ตอนที่2

1405 Words
อินทิราในร่างของสาวน้อยเย่วเย่วนอนคิดทบทวนกับพรของตัวเองว่าเพียงแค่นึกถึงมิติก็จะสามารถเข้าออกมิติของตัวเองได้เลย เพราะแม่ของเจ้าของร่างเดิมนอนหลับตัวของเย่วเย่วเองก็ไม่ได้ทำตัวเสียงดังให้มารดาได้ยิน(ต่อไปจะเรียกชื่อเย่วเย่วเลยนะคะ) พรึบ!!!!!!ไอ้แม่เจ้าสุดยอดดไอเท็มของท่านตาเทพที่ให้นางมา สวนผลไม้รวมถึงบ้านของนางในภพเก่าที่พี่ชายดูแลให้นางทุกอย่าง สองพี่น้องได้แบ่งสมบัติกันเรียบร้อยตามพินัยกรรมที่พ่อกับแม่ทำให้กับลูกทั้งสองคนเท่าๆกันทุกอย่างแม้แต่เงินในบัญชีของทั้งสองคน แต่ส่วนมากจะเป็นพี่ชายที่ดูแลไร่กับบ้านให้นางรวมถึงคนงานเก่าแก่ที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่ามากันแล้ว เพราะส่วนมากนางจะนอนที่คอนโดในเมืองมากกว่าถ้าวันหยุดจึงจะขับรถออกมานอนที่บ้านไร่ฟาร์มของนาง รายได้ของนางให้พี่ชายเป็นคนจัดการแทนทุกอย่างเงินทุกบาทนางจะให้พี่ชายเป็นคนจัดการ รวมถึงเวลาเก็บเกี่ยวจนขายเสร็จนางเพียงแค่รับเงินที่พี่ชายสุดที่รักโอนเข้าบัญชีของนางเพียงเท่านั้น เพราะอาชีพของนางต้องเข้าเวรเช้าบ้างดึกบ้าง ออกสนามช่วยเหลือชาวบ้านตามดอยสูงไปทุกที่จะไปเรื่อยๆให้ครบทุกหมู่บ้านในจังหวัดที่นางประจำการอยู่ เรื่องความอดทนกับการสู้รบนางต่อสู้มาทุกรูปแบบพี่ชายถึงขั้นส่งนางไปเรียนที่เมืองนอกจนจบหลักสูตรวิชาต่อสู้อาวุธทุกชนิด นางชอบการยิงปืนกับยิงธนูเป็นที่สุดในคอนโดของนางจึงมีห้องเก็บอาวุธส่วนตัว มี ปืนทุกชนิดอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ก็นางเป็นแพทย์ทหารในค่ายทางภาคเหนือ โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอดในตัวบ้านของนางมีห้องที่คอนโดรวมกันอยู่เพิ่มเข้ามาอีกห้องหนึ่ง เป็นบ้านอีกหลังรวมอยู่ในห้องเดียวในบ้านส่วนตัวที่บ้านไร่เข้ามาอีก อะเมซิ่งของขวัญจากท่านตาเทพที่ให้นางมา เย่วเย่วเดินไปที่ห้องครัวเปิดตู้เย็นดื่มนมกินขนมก่อนในตอนนี้ ผลไม้ที่นางมีในตู้ไม่เคยขาดแม้แต่อาหารสำเร็จที่พร้อมทานนางนำออกมาเวฟกินด้วยความหิว เพราะร่างเดิมนั้นดื่มเพียงน้ำข้าวต้มใสๆที่ไม่มีเม็ดข้าวเลยด้วยซ้ำแถมโดนไล่ออกมา ย่าของร่างเดิมนั้นใจร้ายปากร้ายเป็นที่หนึ่งอย่างยายแก่ต้องเจอข้านี้แม่จะฟาดให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย ตอนนี้ต้องบำรุงร่างกายของเย่วเย่วให้แข็งแรงก่อนนางเดินไปที่ตู้ยาและหยิบยาลดไข้แก้อักเสพอออกมากินต่อหลังจากทานข้าวอิ่ม อาบน้ำทำความสะอาดร่ายกายในมิติจนเรียบร้อยก่อนจะออกมาข้างนอกนั้นก็ยามเหมาแล้ววันนี้นางจะบอกเรื่องมิติและบอกกับพ่อของตัวเองเรื่องย่าเสียใหม่ คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นก็ให้อยู่กับคนเหมือนกันกับนางนั้นแหละก็คือลูกชายคนโตของนางกับสะใภ้ใหญ่นั้นเอง เย่วเย่วลืมตาขึ้นมายามเหมากว่าๆมองดูแม่ของสาวน้อยเจ้าของร่างเดิมอย่างสงสาร อายุของนางคงยังไม่ถึงสี่สิบคงจะประมาณสามสิบห้าปีเพราะแต่งงานตั้งแต่เด็กลูกจึงโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พี่ใหญ่เซียวอี้เหออายุสิบเจ็ดปีเย่วเย่วสิบห้าปี ส่วนบิดาเซียวอี้ถังคงจะสามสิบแปดปีสามสิบเก้า มารดาของนางชื่อเซียวอี้หลัน "ท่านแม่ข้าตื่นแล้วเจ้าค่ะ" นางตอบมารดาพอนางขยับตัวมารดาก็ลุกขึ้นเอามืออิงหน้าผากดูไข้ของนางทันทีเพราะเมื่อคืนนี้ลูกสาวของนางไข้ขึ้นสูงจนนางใจเสีย เพราะไม่มียากินนางยอมบากหน้าไปหาหมอยาในหมู่บ้าน ท่านสงสารจนให้ยามาห่อหนึ่งนางไม่มีแม้อีแปะจะจ่ายค่ายาจึงติดหนี้เอาไว้ก่อน ท่านหมอก็สงสารจึงให้ยามาก่อน ส่วนลูกชายก็ดูแลบิดาที่อยู่อีกห้องเพราะตกเขาขากระแทกหินจนหักได้หมอชราเอาไม้ดามเอาไว้ให้ตามมีตามเกิด ทั้งติดค่ายาเอาไว้เหมือนกันทั้งยังโดนไล่ออกจากบ้านอีกเพราะลูกสาวของพี่สะใภ้ใหญ่ผลักเย่วเย่วตกน้ำ ย่าที่ลำเอียงอยู่แล้วพอบิดาของนางหาตำลึงเข้าบ้านไม่ได้ก็ไล่เหมือนหมูเหมือนหมาที่เปลืองข้าวเปลืองน้ำในบ้านถึงสองคน ทั้งที่คนทำงานก็ครอบครัวของนางที่ทำทุกอย่างยิ่งกว่าทาสเสียอีก เซียวอี้หลันคิดด้วยความเสียใจที่นางต้องยอมเพราะแม่สามีของนางยอมแต่งให้นางที่ยากจนอาศัยกับตายายที่แก่ชราเพราะรักสามีมาก นางจึงยอมแม่สามีมาโดยตลอดคิดว่าความดีจะสามารถเปลี่ยนใจแม่สามีได้สักวัน จนมีลูกสองคนสี่คนพ่อแม่ลูกยังตกเป็นทาสของคนที่อ้างตัวว่าย่าและคำว่ากตัญญูมาอ้างบุญคุณที่นางยอมให้แต่งลูกสะใภ้ยากจนเข้าบ้าน "เย่วเอ๋อร์ลูกหายแล้วจริงๆหรือลูก " นางกอดบุตรสาวร้องให้ด้วยความอัดอั้นตันใจในชะตากรรมของครอบครัวตัวเองในตอนนี้ อินทิรามองมารดาของเจ้าของร่างเดิมด้วยความสงสาร กอดร่างที่ผอมแห้งของมารดาเย่วเย่วด้วยความสงสารต่อจากนี้นางจะทำให้พวกเขามีแต่ความสุขและร่ำรวย "ท่านแม่ข้าหายแล้วจริงๆเจ้าค่ะข้ามีเรื่องจะเล่าให้ท่านรวมถึงพี่ใหญ่กับท่านพ่อฟัง เมื่อคืนนี้ข้าคิดว่าข้าจะไม่ได้กลับมาหาท่านแม่และทุกคนแล้ว แต่มีท่านตาเทพสงสารจึงช่วยให้ข้าให้หายเจ็บป่วยและให้ของวิเศษติดตัวมา มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้แลกกับการทำความดีช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า ใช้ชีวิตและใช้วิชาที่ท่านตาพาข้าไปร่ำเรียนวิชาหมอในยุคของกาลข้างหน้า การต่อสู้ทุกรูปแบบทั้งการเพาะปลูกติดตัวไม่ว่าข้าจะทำอะไรก็จะเติบโตแข็งแรง และอย่าอ่อนแอให้คนรังแกเอาเปรียบครัวครัวของเราได้อีกท่านแม่ท่านเชื่อข้าไหมเจ้าคะ" นางถามและรอคำตอบไปด้วย นางเซียวอี้หลันถึงกับสั่นสะท้านกับคำที่ว่าบุตรสาวได้ไปเยือนปรโลกเบี้ยงหน้ามาแล้วนางกอดลูกร้องให้ด้วยความตกใจปากก็บอกกับลูกว่า "แม่ขอโทษที่แม่อ่อนแอไม่สามารถปกป้องลูกจากครอบครัวของป้าสะใภ้ใหญ่ได้จนทำให้ลูกของแม่เกือบตาย" นางร้องไห้ด้วยความเสียใจที่อ่อนแอมาตลอดที่แต่งงานกับบิดาของลูก เสียงร้องไห้ของมารดาทำให้สองพ่อลูกที่อยู่ห้องติดกันตกใจ เซียวอี้เหอวิ่งเข้ามาในห้องหามารดากับน้องสาวและถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเขา "ท่านแม่น้องเล็กเป็นอะไรขอรับให้ข้าไปตามหมอหรือไม่ขอรับ" "พี่ใหญ่ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะข้าหายดีแล้วท่านแม่ดีใจจึงร้องไห้ที่ข้าหายจากการเจ็บป่วยเจ้าค่ะ" เย่วเย่วตอบแทนมารดาที่กอดนางร้องให้ "ท่านแม่เจ้าคะข้าอยากไปหาท่านพ่อและเล่าทุกอย่างที่ข้ามีให้ครอบครัวของเราได้รู้พร้อมๆกันเจ้าค่ะ พาข้าไปหาท่านพ่อข้าอยากตรวจดูขาให้ท่านพ่อว่าจะรักษาได้หรือไม่เจ้าคะ" นางเรียกสติมารดาคืนมาก่อน "ได้สิเจ้าใหญ่มาช่วยแม่ประคองน้องไปที่ห้องข้างกันเร็วเข้าลูก " เซียวอี้หลันบอกบุตรชาย "ท่านแม่ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ" นางบอกมารดาแต่พี่ชายก็คอยประคองนางเพราะกลัวนางจะล้มเพราะร่างกายนี้ของนางผอมแห้งมากนั้นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD