รักร้ายเจ้านายอัลฟ่า

รักร้ายเจ้านายอัลฟ่า

book_age18+
80
FOLLOW
1.0K
READ
HE
stepfather
heir/heiress
blue collar
drama
serious
assistant
like
intro-logo
Blurb

" ฉันแค่อยากมีลูก....อลิเซียหล่อนมีลูกให้กับฉันได้ ส่วนนายมีหน้าที่แค่ทำให้ฉันมีความสุขก็พอ "

เพราะต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์อันต่ำศักดิ์ ชีวิตจึงถูกลิขิตให้ด้อยค่าเกินกว่าจะได้รับเกียรติใดๆ

“เจสัน” เด็กหนุ่มกำพร้าที่เป็นเพียงเบต้าธรรมดา อาศัยชายคาตระกูลอัลบราเซสในฐานะ "คนรับใช้" เขาจึงเป็นได้เพียงแค่เครื่องระบายอารมณ์ใคร่ ในยามที่เจ้านายหนุ่มอย่างอัลเดร “อยาก” ด้วยเพราะหัวใจอันเปราะบางและอ่อนโยนจึงทำให้เขาแอบเผลอใจไปรักเจ้านายผู้ไร้หัวใจ ซึ่งเป็นความรักอันแสนทรมาน

“อัลเดร” เจ้านายอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์ผู้หยิ่งทะนงในตัวเอง ใช้อำนาจบังคับให้เจสันยอมนอนกับตัวเองแต่เพราะหัวใจดวงนี้ไม่เคยรู้จักคำว่า “รัก” แม้จะมีเจสันแล้ว แต่อัลเดรกลับประกาศแต่งงานกับ อลิเซียหญิงสาวซึ่งมีเชื้อสายอัลฟ่าบริสุทธิ์เหมือนกัน

เจสัน...เจ้าของหัวใจอันเปราะบางดวงหนึ่ง จะทนแบกรับความเจ็บปวดได้สักแค่ไหนกัน?

***-------------------------***

"ฉันแค่อยากมีลูก....อลิเซียหล่อนมีลูกให้กับฉันได้ ส่วนนายมีหน้าที่แค่ทำให้ฉันมีความสุขก็พอ"

“คุณแต่งงานกับคุณอลิเซียแล้ว ทำไมยังมายุ่งกับผมอีก”

“ฉันแต่งงานกับอลิเซีย เพราะหล่อนกำลังท้องลูกของฉัน” คำยืนยันจากริมฝีปากหนาที่ขยับขึ้นลงอยู่ตรงหน้าเหมือนน้ำกรดที่สาดรดใส่ลงมาในหัวใจผม คุณอัลเดรเป็นคนฉลาดแต่เขามองไม่ออกจริงๆ หรือว่าผมเจ็บปวดแค่ไหนกับการกระทำของเขาในครั้งนี้

“นั่นเป็นเหตุผลที่มากพอแล้ว คุณควรหยุดทุกการกระทำที่เคยทำกับผม”

“ทำไมฉันต้องหยุด นายมีสิทธิ์ขอร้องอย่างนั้นเหรอ เจสันชีวิตนาย วิญญาณนายมันเป็นของตระกูลอัลบราเซส แม้แต่เถ้ากระดูก นายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะยกมันให้ใครถ้าฉันไม่อนุญาต”

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็เอามันคืนไปสิ...ลมหายใจทาสรับใช้อย่างผมไม่เคยมีค่าสำหรับคุณ ปล่อยให้มันลอยหายไปในอากาศเถอะ”

เพี๊ยะ! ฝ่ามือหนาร้อนฉ่าฟาดเปรี้ยงตบลงมาบนแก้มของผมฉาดใหญ่ แรงฝ่ามือนั้นส่งใบหน้าของผมเหวี่ยงสะบัดไปตามแรงมือของเจ้านายหนุ่ม แววตาแข็งกร้าวอันเยือกเย็นดุจน้ำแข็งขั้วโลกราวกับเจ้าของมันถูกฝังหัวใจเย็นชาให้ลึกลงไปใต้ภูเขาน้ำแข็งจ้องลงมายังผมนิ่งปราศจากซึ่งความรู้สึกใดๆ

“อย่ามาพูดจาจองหองประชดใส่ฉันอีก นายเป็นแค่คนใช้ ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับฉัน”

ic_default
chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น “หนึ่ง สอง สาม สี่ .... หนึ่งร้อยหกสิบหก หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ด หนึ่งร้อยหกสิบแปด” ท่ามกลางความมืดในยามค่ำคืน ดวงดาวบนท้องฟ้าที่กำลังส่องแสงระยิบระยับไกลออกไปนั่นคือเพื่อนผม ลังไม้สำหรับใส่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เก่าจนผุ แผ่นไม้บางแผ่นหักหลุดออกไปจนใช้งานไม่ได้แล้ว ผมลากมันมาจากกองขยะแล้วเอามาต่อกันวางปูลงไปบนพื้นเพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องบนไปกับพื้นดินเฉอะแฉะ ผมมีเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่โคร่งของลุงพรูฟเจ้าของไร่ข้าวโพดซึ่งวันก่อนผมเห็นลุงพรูฟเอามันใส่ถุงดำมาโยนทิ้งไว้ในถังขยะหน้าบ้าน ผมสวมมันแทนเสื้อผ้าเก่าขาดวิ่นกะรุ่งกะริ่งที่ผมใส่มันติดตัวมาจากบ้านวันที่แม่บอกกับผมว่าจะพามาหาพ่อ ก่อนที่แม่จะบอกให้ผมนั่งรออยู่ตรงสะพานไม้ผุๆ พร้อมกับกำชับว่าห้ามไปไหน นานหลายวันมาแล้วแม่ผมยังไม่กลับมาและผมยังคงนั่งรอแม่อยู่ตรงนี้เพื่อหวังว่าสักวันแม่จะเดินจูงมือผู้ชายคนหนึ่งกลับมาแล้วสอนให้ผมเรียกเขาว่า พ่อ คืนนี้ท้องฟ้าแจ่มใสหวังว่าฝนคงไม่ตกเพราะผมจะได้ไม่ต้องคอยระแวงว่าน้ำจากบนภูเขาจะไหลบ่าลงมาหรือเปล่า เพราะสะพานที่ผมใช้หลบนอนอยู่นี่เป็นทางระบายน้ำ “อัลเดรนายไม่ควรออกมาข้างนอกคนเดียวกลางดึกแบบนี้” เสียงของเด็กผู้ชายสองคนยืนเถียงกันอยู่ไม่ห่างจากจุดที่ผมนอนนับดาว ผมลุกขึ้นมานั่งบนลังไม้ชะเง้อคอขึ้นไปมองดูเด็กผู้ชายอายุมากกว่าผมสองคนกำลังยืนเถียงกันอยู่ ก่อนที่เด็กผู้ชายชื่ออัลเดรจะโยนอะไรบางอย่างลงมาในคลองนี่ “โรแลนนายไม่อยากหาอะไรสนุกๆ ทำหรือไง ข้างในนั่นน่าเบื่อจะตายไป” ผมเห็นเด็กผู้ชายสองคนวิ่งไปอีกทาง ผมมองตามหลังเด็กหนุ่มสองคนนั้นจนเขาลับไปจากสายตาแล้วลุกขึ้นจากลังไม้เดินไปดูว่าเด็กที่ชื่ออัลเดรโยนอะไรลงมา “โอ้โห...เบอร์เกอร์ ขอบคุณนะอัลเดร” ผมร้องกระโดดดีใจเพราะเด็กคนนั้นโยนแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ที่มันถูกกัดไปเพียงไม่กี่คำทิ้งลงมา ผมหยิบห่อเบอร์เกอร์จากสวรรค์ขึ้นมาจากพงหญ้า ถึงแม้มันอาจจะเปื้อนดินนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นอะไรหรอกผมกินได้ ผมรีบเอาเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่มาวางไว้บนลังไม้แล้วรีบวิ่งไปล้างมือจากน้ำในคลองซึ่งไหลมาอย่างเอื่อยๆ แล้วมานั่งกินเบอร์เกอร์แสนอร่อยอย่างมีความสุข แค่เพียงไม่นานเบอร์เกอร์ทั้งชิ้นก็ลงไปอยู่ในท้องของผมจนหมด ผมนอนห่อตัวเองไว้ด้วยเสื้ออุ่นๆ ของลุงพรูฟอยู่แบบนี้นานแล้ว แต่เด็กสองคนนั้นที่หายไปทางชายป่ายังไม่ยอมกลับออกมา สักพักเสียงร้องดังเอะอะพร้อมกับเสียงหมาเห่ากรรโชกเสียงดังออกมาจากชายป่า ผมลุกขึ้นนั่งแล้วรีบวิ่งไปตามเสียงนั้นจนมาเจอกับเด็กผู้ชายที่ชื่ออัลเดรกำลังถือไม้ท่อนใหญ่หันเข้าใส่หมาเฝ้าไร่ของลุงพรูฟ “ออกไปนะไอ้หมาบ้า” เด็กผู้ชายหน้าตาดีแต่งตัวสะอาดสะอ้านเหวี่ยงไม้ไปมาพร้อมกับปากร้องตะโกนไม่หยุด ส่วนเด็กหนุ่มที่ดูโตกว่าอีกคนยืนลังเลอยู่ข้างๆ “อัลเดรนายอย่าไปตีมันนะ” เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ชื่อโรแลนร้องห้ามเพราะคนชื่ออัลเดรกำลังจะฟาดไม้ใส่เจ้าวิสกี้หมาของลุงพรูฟ “อย่าตีมันนะ” ผมรีบวิ่งไปขวางก่อนที่ไม้ท่อนใหญ่จะฟาดใส่เจ้าวิสกี้ แต่กลับกลายเป็นว่าไม้ท่อนนั้นฟาดลงมาบนหัวผมอย่างจัง ผมได้ยินแค่เสียงดังโพล้ะ จากนั้นก็แทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะความรู้สึกมันมึนๆ งงๆ ไปหมดได้ยินแต่เสียงคนเถียงกันไปเถียงกันมาอยู่ใกล้ๆ "ฮื้อ...ฮือ" ผมล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น ผมแหกปากร้องไห้เสียงดังผสมกับเสียงเห่าของเจ้าวิสกี้ มือเล็กๆ ยกขึ้นมากุมหัวตัวเองพร้อมกับมองกลับไปยังเด็กที่ยืนถือไม้ท่อนใหญ่มองมายังผมเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ผมรับรู้ถึงอ้อมกอดของเด็กผู้ชายตัวโตที่ชื่อโรแลนซึ่งวิ่งมาประคองผมเอาไว้ “อัลเดรนายตีเขาทำไม เขายังเด็กอยู่เลยนะ” “ใครใช้ให้มาขวางล่ะ ฉันจะตีหมาตัวนั้นต่างหาก แค่เด็กข้างถนนธรรมดานายจะสนใจไปทำไมกันโรแลน” ผมถูกแบกขึ้นหลังแล้วกลับมายังบ้านหลังใหญ่ของลุงพรูฟเสียงคนเอะอะโวยวาย เลือดสีแดงไหลออกมาจากหัวผมเปรอะไปตามเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวที่ผมมีจนมันแดงไปครึ่งตัว ลุงพรูฟหิ้วกล่องพลาสติกสีขาวขุ่นมาเปิดออกแล้วเอาน้ำอะไรเหม็นๆ ราดหัวผมพร้อมกับถูแรงๆ ผมทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แต่ไม่กล้าร้องไห้เพราะมีผู้ใหญ่อยู่กันหลายคน ที่บ้านหลังใหญ่ถ้าเด็กคนไหนร้องไห้เสียงดังน่ารำคาญพวกเราจะถูกตี ผมเลยต้องยืนสะอื้นฮึกๆ เอามือกำชายเสื้อเชิ้ตเก่าๆนั้นไว้แน่น “เธอชื่ออะไร” คุณลุงแก่อายุมากคนหนึ่งท่าทางดุมากยืนจ้องผมตาเขม็ง ลุงพรูฟถอยออกไปยืนถือกล่องยาอยู่ข้างๆคุณลุงคนนั้นหลังจากเอาก้อนสำลีมาโปะลงบนหัวผมก้อนใหญ่ “เจสัน” ผมยืนมองจ้องหน้าคุณลุงคนนั้นแล้วหันไปมองเด็กตัวโตที่ชื่อโรแลนซึ่งยืนมองผมอยู่ ดวงตาคู่สีน้ำตาลทองอบอุ่นอ่อนโยน ผิดกับเด็กผู้ชายอีกคนซึ่งยืนกอดอกมองผมราวกับผมเป็นกิ้งกือไส้เดือน “แล้วนี่พ่อแม่ของเธอล่ะ ไปไหน” “ผมไม่มีพ่อ แม่บอกว่าให้ผมนั่งรออยู่แถวนี้ แล้วแม่จะพาพ่อกลับมารับผม” ผมยืนเอานิ้วชี้แหย่เข้าไปในรอยขาดของเสื้อเชิ้ตลุงพรูฟซึ่งสวมอยู่ ชายเสื้อเปื่อยๆ คลุมยาวลงไปจนถึงหัวเข่า ผมต้องม้วนแขนเสื้อนั้นขึ้นมาเป็นวงใหญ่ๆ เหมือนเอาแขนตัวเองสอดเข้าไปในโดนัทชิ้นโต “เธออยากไปอยู่กับฉันมั้ย ไปรอแม่ที่บ้านของฉัน” คุณลุงคนนั้นถามผม ถึงแม้ใบหน้าถมึงทึงนั้นจะดุแต่แววตาของคุณลุงกลับมีแววอบอุ่นใจดีอย่างน่าประหลาด “ถ้าแม่มาหาผมไม่เจอล่ะ” ผมแหงนคอขึ้นไปมองดูผู้ใหญ่หลายคนซึ่งยืนล้อมรอบผมอยู่ “ฉันจะบอกแม่เธอให้ว่าเธอไปอยู่กับคุณพารัส” ลุงพรูฟพยักหน้าให้ผมพร้อมกับรอยยิ้ม ดูเหมือนลุงพรูฟจะโล่งใจที่ผมไปไกลได้จากใต้สะพานของไร่ลุงเสียที หลังจากเคยพยายามเอาไม้ไล่ตีผมหลายครั้งเพราะกลัวว่าผมจะแอบไปขโมยข้าวโพดในไร่ตัวเอง ผมเดินตามหลังคุณพารัส คุณโรแลน และคุณหนูอัลเดรจนมาถึงรถยนต์คันหรูซึ่งจอดติดเครื่องยนต์รออยู่ ตอนนี้น่าจะดึกมากพอสมควรแล้วเพราะบนท้องฟ้าที่ผมนอนนับดาวอยู่เมื่อครู่ตอนนี้พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเล็กๆ มันเคลื่อนตำแหน่งจากเดิมไปไกลมาก “ออกไปนะอย่ามาใกล้เหม็น” คุณหนูอัลเดรยกเท้าขึ้นมาถีบผมอย่างแรงขณะที่ผมกำลังปีนขึ้นไปบนรถคันใหญ่จนหงายท้องลงมา โชคดีที่คุณโรแลนคว้าแขนของผมเอาไว้ได้ทันก่อนที่หัวจะฟาดพื้น “หยุดนะอัลเดรเลิกทำตัวเกเรได้แล้ว” คุณโรแลนตะคอกเสียงดังใส่คุณอัลเดร “ถ้าอยากให้มันไปด้วยก็ให้มันเกาะท้ายรถไปอย่าเอามานั่งใกล้ฉัน เหม็นจะอ้วก” คุณหนูอัลเดรปิดประตูรถแล้วนั่งกอดอกอยู่ด้านใน ผมได้แต่ยืนยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาทิ้ง เพราะรู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้ไปอยู่กับคุณพารัสและคุณโรแลน ผมได้ยินเสียงคุณโรแลนถอนหายใจหนักๆ แล้วเดินจูงมือผมไปตรงริมรั้วของบ้านลุงพรูฟหยิบสายยางแล้วเปิดน้ำมาราดหัวผม “อื้อ อย่าแกล้งผม” ผมร้องเสียงดังพร้อมกับแหงนคอขึ้นไปมองหน้าคุณโรแลนทันที “ฉันไม่ได้แกล้งนาย ตัวนายเหม็นเหมือนที่อัลเดรบอกจริงๆ นั่นแหละ เอ้า...ล้างตัวก่อนอัลเดรจะได้ไม่ว่านายอีก” คุณโรแลนเอาน้ำมาราดแล้วพยายามใช้ฝ่ามือนุ่มๆ มาถูตามหน้าตาเนื้อตัวของผมไปด้วย “แต่มันเปียก ผมไม่มีเสื้อผ้าใส่นะ” ผมยืนก้มลงมามองเสื้อของลุงพรูฟซึ่งเปียกลู่ไปกับตัวผอมลีบของผม พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหน้าลูบตาตัวเองแรงๆ ตามที่คุณโรแลนบอก “ถอดเสื้อผ้าของนายออก ใส่เสื้อของฉันนี่” คุณโรแลนยื่นมือมาช่วยผมถอดเสื้อผ้าจนผมเหลือแต่ตัวเปล่าๆ จากนั้นคุณโรแลนถึงได้ถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาสวมทับให้ผม คุณโรแลนตัวโตเป็นหนุ่มแล้ว