหรือแทนที่ณิชาภาได้เลย
“ส่วนแก” ณิชาภาชี้หน้าโซเฟีย “ถ้าไม่อยากเดือดร้อนถูกไล่ออก หุบปากของแกซะ อย่ามาทำปากดีกับฉัน แกน่าจะรู้นะว่า สมควรเข้าข้างใคร”
โซเฟียกำมือแน่น มองหน้าผู้พูดไม่วางตา เธออยากจะตอกกลับณิชาภาให้หน้าหงาย แต่ก็ทำไม่ได้ดังใจคิด เธอมีคนข้างหลังต้องดูแลอีกหลายชีวิต เธอจำต้องเงียบ ข่มใจ ข่มอารมณ์
ณิชาภาเหยียดยิ้มเมื่อเห็นว่า ไอรีณกับโซเฟียไม่กล้าหือตน ยิ่งเห็นน้ำตาบนใบหน้าไอรีณด้วยแล้ว เธอสาแก่ใจยิ่งนัก ก้าวเดินเข้าไปหาไอรีณเยี่ยงนางพญา จิ้มนิ้วชี้และกดลงกลางหน้าผากไอรีณ จนอีกฝ่ายถึงกับหน้าหงาย