14

1457 Words
14 “โอเคจ้ะ ตกลงตามนั้นพี่จะบอกให้ไบรอันไม่ต้องยุ่งกับเบลล์ในระหว่างที่พี่ไม่อยู่” เขายอมถอยก็จริง แต่ไม่มีวันให้วราลีอยู่นอกสายตาของเขาเด็ดขาด เธอไม่ให้ไบรอันไปรับมาส่ง เขาก็ให้ไบรอันตามอยู่ห่างๆ ก็ได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ รบกวนพี่ริโก้ช่วยพูดกับพี่ไบรอันด้วยนะคะว่า ไม่ต้องไปรับมาส่งเบลล์แล้ว เบลล์พูดเองพี่ไบรอันคงไม่เชื่อ” “จ้ะได้จ้ะ” วราลีจึงส่งโทรศัพท์ของตนเองให้กับไบรอัน เปิดโอกาสให้คนอีกประเทศหนึ่ง สั่งงานลูกน้อง เพราะหากเธอพูดเองไบรอันคงไม่เชื่อ “ไบรอัน มึงถอยออกมาก่อนเบลล์กำลังอารมณ์ไม่ดี แต่คอยดูอยู่ห่างๆ นะอย่าให้คาดสายตานะ” มาเฟียฉายามหากาฬสั่งงานเสียงเฉียบ “ทราบแล้วครับเจ้านาย” ไบรอันรับคำสั่งเสียงหนัก ตอนนั้นเฟอเดอริโกรู้สึกวางใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำตอบรับของลูกน้อง แต่ต่อมาไม่กี่นาทีความวางใจกลับเป็นความหนักใจ “ครับเจ้านาย ผมจะดูแลคุณเบลล์ไม่ให้คาดสายตาครับ” “ดีมาก มีอะไรโทรมาหาฉันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แค่นี้นะฉันต้องลงไปประชุมแล้ว” เวลานี้เฟอเดอริโกเหมือนสองจิตสองใจ เป็นห่วงวราลีก็เป็นห่วง งานที่นี่เขาก็จะลามือไม่ได้เพราะมันหมายถึงอนาคตของบริษัทที่ต้นตระกูลสร้างมากับมือ สิ่งที่มาเฟียหนุ่มทำได้ตอนนี้ก็คือ เรื่องวราลีให้ ไบรอันเป็นฝ่ายดูแล ส่วนเขาจะเป็นคนคอยสั่งการ เพื่องานที่นี่จะได้ดำเนินต่อไปเหมือนกับที่ควรจะเป็น เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ความรู้สึกที่มีต่อวราลีนั้นคืออะไรกันแน่ คิดกับเธอเหมือนน้องสาว หรือ คิดกับเธอไกลกว่านั้น เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ แผนการของคาร์เตอร์ไม่ได้มีแค่ขยี้หัวใจมาเฟียมหากาฬเท่านั้น แผนของเขายังรวมไปถึงการโค่นล้มเฟอเดอริโกให้ออกจาสารบบเส้นทางมาเฟีย ทุกสิ่งทุกอย่างที่คู่อริมีจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา จากนั้นคาร์เตอร์ยังวาดฝันว่า จะจัดการคนที่ตนเองจ้องจะทำลายจากคนเป็นกลายเป็นคนตาย “ว่าไงเรื่องไปถึงไหนแล้ว” คาร์เตอร์เอ่ยถามเวอโรนลูกน้องคนสนิท “เรียบร้อยครับนาย ตอนนี้เหลือแต่รอเวลาเท่านั้นครับ” เวอโรนตอบ “ดีมาก” รอยยิ้มเหี้ยมเชิดขึ้นตรงมุมปากของเจ้าของแผน “จัดการให้เรียบอย่าให้เหลือ” “ครับนาย” เวอโรนน้อมรับคำสั่งผู้เป็นนาย ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย “คราวนี้มึงต้องเสียหายหลายสิบล้านแน่ไอ้ริโก้” เสียงที่ไร้ความปรานีดังไล่หลังร่างของเวอโรน