เสื้อของคุณโรแลนถึงจะไม่ใหญ่เท่าเสื้อลุงพรูฟแต่มันก็อุ่นสบายแล้วก็หอมมากด้วย ชายเสื้อของคุณโรแลนมันยาวพอที่จะทิ้งตัวลงไปปิดไอ้จ้อนน้อยของผมเอาไว้ไม่ให้คุณอัลเดรเห็นเดี๋ยวจะหาเรื่องมาดุผมอีก ผมถูกพามาอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณพารัส เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมมีห้องกับเตียงนอนนุ่มๆ เป็นของตัวเอง มีอาหารให้กินได้ตลอดเวลา แค่ผมเดินเข้าไปในครัวเท่านั้น ผมได้ไปเรียนหนังสือเหมือนคุณหนูอัลเดรถึงจะเป็นคนละโรงเรียนกันก็ตามที ใครๆ บอกผมว่าตอนนี้ผมอายุเจ็ดขวบแล้ว ส่วนคุณอัลเดรอายุสิบสี่กำลังเรียนในโรงเรียนประจำของอัลฟ่าโดยเฉพาะ ผมดีใจมากที่คุณอัลเดรไปเรียนในโรงเรียนประจำเพราะจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าคุณอัลเดรนานหลายเดือนผมไม่อยากถูกแกล้งอีก สำหรับคุณอัลเดรแล้วผมอาจจะมีค่าน้อยกว่าลูกหมาตัวหนึ่งเพราะผมไม่เคยถูกปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมอย่างมนุษย์ทั่วไปจากคุณอัลเดรแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนคุณโรแลนอายุสิบแปดปีกำลังเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังในอิตาลี ผมชอบอยู่กับคุณโรแลนมากกว่าเพราะคุณโรแลนใจดีชอบแบ่งขนมให้ผมกินแล้วยังสอนหนังสือผมด้วย ผมทั้งรัก ทั้งเคารพคุณโรแลนเสมอเจ้าของชีวิต จนเมื่อเรียนจบผมจึงขอคุณพารัสติดตามคุณโรแลนรับใช้อยู่ข้างกายด้วยความจงรักภักดีเสมอมา จนกระทั่งวันนั้นภายในคฤหาสน์หลังนี้ ในงานเลี้ยงวันเกิดครบเก้าสิบเจ็บปีของคุณพารัสขณะที่ผมกลับมานอนพักยังห้องนอนส่วนตัวหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน “คุณอัลเดร” “ฉันต้องการนาย” คุณอัลเดรคำรามใส่ผมเสียงสั่น ผมรู้ในทันทีว่าคงเพราะเมื่อครู่นั่นคุณอินดี้คนรักของคุณโรแลนซึ่งเป็นโอเมก้าเกิดอาการฮีทรุนแรงขึ้นกลางงานวันเกิดของคุณพารัส จนเกิดเป็นเหตุการณ์โกลาหลวุ่นวายไปหมด แล้วมันคงส่งผลต่อคุณอัลเดรให้เกิดอาการ “รัท” คุณอัลเดรตรงเข้ามาฉีกกระชากเสื้อผ้าของผมออกโดยที่ผมทำได้เพียงปัดป้องตัวเองแต่ไม่กล้าลงมือทำร้ายเจ้านายตัวเองแรงๆ “คุณอัลเดร ปล่อยผมก่อน” ผมสะบัดหน้าหลบริมฝีปากหนาที่กำลังพยายามบดขยี้ลงมาใส่ผม “หุบปากของนายซะ” ฝ่ามือหยาบตะปบลงมาปิดปากของผมเอาไว้แน่นจนน้ำตาผมแทบไหล “อื้อ” ผมพยายามดิ้นหนีแล้วอ้าปากใช้ฟันงับกัดลงไปตรงสันมือหนานั้นเต็มแรงเพราะยังตกใจไม่หาย แต่ผมมีโอกาสตอบโต้คุณอัลเดรได้แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวเท่านั้นเองเพราะหลังจากนั้นปากของผมมันก็ไม่ใช่ของผมอีกแล้ว คุณอัลเดรครอบครองมันไป แล้วยึดทุกอย่างทั้งริมฝีปากและลิ้นของผมไปจนหมดสิ้น ผมนอนดิ้นสำลักเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เมื่อมีจังหวะที่คุณอัลเดรเผลอปล่อยให้ปากและลิ้นของผมเป็นอิสระ “คืนนี้นายต้องช่วยฉัน” คุณอัลเดรผ่อนแรงแล้วคลานขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนหน้าอกผม แท่งเนื้อท่อนใหญ่พองตัวจนตึง แข็งตั้งเป็นลำถูกเจ้าของมันจับมาจ่ออยู่ตรงปากผม “อ้าปาก” คุณอัลเดรบีบมือลงมากับคางของผมแล้วใช้ท่อนเนื้อนั้นฟาดตีลงมาบนปากผมแรงๆ เจ้านายอัลฟ่าเอาแต่ใจดันเอาท่อนเนื้อนั้นชิดกับริมฝีปากของผมซึ่งเม้มเข้ามากันแน่นไม่ยอมทำตามคำสั่ง คุณอัลเดรยังคงใช้ท่อนเนื้อนั้นตีมันลงมาบนริมฝีปากผมซ้ำอีกหลายที “อื้อ” ผมเม้มปากสนิทจนเหมือนตัวเองขบบีบจนปากแตก “ฉันสั่งให้นายอ้าปาก” คุณอัลเดรถลึงตาใส่ผมพร้อมกับออกแรงบีบกระดูกขากรรไกรของผมอย่างแรง ผมเหลือบตาขึ้นมาจ้องหน้าเจ้านายตัวเอง อ้าปากแล้วปล่อยให้ท่อนเนื้อขนาดใหญ่นั้นแทงเข้ามาจนสุดโคน นอกจากความอวบอ้วนอันใหญ่ไซต์บิ๊ก ความยาวของมันยังเหมือนส่งให้ปลายสุดซึ่งบานเหมือนดอกเห็ดแทงลึกเข้าไปแทบจะไหลลงคอหอยของผมทีเดียว คุณอัลเดรโยกขยับจับหัวผมดึงเข้าดึงออกอยู่ตรงหน้าขา มืออีกข้างคว้าเอามือผมให้ลูบจับไปตามเนื้อตัว หน้าอกและลอนกล้ามหน้าท้องของตัวเอง “ซี้ด อ๊า เจสันเสียวดีจริงๆ ดูดด้วยสิ นายต้องดูดมันด้วยแรงๆ เลย” ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงว่านอนสอนง่ายขนาดนั้น ผมรูดท่อนเนื้อนั้นเข้าออกอย่างที่คุณอัลเดรต้องการ แล้วปล่อยให้มันออกไปนอกโพรงปาก สายตามองสำรวจส่วนหัวสีแดงบานๆ นั้นแล้วใช้ปลายลิ้นเลียวนไปรอบๆ รอยหยัก มือสองข้างเกาะกุมประคองมันไว้เหมือนกลัวว่ามันจะหลุดมือหนีหายไปไหน ตรงส่วนหัวปลายสุดมีรูเล็กๆ ซึ่งคอยทำหน้าที่ปล่อยน้ำส่วนเกินออกมาจากร่างกายของผู้ชายทุกคน เวลานี้มีน้ำเมือกสีใสๆ ซึมออกมานิดๆ ผมแลบลิ้นแล้วใช้ส่วนปลายลิ้นซึ่งเล็กที่สุดแหย่สวนเข้าไปในรูนั้นจนเจ้าของมันร้องครางออกมาเสียงดัง มือข้างหนึ่งเลื่อนไปประคองอุ้มถุงหนังสีชมพูบางห้อยโตงเตงหย่อนลงมาแล้วบีบเล่นเบาๆ สลับกับก้มลงไปใช้ลิ้นแลบเลียแล้วอมมันเข้าไปไว้ในปากพร้อมกับออกแรงดูดถุงเนื้อนั้นหนักเบาสลับกัน “อ๊า เจสัน” คุณอัลเดรจิกทึ้งเส้นผมของผม เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ผมกำลังทำให้อารมณ์อันน่าปรารถนา ผมจัดการครอบปากใส่ส่วนหัวดอกเห็ดยักษ์ของคุณอัลเดรอีกครั้ง แล้วออกแรงดูดปากแรงๆ ตามที่เจ้าตัวต้องการ ผมถูกเจ้านายอัลฟ่าหนุ่มเลือดร้อนจับฉีกขาออกกว้างพร้อมกับจดจ่อปลายท่อนเนื้อลงมากับร่องก้นสีขาวของผม “ไม่นะ คุณอัลเดร” ผมดีดตัวถอยเอาตัวเองหนีทันทีเพราะผมไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจจะรับใช้เจ้านายหนุ่มในบทบาทนี้มาก่อนเลย “นายไม่มีสิทธิ์เลือก....