“รอนานไหมคะพี่ธีร์” พรีมที่เดินตรงเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารก็เห็นหนุ่มคู่หมั้นถือแท็บเล็ตเอาไว้ในมือ ส่งสายจ้องมอง พร้อมกับมืออีกข้างที่ยกแก้วกาแฟที่ยังอุ่นๆ ขึ้นจิบ
“ใครว่าพี่รอเธอ” เสียงทุ้มตอบกลับพร้อมกับละสายตาออกจากหน้าจอมองหน้าหญิงสาว
“อ้าว ก็นึกว่าจะรอพรีมกินข้าวซะอีก” พรีมเอ่ยพลางเลื่อนจานอาหารเช้ามาไว้ตรงหน้าแล้วจัดการตักเข้าปาก พลางนึกในใจว่าเธอก็อุตส่าห์รีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะกลัวว่าคนที่ลงมาก่อนจะรอนาน แต่ที่ไหนได้ มานั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ ข้าวก็ไม่กินเป็นเพื่อน
กินข้าวเช้าเสร็จหนุ่มคู่หมั้นก็ขับรถไปส่งพรีมที่มหาวิทยาลัยเหมือนเดิม โดยที่บรรยากาศภายในรถนั้นเงียบสงบไร้เสียงพูดคุยของคนทั้งสอง
“สรุปวันนี้เลิกเรียนกี่โมงยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะ” ก่อนที่เธอจะลงจากรถธีร์ก็รีบถาม เพราะเมื่อเช้าที่เขาถามไปพรีมยังไม่ได้ให้คำตอบ
“เลิกเที่ยงค่ะ แต่พรีมขอกินข้าวกับเพื่อนก่อนนะคะ เสร็จแล้วจะโทรบอก” พรีมคิดว่ากินข้าวกับนิวเยียร์ก่อนค่อยกลับคงจะดีกว่า เพราะไม่แน่ว่าเขาอาจจะติดงานจนลืมเวลาก็ได้
“อืม”
เมื่อธีร์ตอบรับพรีมก็หันไปเปิดประตูลงจากรถ และเห็นเพื่อนชายที่เรียนด้วยกันกำลังเดินมาทางเธอพอดี
“ใครมาส่งเหรอ” เพื่อนหนุ่มหน้าตาดีที่มีชื่อว่าขุนเขาเอ่ยถาม พลางมองเข้าไปในตัวรถ และเจ้าของรถอย่างธีร์ก็นั่งจ้องมองมาทางพวกเขาผ่านกระจกหน้ารถเช่นเดียวกัน
“พี่ธีร์น่ะ” พรีมหันมองตามสายตาของเพื่อน ขุนเขาคงแปลกใจที่เห็นเธอลงมาจากรถของใครก็ไม่รู้เลยถาม
“ญาติเหรอ เราจำได้ว่าเธอไม่มีพี่นี่” ขุนเขาถามต่อ
พรีมคลี่ยิ้มมองคนในรถสลับกับมองหน้าเพื่อน เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ทันจะได้ตอบกลับ เพราะกำลังจะอ้าปากบอก เพื่อนของเธอก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
“อื้ม” พรีมตอบรับแล้วก็เดินเข้าตึกคณะไปพร้อมกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้นิวเยียร์จะมาถึงหรือยัง
ส่วนธีร์ที่นั่งอยู่ในรถทำทีคุยโทรศัพท์จ้องไปยังสองคนที่ยืนคุยกันอยู่หน้ามหาวิทยาลัย พลางถอนหายใจไปหลายเฮือก ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ คงจะมีเขาอยู่ในบทสนา ไม่อย่างนั้นเวลาคุยกันจะมองมาที่เขาเป็นระยะทำไม
และทันทีที่เห็นสองคนนั้นพากันเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย รถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปเพื่อเดินทางไปที่บริษัทของเขาต่อ
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ธีร์ก็ทำหน้าที่รับส่งคู่หมั้นสาวและออกจากบริษัทเพื่อไปรับเธอทันทีที่ได้รับสายจากพรีม แต่ก็อาจจะมีบางวันที่เธอไม่ได้มีเรียนช่วงเช้าหรือว่าเขาติดงานจริงๆ ก็จะให้พิรัชย์เป็นคนมาคอยรับส่งแทน
เช้าวันนี้พรีมกับกลุ่มเพื่อนมีเรียนแค่คาบเช้า พอเรียนเสร็จขุนเขาก็ชวนเธอและนิวเยียร์ไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย และระหว่างนี้ก็มีการพูดคุยรวมถึงชวนกันไปเที่ยวในค่ำคืนนี้
“คืนนี้ไปเที่ยวผับกันไหม เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง” ขุนเขาเอ่ยชวนเพื่อนสาวทั้งสอง ปกติเขาก็เที่ยวบ่อยอยู่แล้ว แต่กับสองคนนี้ไม่ค่อยได้ไปดื่มด้วยกันสักเท่าไร
“ไปๆ” นิวเยียร์รีบตอบรับไปอย่างเร็วพลัน
“ตอบไวเวอร์ จะไม่คิดสักนิดเลยเหรอ” พรีมหันไปพูดแขวะใส่เพื่อนรัก
“ก็นานๆ จะมีคนเลี้ยงทั้งที ฉันก็ต้องเซย์เยสอยู่แล้ว และอีกอย่าง ถ้าฉันไปแกก็ต้องไป”
พรีมว่าให้เพื่อน แต่เธอกลับโดนมัดมือชกเข้าจนได้
“เกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ ทำอย่างกับเวลาไม่มีคนเลี้ยงแล้วแกจะไม่เคยไปอย่างนั้นแหละ”
“ก็คนเขาอุตส่าห์ชวน ก็ตอบรับมันหน่อยสิ” นิวเยียร์ผู้ชอบแสงสี และดนตรีดังกระหึ่มในผับก็ตอบกลับเพื่อนรัก
ก็อย่างที่พรีมบอก ถึงไม่มีคนเลี้ยงเธอก็มีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว และก็ชอบไปสถานที่แบบนี้ออกจะบ่อย แต่ขุนเขาอุตส่าห์ชวนและออกปากเลี้ยงทั้งที ถ้าปฏิเสธก็จะทำให้เขาเสียน้ำใจ
“ไปด้วยกันนะ นิวเยียร์จะได้มีเพื่อน” ขุนเขาหันไปชวนคนที่ยังไม่รับปากว่าจะไปด้วยหรือไม่
“เอ่อ…” พรีมทำหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่าถ้าขออนุญาตธีร์แล้วเขาจะให้ไปหรือไม่
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้านตัวเอง เธอก็คงจะตอบตกลงไปแล้ว แต่นี่เธออยู่บ้านคนอื่น ยังไงก็ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเสียก่อน
“เดี๋ยวเย็นๆ เราให้คำตอบนะ”
“ก็ได้ครับ งั้นเราขอไลน์พรีมไว้นะ” ขุนเขาตอบรับ พร้อมกับขอช่องทางการติดต่อ
“อื้ม” พรีมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกนเพิ่มเพื่อน เอาไว้ขอกับหนุ่มคูหมั้นแล้วเธอค่อยให้คำตอบเพื่อนก็ยังทัน
“แล้วนี่แกจะกลับยังไง” นิวเยียร์นึกเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าพรีมต้องมานั่งรอพ่อคู่หมั้นสุดหล่อตั้งนานกว่าจะมารับ และบางวันก็ส่งคนอื่นมารับแทน นี่ถ้ายังปล่อยให้เพื่อนของเธอนั่งรอแบบนี้อีก เธอขอไปส่งเองดีกว่า
“พี่ธีร์จะมารับน่ะ เดี๋ยวฉันโทรหาเขาก่อน แต่ถ้าไม่ว่างคงต้องอาศัยรถแกแล้วล่ะ” พรีมตอบเพื่อน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหนุ่มคู่หมั้น
ระหว่างที่รอสายคิ้วบางก็ขมวดเข้าหากัน บอกว่าจะมารับ แต่พอโทรหาก็ไม่รับสาย พรีมจึงตัดสินใจส่งข้อความไปหาแทน
……….
Noo’ Preme : พรีมให้เพื่อนไปส่งที่บ้านแทนนะคะ เห็นข้อความแล้วโทรกลับหาพรีมหน่อยนะคะ
……….
“สรุปว่าไง ถ้าไม่ว่างฉันจะได้ไปส่ง” นิวเยียร์ที่มองตาก็รู้ใจ เพื่อนรักทำหน้าอย่างนี้คงไม่ผิดจากที่เธอคาดการณ์ไว้แน่
“ฉันขอกลับกับแกก็แล้วกัน”
“ว่าแต่คืนนี้เราจะนัดกันกี่โมงดี” พอได้คำตอบจากพรีม นิวเยียร์หันไปถามคนชวนที่จะเลี้ยงในคืนนี้
“เจอกันสองทุ่มที่ผับเอ็กซ์” ขุนเขาตอบนิวเยียร์ ก่อนจะหันไปพูดกับอีกคนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกัน “พรีมไปให้ได้นะ เราจะไปรออยู่ที่นั่น”
“อื้ม ไว้เราจะทักหา”
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ นิวเยียร์ก็ขับรถไปส่งพรีมที่บ้านของธีร์ ระหว่างทางก็พูดคุยกันตามประสาเพื่อนสาว พอไปถึงบ้าน พรีมก็ชวนเพื่อนเข้าไปนั่งเล่นเพราะยังไงบ่ายนี้ก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวอยู่ดี
“พี่ธีร์นี่ก็เฉยชากับแกไม่เปลี่ยนเลยนะ” นิวเยียร์ต่อว่าคู่หมั้นของเพื่อนสาว วันแรกที่เธอเห็นเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังให้ความรู้สึกว่าเขายังเป็นแบบนั้น ทั้งเฉยชาและไม่เห็นเพื่อนของเธออยู่ในสายตา
“ก็ดีกว่าเมื่อก่อนนิดนึง” อย่างน้อยเขาก็เริ่มพูดกับเธอมากขึ้น เช้าก็นั่งรอกินข้าว แล้วยังขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัย ถึงแม้ขากลับจะปล่อยให้เธอรอบ้าง แต่ก็พอเข้าใจว่าหน้าที่ของเขามันอาจจะไม่มีเวลาว่างตายตัว
“นี่แกเพิ่งมาอยู่บ้านเขาได้ไม่เท่าไหร่ก็แก้ตัวแทนกันซะแล้ว คงไม่ได้ตกหลุมรักกันแล้วหรอกนะ” นิวเยียร์เอ่ยแซวพร้อมกับยกยิ้มเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบของคนที่หน้าเริ่มแดงระเรื่อ
“ตกหลุมบ้าบออะไรล่ะ” พรีมเอ่ยพลางหลบสายตาเล็กน้อย
“แล้วนี่เขายังไม่ติดต่อกลับมาเหรอ” นิวเยียร์ถามถึงหนุ่มคู่หมั้นปุ๊บ โทรศัพท์เพื่อนสาวก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาพอดี
พรีมหันหน้าจอโทรศัพท์มาให้เพื่อนรักดู จากนั้นก็ยกยิ้มแล้วกดรับสาย พลางคิดในใจว่าคนอะไรตายยากจริงๆ พอพูดถึงปุ๊บ ก็โทรมาปั๊บเลยทีเดียว