ฉันต้องจำใจมาบ้านของคุณไฟแต่วันนี้มีรถจอดอยู่หลายคัน คุณยิวลงมาแจ้งว่าตอนนี้ติดคิวสักยันต์อยู่ให้นั่งรอด้านล่างก่อน ฉันเลยเดินดูรอบๆบ้าน บ้านหลังนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีแปลกๆ
[น้องอยากได้ดอกนั้นเจ้าค่ะคุณพระ]
[พี่เหนื่อยแล้วหนา เดินเก็บดอกไม้ให้น้องทั้งวัน]
ฉันต้องสลัดความคิดนี้ออกไปจู่ๆก็เพ้อเจ้ออะไรก็ไม่รู้ หันกลับมาก็เจอคุณไฟยืนอยู่ด้านหลัง ทำเอาฉันตกใจหมดคนยิ่งขวัญอ่อนอยู่
“นั่นศาลาอายุร้อยกว่าปีแล้ว”
“เหรอคะทำไมไม่เปลี่ยนล่ะ”
“เจ้าของเขาไม่อยากให้เปลี่ยนไงล่ะ”
“เจ้าของคือใครคะ” ฉันมองหน้าคุณไฟวันนี้เขาดูแปลกไปจากเมื่อวาน วันนี้ดูเป็นคนขึ้นมาหน่อย
“ช่างเถอะแล้วคุณมาหาผมทำไมมีธุระอะไรหรือเปล่า”
“พี่จีจี้ค่ะที่มี” ฉันเดินคุยกับคุณไฟมาที่ศาลาร้อยปี รอบๆมีแต่ดอกไม้เต็มไปหมดเลย
“เดี๋ยวคนของผมก็คงพามา” ผมมองหน้าหนูแพรไหมก็เห็นถึงความผิดปกติ ภาพของนางในฝันมันทับซ้อนกันอยู่
[ทำไมคุณพระถึงยังไม่มาอีก]
[รออีกหน่อยเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวคุณพระก็มาแล้ว]
[แต่นี่มันเย็นมากแล้วหนา ข้าจะรอไม่ไหวอยู่แล้ว]
อีกแล้วหนูแพรได้เยินเสียงประหลาดๆอีกแล้วนะ ฉันจับหน้าอกตัวเองตอนนี้มันกำลังเต้นเร็วผิดปกติ
“คุณหนูแพรไม่สบายหรือเปล่าครับ” ผมมองหน้าเธอที่ดูไม่สบายใจ ใบหน้าซีดๆ
“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
ไม่นานจีจี้ผู้จัดการคนสวยก็เข้ามาหาทั้งสองคน ก่อนจะกล่าวของคุณเพราะตอนนี้หนูแพรมีงานละครเรื่องพิษรักรอยอดีต เป็นละครเกี่ยวกับไสยศาสตร์จากคนรักในอดีต
“เรื่องนี้ตอนแรกพี่ผิงผิงต้องได้เล่นไม่ใช่หรือคะพี่จีจี้”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ช่องเปลี่ยนตัวกะทันหันเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่คุยกับผิงผิงแล้ว ผิงผิงเขาโอเคตอนนี้ได้เล่นซีรีย์แทน”
“ค่ะ”
“แต่ว่าเรื่องนี้คงต้องให้คุณไฟช่วยติวให้น้องแล้วล่ะ น้องเป็นเด็กจบนอกมาไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ ถ้าจะขอให้น้องมาดูการทำพิธีบ่อยๆได้ไหมคะ”
ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเป็นความต้องการของพี่จีจี้นะ ชอบเขาขนาดนั้นทำไมไม่จีบเขาไปเลย
“ถ้าไม่มากวนพิธีของผมก็ไม่เป็นไรครับ แต่ของแบบนี้จะให้คนไม่เชื่อไม่ศรัทธามาเชื่อเลยมันก็คงยาก การแสดงมันใช้อินเนอร์แต่ของจริงมันไม่ใช่ ผมอนุญาตให้มาศึกษาได้แต่ห้ามถ่ายรูปการทำพิธีออกไป ทำได้ไหม” ผมหันไปถามทั้งสองคน
“ได้ค่ะ จีจี้รับประกันว่าน้องจะไม่ทำให้คุณไฟเสียเวลาเลย”
หลังจากกลับมาจากบ้านของคุณไฟฉันก็ต้องมารับบทละครกับพี่จีจี้เพื่อไปทำการบ้าน ละครเรื่องนี้เริ่มถ่ายเดือนหน้าเพราะฉะนั้นฉันต้องเริ่มทำความเข้าใจกับพวกของที่ใช้สำหรับทำพิธีร่างทรง หรือพวกมนต์ดำ
“นางเอกชื่อทอไหม เป็นลูกสาวของพระยานาหมื่นแต่ถูกทาบทามให้เป็นคู่หมายกับคุณพระวิศุทธิ์ แม้ทั้งสองจะเติบโตมาด้วยกันแต่ก็ต่างมีใจให้กัน” ฉันอ่านแค่บทเดียวก็รู้สึกแปลกๆกับตัวเองจึงต้องวางทุกอย่างเพื่อกลับคอนโดและนอนแช่น้ำเพื่อให้สมองมันโปร่ง
[คุณพระทำไมทำกับน้องแบบนี้เจ้าคะ]
ครืดดดด ครืดดดด
เสียงโทรศัพท์ทำให้ฉันต้องเอื้อมมือไปหยิบจากนั้นก็เปิดลำโพงปลายสายคือพี่จีจี้ โทรมาแจ้งเวลาไปบ้านขอบคุณไฟในวันพรุ่งนี้
“พี่จะเข้ามารับใช่ไหมคะ”
“พรุ่งนี้พี่ต้องไปกับผิงผิง แต่พี่บอกคุณไฟไปแล้วว่าพี่จะไม่ได้เข้าไป ยังไงก็ช่วยพูดจาดีๆหน่อยนะหนูแพร พี่กำลังคิดว่าที่หนูแพรได้เล่นละครเรื่องนี้อาจเกี่ยวโยงกับคุณไฟค่ะ”
“ทำไมเหรอคะ”
“ก็เพราะว่า อุ๊ย! ตายแล้วพี่ลืมเลยนัดเด็กไว้ เดี๋ยวไว้คุยกันนะคะ”
และสายก็ถูกตัดไป ฉันเลยไม่รู้เรื่องเลย แต่มันจะไปเกี่ยวกับคุณไฟได้ยังไงกัน ฉันรีบลุกมาล้างตัวก่อนจะออกมาหยิบบทละครขึ้นมาอ่านใหม่แต่ไม่ไหวแล้วววว หาววววว ครอกกกก
วันต่อมา
ฉันลงมาที่ล็อบบี้คอนโดก็เจอคนของคุณไฟยืนรออยู่ นี่ส่งรถมารับเลยเหรอเนี่ยผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
"คุณหนูแพรคุณไฟส่งผมมารับครับ"
"ค่ะ จริงๆเรียกหนูแพรเฉยๆก็ได้ค่ะ"
"ไม่เหมาะมั้งครับ ผมชื่อยิวนะครับเชิญครับ"
มาถึงบ้านของคุณไฟฉันก็เดินเข้าไปด้านในตอนนี้คุณไฟกำลังสวดมนต์อะไรบางอย่างกับน้ำในถังอยู่
"ปลุกเสกน้ำมนต์ครับ ผู้หญิงคนนั้นเธอถูกเมียน้อยทำของใส่มา"
"โอ้วมายก๊อด!! เป็นตุเป็นตะฮ่าๆๆ"
แพรไหมยังคงไม่เชื่อเธอหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆยิว แต่จู่ๆก็มีเสียงหวีดร้องออกมายากหญิงสาวที่ถูกผู้ชายสองคนจับอยู่
กรี๊ดดดดด!!!!!
"มึงอย่ามาเสือกไอ้หน้าหล่อ!!!"
ปึ้ง!!!
แพรไหมสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆหญิงสาวคนนั้นก็จะพุ่งเข้าไปหาคุณไฟ แต่เพียงแค่แตะตัวก็หงายท้องตึง
"ทำไมเป็นแบบนี้คะคุณยิว"
"ไม่ว่าของต่ำหรือสัมภเวสีก็ไม่สามารถเข้าใกล้คุณไฟได้ครับ คุณไฟถือได้ว่ามีวิชาที่แก่กล้ามาก"
"นั่นเขาจะทำอะไรคะ"