ดวงตาของผู้พูดมีความสะใจเมื่อนึกถึงความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่ทว่าเวลานี้เขามีเองก็มีเรื่องที่จะต้องทำควบคู่ไปเช่นกัน งานนั้นก็คือ ตามไปรับไปส่ง หาจังหวะเหมาะกระชับพื้นที่วราลี สาวน้อยหุ่นสะเทือนอารมณ์ งานที่เขาไม่มีวันทำพลาด วราลีทำหน้าเซ็งทันทีที่เห็นร่างของคนที่ไม่ต้องการเจอหน้ายืนถือช่อดอกไม้อยู่หน้ามหาวิทยาลัยที่ตนเองศึกษาอยู่ ครั้นจะเบี่ยงตัวหลบหลีกคาร์เตอร์ก็ไม่ได้ ต้องทำเป็นตีหน้ายิ้มแย้ม เบิกบานใจที่ได้เจอเขา เพราะเธอรู้ว่ามีใครบางคนยืนซุ่มดูอยู่ แล้วต้องการให้ใครคนนั้นไปรายงานคนที่อยู่ประเทศอังกฤษว่า เธอมีความสุขกับการมีคาร์เตอร์อยู่ข้างกาย “สวัสดีค่ะคุณคาร์เตอร์” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานไม่ต่างกัน “สวัสดีครับเบลล์” คนได้รับรอยยิ้มหวานๆ ทักตอบกลับ “นี่ครับดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ” ก่อนจะยื่นช่อดอกไม้ที่ตนเองถืออยู่ส่งให้วราลีที่เอื้อมมือมารับด้วยความยินดี แต่ในใจอยากจะโยนทิ้งลงถังขยะ “ขอบคุณค่ะ” “เราไปกันดีกว่าครับ กว่าจะไปถึงเวนิสก็คงค่ำๆ” เขาไม่รีรอให้เวลาผ่านไปนาน เพราะเวลาที่ตนเองรอคอยกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกขณะ “เบลล์ขอไปเอากระเป๋าที่อพาร์ทเม้นท์ก่อนนะคะ พอดีว่าเบลล์ลืมหยิบมา” “ได้ครับไม่มีปัญหา” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่กับเขาเลย “เราไปกันดีกว่าครับจะได้ไม่เสียเวลา” “ค่ะ” วราลีตอบกลับสั้นๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปยังรถยนต์ของคาร์เตอร์ที่จอดอยู่ไม่ไกล ทุกการเคลื่อนไหวของทั้งคู่ อยู่ในสายตาของไบรอันที่คอยตามดูแลวราลีตลอดเวลาตามคำสั่งของชายขี้หวง วราลีตัดสินใจตอบรับคำเชิญของคาร์เตอร์ ที่กล่าวชวนตนเองไปร่วมงานเปิดตัวโรงแรมระดับเจ็ดดาวริมแม่น้ำเวนิส เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุด หรูหราที่สุดและการบริการดีที่สุดในละแวกนั้น คราแรกเธอเกิดความลังเลไม่น้อยที่จะไปไหนมาไหนกับชายผู้นี้ เนื่องด้วยกิตติศัพท์ของคาร์เตอร์ในทางลบด้านผู้หญิงก็มีไม่ใช่น้อย เหตุผลของการตัดสินใจในครั้งนี้มีสองประการคือ หนึ่ง...ประชดและเอาคืนเฟอเดอริโกเล็กๆ น้อยๆ กับเหตุการณ์ครั้งล่าสุดในรถยนต์ สอง...วราลีรู้ดีว่าไบรอันติดตามเธออยู่ตลอดเวลา ยามที่ไปไหนมาไหนกับคาร์เตอร์ มันจึงเป็นความอุ่นใจอย่างหนึ่งว่า เธอจะปลอดภัยจากความคิดชั่วๆ ในสมองของคาร์เตอร์ แต่ทว่าวราลีเองก็ต้องดูแลและป้องกันตัวเองด้วยเช่นกัน ในกระเป๋าสะพายราคาแพงไม่ได้มีแค่เครื่องสำอาง กระเป๋าสตางค์และของใช่ส่วนตัวตามประสาผู้หญิง ยังมีเครื่องช็อตไฟฟ้าที่ชาร์ตแบตเตอรี่ไว้เต็มที่พร้อมใช้งานเต็มร้อย สเปรย์พริกไทยอีกหนึ่งขวด หากมีเรื่องจวนตัวมากสองสิ่งนี้สามารถช่วยให้เธอรอดพ้นจากภัยอันตราย กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน วราลีเดินทอดน่องเนือยๆ ไปยังลิฟต์โดยสารที่มีไว้บริการผู้พักอาศัย ปล่อยให้คาร์เตอร์นั่งรอในรถตามลำพังเพราะเธอคิดว่าใช้เวลาไม่นานในการไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพบนห้อง แล้วเธอก็ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เดินออกมาจากที่พักพร้อมกับกระเป๋าใบย่อม “คุณเบลล์จะไปไหนครับ” ไบรอันที่นั่งดูความเคลื่อนไหวของวราลีกับคาร์เตอร์อยู่ในรถยนต์ รีบก้าวลงจากรถเมื่อเห็นคนที่เขาเฝ้าติดตามเดินออกมาจากอพาร์ทเม้นท์พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง “ไปเวนิส” เธอตอบ “ไปกับคาร์เตอร์หรือครับ” เขาถามต่อ เธอพยักหน้าตอบ “เจ้านายรู้หรือยังครับ” สีหน้าของวราลีเข้มขึ้นด้วยความไม่พอใจทันทีที่ได้ยินคำถามนี้ “ทำไมเบลล์ต้องบอกพี่ริโก้ด้วยค่ะ เบลล์โตแล้วจะไปไหนมาไหนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “ผมรู้ครับ แต่มันไม่เหมือนกันครับ” ไบรอันรู้ว่าเธอโตแล้วและโตมากด้วย หากวราลีไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่คาร์เตอร์ เขาจะไม่วิตกเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหากเฟอเดอริโกรู้เรื่องนี้เข้าอะไรจะเกิดขึ้น “ไม่เหมือนกัน” เธอทำเสียงคล้ายกับสงสัย “ไม่เหมือนกันยังไง” “เอาเป็นว่าผมจะโทรบอกเจ้านายก่อนนะครับ” ผู้พูดกำลังล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อโทรรายงานเฟอเดอริโก นิ้วมือใหญ่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับหน้าจอมือถือ เสียงหวานห้วนก็ดังแทรกขึ้น “ไม่จำเป็นต้องโทรไปบอกพี่ริโก้ เพราะพี่ริโก้ไม่ได้เป็นอะไรกับเบลล์นอกจากเพื่อนสนิทของพี่ปัณณ์ แล้วฝากไปบอกพี่ริโก้ด้วยว่าไม่ต้องห่วงน้องสาวคนนี้ เพราะแฟนของเบลล์จะดูแลเบลล์เอง” พูดจบเธอก็สะบัดหน้าเดินเชิดไปยังรถยนต์ของคาร์เตอร์ทันที ไบรอันถึงกับทำอะไรไม่ถูก ตกอยู่ในสภาวะอาการตกใจกับคำพูดแจ้งชัดถึงสถานะระหว่างวราลีกับคาร์เตอร์ “บรรลัยแน่งานนี้” เขาพูดไปด้วย ติดต่อเจ้านายหนุ่มไปด้วย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องรายงานเรื่องนี้ให้เฟอเดอริโกรู้อยู่ดี แม้ว่าในใจไม่ต้องการทำก็ตาม ศึกรักศึกสวาทได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD