“ที่ด่าพี่มานี่รู้หรือเปล่าว่าหมายถึงอะไร” ฉลามกลับอารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อโดนสาวน้อยหน้าใสด่า “พี่คงไม่ได้บ้าใช่ไหม ที่ดันมาหัวเราะกับคำที่อุ๋งคิดว่าจะทำให้พี่โกรธ เด็กน้อยเอ๊ย ขนาดผัวไม่ทำการบ้านยังไม่รู้จักเลย แล้วใหญ่ยาวยิ่งกว่ามอเตอร์เวย์จะรู้เร้อว่ามันหมายถึงอะไร เฮ้อ”
ฉลามส่ายหัวให้กับแชตที่โดนบล็อกพลางแคปหน้าจอเก็บไว้ จากนั้นเขาก็สลับไปใช้แอคเคาน์ที่เป็นทางการ ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้เพราะมีเครือญาติทั้งตระกูลเป็นเพื่อน รวมถึงเพื่อนๆ ตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัย เขาเข้าเฟซบุ๊กของอุ๋งทันที
ฉลามตัดสินใจยังไม่แอดเฟรนด์ แต่เข้าไปในห้องแชต เขาคิดว่าถ้าอุ๋งเห็นภาพโปรไฟล์เป็นรูปโมบายหอย เธอต้องจำเขาได้แน่
ฉลาม เจ้าสมุทร : ...กำลังพิมพ์...
ลบ
ฉลาม เจ้าสมุทร : ...กำลังพิมพ์...
ลบ
ในที่สุดฉลามก็ตัดสินใจไม่ส่งข้อความใดๆ ไปหาเธอจะดีกว่า เพราะไม่ไว้ใจตัวเองว่าพอคุยกันอีกครั้งจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไหม จริงของแกรี่ เขาไม่เคยเป็นคนหัวร้อน เพิ่งมารู้ตัวตอนพี่เขยติง เขามีกำหนดอยู่ในใจแล้วว่าจะไปหาเธอตอนไหน ไม่รู้ว่าพอเธอเห็นเขา เธอจะจำผู้ชายที่เธอวิ่งไล่ตามรถเพื่อเอาโมบายหอยมาให้เขาได้หรือเปล่า
ขณะที่ฉลามทิ้งตัวนอนลงบนเตียง หูฟังเสียงโมบาย ตามองเพดาน ริมฝีปากแย้มยิ้มขณะวาดภาพไปไกลถึงวันนั้น อีกคนหนึ่งกำลังหน้าซีดมือเย็นเฉียบ กลัวไอ้โรคจิตที่บอกว่าจะมาหาเธอ อุ๋งยืนกำจัดความกลัวอยู่สักพักจึงก้าวออกจากห้องน้ำ แต่ความเป็นเด็กทำให้เก็บพิรุธไม่อยู่...
“อ้าวอุ๋ง หน้าตาซีดๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า” เนตรอัปสราเดินมาจับเนื้อจับตัวเพื่อนลูกสาว “อุ๊ย มือเย็นเฉียบ”
“อุ๋งไม่เป็นอะไรค่ะ อุ๋งอยากกลับบ้าน ค่ำแล้วเดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
“ฝนยังไม่หยุดเลย แต่ก็ซาไปเยอะแล้ว งั้นเดี๋ยวแม่ขับรถไปส่งที่บ้านเอง ถ้าเปรมขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งเดี๋ยวจะโดนละอองฝน พากันไม่สบาย” เนตรอัปสราพูดอย่างเป็นเหตุเป็นผล
“ขอบคุณค่ะ”
“ผมขับให้ครับแม่” เปรมอาสา
“น้องเธอว์ไปด้วยค่ะ”
“งั้นก็ไปกันหมดเลย น้องเธอว์ส่งไลน์ไปบอกพ่อด้วยนะว่าพวกเราไปส่งอุ๋ง เดี๋ยวพ่อกลับมาแล้วไม่เจอใครในบ้านจะตกใจเอา”
เนตรอัปสราสั่ง พลางปิดประตูหน้าต่าง เมื่อเสร็จแล้วก็หยิบกุญแจแล้วพากันก้าวไปที่รถเก๋งของเธอ
*********
วันรุ่งขึ้น
เนื่องจากจะมีกีฬาโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาในอีกสองเดือนข้างหน้า ช่วงนี้เวลาเรียนแต่ละวิชาจึงลดลงวิชาละ 10 นาที เพื่อให้เหลือเวลาในช่วงเย็นสำหรับให้นักเรียนได้ซ้อมกีฬา ซ้อมเชียร์ ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ และดรัมเมเยอร์
“ประกาศ นางสาวยอดดวงใจ นรเศรษฐ์ มาพบอาจารย์นงนุชที่ห้องฝ่ายปกครองด้วยค่ะ” เสียงตามสายดังขึ้นในช่วงซ้อมกีฬา อุ๋งซึ่งกำลังซ้อมร้องเพลงเชียร์ทำหน้าเหลอหลาเมื่อเพื่อนสะกิดเรียก
“เรียกอุ๋งเหรอ” เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ใช่ เขาเรียกนางสาวยอดดวงใจ นรเศรษฐ์” ใบพลูคอนเฟิร์ม
อุ๋งเดินลงจากอัฒจันทร์ที่ใช้ซ้อมร้องเพลงเชียร์ไปอย่างงงๆ เธอได้รางวัลมารยาทดี ไม่เคยทำอะไรผิดกฎระเบียบของโรงเรียน ครูบาอาจารย์รักใคร่ รวมถึงคนนอกโรงเรียนยังเอ่ยชม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยโดนเรียกพบที่ห้องฝ่ายปกครอง และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่เธอถูกเรียก
“สวัสดีค่ะครูนงนุช” อุ๋งยกมือไหว้
“นั่งสิอุ๋ง” ครูนงนุชผายมือให้นักเรียนนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ขอบคุณค่ะ” อุ๋งไหว้ครูอีกครั้งก่อนจะนั่งลง
“ครูเพิ่งรู้จากครูชมพู่ว่าเขาอยากได้อุ๋งมาเป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง แต่อุ๋งปฏิเสธเพราะเรื่องค่าชุด”
“ค่ะ อุ๋งเสียดายเงินน่ะค่ะ”
“ครูได้แจ้งไปทางคุณสมบูรณ์ เพราะถ้าไม่แจ้งแล้วเขาทราบทีหลัง เขาจะตำหนิเอาได้ เพราะถือว่าอุ๋งอยู่ในความอุปถัมภ์ของเขา”
ครูนงนุชเอ่ยถึงชายผู้หนึ่งที่ติดต่อมาทางโรงเรียนเมื่อสามปีที่แล้วเพื่อขออุปถัมภ์อุ๋งในระดับมัธยมศึกษา เขาบอกว่าประทับใจที่อุ๋งร้อยพวงกุญแจหอยขายกับแม่ เขาได้คุยกับอุ๋งแล้วเห็นถึงความตั้งใจและความกตัญญูของอุ๋ง แม้เขาจะมีทุนทรัพย์ไม่มาก แต่ก็สามารถต่ออนาคตให้เด็กดีคนหนึ่งได้เรียนจนจบมัธยม
อุ๋งจำไม่ได้ว่าคุณอาสมบูรณ์คือคนไหนตอนที่ครูนงนุชถ่ายทอดให้ฟัง เพราะในช่วงเวลานั้นมีชายหลายคนที่มักจะสอบถามเรื่องเรียนเวลาเธอเอาของไปขาย คุณอาสมบูรณ์บอกผ่านครูนงนุชว่าเขาสะดวกที่จะช่วยเหลือเรื่องเงิน แต่ไม่อยากเปิดเผยตัวตน สิ่งตอบแทนที่เขาต้องการจากเธอคือการตั้งใจเรียนเท่านั้น
และเพราะเงินของคุณอาสมบูรณ์นี่เอง อุ๋งจึงมีโอกาสได้เรียนต่อมัธยมปลาย เรื่องค่าใช้จ่ายรายวัน เธอได้มาจากการขายพวงกุญแจและช่วยเธอว์ไลฟ์ขายเสื้อผ้า ส่วนเรื่องเรียนระดับมหาวิทยาลัย อุ๋งตั้งใจจะสอบชิงทุนให้ได้
“ค่ะ”
“เดี๋ยวอุ๋งไปหาครูชมพู่ที่ห้องกิจกรรมนะ ไปวัดตัวเพื่อตัดชุดได้เลย ครูแจ้งครูชมพู่ไว้แล้ว”
ครูนงนุชยิ้มตามรอยยิ้มในดวงตาของอุ๋ง เป็นเรื่องปกติของเด็กสาวที่ชอบอะไรสวยๆ งามๆ และยิ่งเป็นตัวแทนของโรงเรียนแบบนี้มันยิ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
“ขอบคุณค่ะครู” อุ๋งไม่สามารถประหยัดรอยยิ้มไว้แค่ในดวงตาอีกต่อไป ตอนนี้เธอยิ้มไปทั้งหน้า เด็กสาวรีบลุกขึ้นอย่างดีใจ
“เดี๋ยวจ้ะ” ครูนงนุชรั้งไว้
“คะครู”
ครูนงนุชเลื่อนกระดาษแผ่นหนึ่งไปตรงหน้าเด็กนักเรียน มันเป็นชื่อพร้อมที่อยู่ซึ่งเขียนด้วยลายมือของครูนงนุช “คุณสมบูรณ์อยากรู้เรื่องราวของอุ๋งมากขึ้นว่าแต่ละอาทิตย์ทำอะไรบ้าง หรือมีปัญหาอะไรไหม ให้อุ๋งเขียนจดหมายไปเล่าให้เขาฟังทุกอาทิตย์”
“ทุกอาทิตย์เลยเหรอคะ แต่คุณอาสมบูรณ์ติดตามเฟซบุ๊กอุ๋งได้นะคะ อุ๋งมักจะลงอะไรๆ ไว้ในนั้น” อุ๋งมีสีหน้าฉงนที่ชายผู้นี้ยังใช้วิธีสื่อสารสุดคลาสสิกในขณะที่เขาสามารถเข้าถึงตัวเธอได้เพียงเสี้ยวนาที
“คุณสมบูรณ์บอกว่าถ้าเป็นไปได้ก็ทุกอาทิตย์ แต่ถ้าอุ๋งยุ่ง เดือนละครั้งก็ได้ ส่วนเรื่องโซเชียล คุณสมบูรณ์ไม่ได้เล่น และชอบกลิ่นกระดาษกับน้ำหมึกมากกว่า”
*********