ถ่างขาออกมา” “ไม่เอา ผมไม่อยากได้แบบนี้...” ผมถอยหลังพยายามจะหนีแต่คุณอัลเดรคว้าจับข้อเท้าของผมลากลงมาแล้วกดตรึงผมลงไปกับเตียงนอน “นายอยากเชื่อฉันสิ” คุณอัลเดรยกยิ้มเหยียดหยันตรงมุมปากอย่างน่ากลัว “คุณอัลเดร อย่า...” ผมออกแรงกดหนีบหน้าขาตัวเองให้มันหุบเข้ามาหากันแต่ด้านหลังโคนขานั้นมีหัวเข่าแข็งๆ ของคุณอัลเดรปักหลักยันมันเอาไว้แน่นทำให้ผมหุบขาตัวเองเข้ามาไม่ได้ “ฉันสั่งให้นายนอนนิ่งๆ อย่าให้ฉันต้องโมโหไปมากกว่านี้นะเจสัน” “อื้อ ไม่เอา” ผมส่ายหน้ากัดปากตัวเองแน่น เนื้อตัวแข็งเกร็งไปหมดโดยเฉพาะตรงช่องแคบที่กำลังจะมีอะไรบางอย่างรุกล้ำเข้าไป เหมือนฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย เจ็บจนเหมือนร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ มันก็แค่ดุ้นเอ็นธรรมดาแต่ทำไมมันถึงร้อนขนาดนั้น ความรู้สึกของผมมันไม่ใช่แค่ดุ้นเอ็นนั้นที่กำลังลุกคืบเข้าไปในตัวผม แต่มันเหมือนคุณอัลเดรกำลังเอาท่อนซุงอันใหญ่ทะลวงเข้าไปมากกว่า ความรู้สึกปวดตึงคับแน่น จุกจนพูดออกมาเป็นคำไม่ได้ นอกจากส่งเสียงเพื่อช่วยระบายความเจ็บปวดของตัวเอง “อะ อ๊า อ่า” ผมร้องออกมาได้ไม่กี่คำและแต่ละคำไม่มีความหมายแต่คุณอัลเดรกลับแปลออกว่าผมอยากได้อะไร “แบบนี้ดีหรือเปล่า” คุณอัลเดรทิ้งตัวอัดสะโพกลงมาใส่ผมจนเตียงสั่น ผมถูกแรงกระแทกของคุณอัลเดรดันจากปลายเตียงจนตอนนี้ผมมานอนเอาหลังพังหัวเตียงได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ผ้าปูเตียงถลกล่นย่นยับหมอนผ้าห่มปลิวกระจัดกระจายจนเกลื่อน “อ๊า เจสันนายดีกว่าที่ฉันคิด” คุณอัลเดรพูดแทรกแข่งกับเสียงเนื้อกระทบกันซึ่งมันดังลั่นไปทั่วห้อง “อื้อ คุณอัลเดรผมเสียว” “ฉันก็เสียวเหมือนกัน ทำไมฉันทนทรมานอยู่ตั้งนานนะ ความจริงฉันน่าจะนึกถึงนายตั้งนานแล้ว” คุณอัลเดรคว้าคางของผมไปแล้วบดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง เอวด้านล่างกระดกขึ้นลงเหมือนเป็นเครื่องจักร “อ๊า คุณอัลเดร” ผมยกสะโพกเด้งขึ้นมารอรับแรงกระแทกหนักๆ ทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่ร่างกายกลับตอบสนองออกไปเหมือนมันโหยหาสิ่งนี้ “นายชอบแบบนี้เหรอ” คุณอัลเดรขบเม้มริมฝีปากลงมาตรงติ่งหูผมแล้วออกแล้วดูดเสียงดังจ๊วบจนผมขนลุกไปหมด “รู้อะไรมั้ยเจสัน นายหวานเหลือเกิน” “คุณอัลเดรช่วยผมที ผมทนไม่ไหวแล้ว” ผมตะเกียกตะกายคว้าทุกอย่างมาเหนี่ยวยึดเพราะร่างกายกำลังจะพุ่งไปถึงจุดสุดยอด คุณอัลเดรลุกขึ้นยืนบนเตียงจับขาของผมแยกออกจากกันแล้วเลื่อนตัวมายืนคร่อมผมไว้แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาใส่ผมเหมือนเครื่องบินรบทิ้งลูกระเบิดเสียงเตียงนอนลั่นรับน้ำหนักของเราสองคนดังสนั่นหวั่นไหวเจ้าชาบูแมวของคุณอินดี้มันคงตกใจเพราะผมเห็นมันกระโดดขึ้นมาบนเตียงขู่ฟ่อๆ ใส่คุณอัลเดร ผมเอื้อมมือลงไปสาวมือลงไปใส่ท่อนเนื้อของผมรัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักความอดกลั้นของผมก็หมดลงเจ้างูใหญ่ของผมพ่นพิษออกมา น้ำรักสีขุ่นพุ่งกระเด็นมาตามหน้าท้อง หน้าอกและตามเนื้อตัวของผม “อ๊า ซี้ด” ผมนอนหอบหายใจถี่ๆ มือยังกำท่อนเนื้อตัวเองรูดดึงสาวต่อพยายามรีดน้ำสีขุ่นออกมาให้หมดทุกหยด “ทีนี้ก็ตาฉัน” คุณอัลเดรคำรามเสียงเข้มหลังจากนั้นผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงตัวเองร้องครางซี้ดซ้าด โอ้ะ อ้ะ กับเสียงเนื้อกระทบกันดังปั้บๆ ผสมเสียงเตียงนอนลั่นตั้มๆ “อ๊า เจสัน” เสียงคุณอัลเดรร้องลั่นห้องพร้อมกับในช่องประตูด้านหลังผมเหมือนมีใครเทน้ำร้อนลวกลงไปมันร้อนฉ่าไปหมด แรงฉีดปลดปล่อยน้ำเชื้อของอัลฟ่ามันรุนแรงขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือไงนะ ผมทิ้งตัวนอนแผ่ลงไปกับเตียงโดยมีเจ้าชาบูแมวน้อยตัวเล็กขยับมานอนอยู่ข้างๆ หัวผม ส่วนอัลฟ่าหนุ่มที่เพิ่งจะพ่นพิษอัลฟ่าจนล้นปริ่มทะลักล้นออกมายืนยิ้มเยาะส่งสายตาเหยียดมายังผมอยู่ตรงปลายเตียง หลังจากอารมณ์อันพลุ่งพล่านได้รับการปลดปล่อยสติอันเลือนรางก็เริ่มกลับเข้าที่ นี่สินะผลของอาการ “รัท” ของอัลฟ่าแค่สนองความ “อยาก” เสร็จแล้วก็จากไป คุณอัลเดรหยิบกางเกงขึ้นมาสวมลวกๆ สายตาเย็นชาอ่านยากของคุณอัลเดรมองตรงมายังผม เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกสวมทับปกปิดร่างกายชื้นเหงื่อแต่ยังไม่ได้ติดกระดุมแม้แต่เม็ดเดียว “นี่สำหรับนาย” คุณอัลเดรโยนอะไรบางอย่างทิ้งไว้ตรงปลายเตียงใกล้ๆ ปลายเท้าผมก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง ธนบัตรสกุลเงินยูโรปึกหนึ่งเป็นค่าตัวของผมที่คุณอัลเดรจ่ายให้ ผมนั่งกลืนน้ำลายผมคอแล้วรู้สึกหน้าชาไปหมด นี่มันหมายความว่ายังไง ผมไม่ได้อยากได้เงินพวกนี้สักหน่อย ผมไม่ได้ขายบริการนะ ผมนอนกำธนบัตรม้วนนั้นเอาไว้ในมือแน่น ไม่ใช่เพราะความหวงแหนอยากได้ อยากมี แต่เพราะความรู้สึกเจ็บลึกๆ ในใจ สำหรับคุณอัลเดรแล้วผมมีค่าแค่ไหนกัน คนรับใช้ หรือ ชายขายบริการ ?

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ขยับเพื่อนเลื่อนเป็นรัก

read
1K
bc

Light in the Dark เปลี่ยนร้ายให้เป็นรัก

read
1K
bc

ไฟผลาญ

read
1K
bc

ผมรักนายmy bad boy (Mpreg)

read
1.4K
bc

ตราบมนตรา

read
1.0K
bc

ตรวนใจนายหัว

read
1.3K
bc

หนุ่มร้อนรัก

read
2.0K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook