พยศรักเมียเก่า
ตอนที่ 12 ผัวเก่ามาจีบใหม่มันต้องไม่เหมือนเดิมสิ
Part ปาลิน
การทำงานหาเงินใช้เอง เลี้ยงตัวเอง เป็นอะไรที่มีความสุขและสบายใจที่สุดในชีวิตของปาลินคนนี้ แม้ว่าพี่เปาพี่ชายของฉันยังคงโอนเงินเข้าบัญชีในส่วนที่ฉันต้องได้จากคาร์แคร์ ธุรกิจที่พ่อกับแม่สร้างไว้ให้เราสองคน แต่ฉันเลือกที่จะใช้เงินที่ตัวเองหา จะกิน จะเที่ยว จะสุรุ่ยสุร่ายอะไรยังไงก็สบายใจที่เป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงและในกระเป๋าของตัวเอง…
มีงานทำ มีเพื่อนที่น่ารัก แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้ว แม้ในบางเวลาที่แอบเหงา แอบอิจฉาคนมีที่แฟน มีคนคอยบอกคิดถึง คอยบอกฝันดีบ้าง แต่สำหรับตัวฉันโลกอาจสร้างให้ฉันยืนมองความอิจฉาของคนอื่นก็เป็นได้ ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่รอยแผลที่ยังเป็นสะเก็ดอยู่ในใจ มันยังมีความรู้สึกเจ็บปวด จนบางครั้งกลัวคนที่เข้ามาจนไม่กล้าเปิดใจให้ใครอีก…
วันสุดสัปดาห์ของชาวออฟฟิศต้องไปดื่มกัน ฉันกับแตงไทยเดินตามรอยพี่ๆในที่ทำงานที่แก่ประสบการณ์ พวกพี่ๆพาเที่ยวพาดื่มจนเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว จะไม่ไปก็เกรงใจผู้ใหญ่ทั้งหลาย
“ คืนนี้ใครไม่ไปต้องพลาดนะบอกเลย ”
“ ทำไมเหรอพี่จุ๋ม มีอะไรพิเศษเหรอคะ ”
“ ก็เพราะฉันได้ตั๋วดื่มฟรีตลอดคืนมานะสิ ”
“ โห้วววว… ”
แล้วอย่างนี้มีเหรอจะพลาดกัน พวกพี่ๆส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงอายุอานามก็ปาเข้าไปสามสิบปลายๆไปจนสี่สิบอัพเลยก็มี มีแค่ฉันกับแตงไทยที่ยังเด็กวัยยี่สิบปลายๆ นัดเจอกันที่ผับในตัวเมืองเลย แล้วผับนี้ฉันกับแตงไทยยังไม่เคยไปด้วยสิ
“ ปาลิน แตงไทยเป็นไง ของดีไหม ” พี่จุ๋มเอ่ยถึงผับแห่งนี้ ที่สถานที่ บรรยากาศดูจะดีไปหมด
“ ดีมากพี่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มดีมากเลยค่ะ หว๊านหวาน ” แตงไทยที่มาไม่นานลิ้นเริ่มรัวแล้ว
“ เพลงดี แสงก็น่าตื่นเต้น ดีไปหมดเลยค่ะ ”
“ ผับแห่งนี้เปิดใหม่ได้ไม่นาน เครื่องดื่มดี ผู้ชายเริ่ด ฉันเลยอยากนำเสนอพวกแกไง ”
“ อย่าพูดมากเลย มาชนให้คุ้มกับวันศุกร์หน่อยเว้ย ”
“ ชนนนนน… ”
เหมือนมาผ่อนคลายกับการทำงานบากบั่นสู้ชีวิตมาทั้งอาทิตย์ มือยกดื่ม ตัวโยกเบาๆให้สนุกกับบรรยากาศ แต่แล้วก็มีเสียงกรี๊ดกับแสงไฟสาดส่องไปบนเวที มีวงดนตรีขึ้นเล่น เมื่อนักร้องทำการร้องเพลง ทำฉันต้องแอบมองนักร้องที่กำลังร้องเพลงเล่นกีต้าร์ เขาใส่หมวกปิดหน้า แต่เสียงของเขาเหมือนกับคนที่ฉันคุ้นหู…
จนมีแวปนึงที่สายตาของเขาจ้องมองมา ฉันเห็นแค่นิดนึงฉันก็จำได้ เขาคือ...พี่แซก ฉันไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นนักดนตรีด้วย ถ้าฉันไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เขากำลังมองฉันอยู่ ฉันต้องทำเหมือนคนหยิ่งทะนงไม่สนใจเขา ไม่สนใจในคราบนักร้องที่ดึงดูดผู้หญิง
“ อร๊ายยยยย นักร้องเดินมาทางนี้ เขามาหาใครกัน ”
พี่ๆพากันกรี๊ดกราด เมื่อเขาจับไมค์เดินร้องเพลงลงจากเวทีพร้อมดอกกุหลาบในมือ แล้วเดินมุ่งหน้ามาที่โต๊ะฉัน แล้วเขาก็เล่นตลกกับฉันอีก
“ สำหรับคนสวยค่ะ ”
“ กรี๊ดดดด… ”
เสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่น เมื่อเขามาหยุดที่โต๊ะฉัน เขาจุ๊บดอกกุหลาบแล้วยื่นให้ฉัน ทุกคนต่างกรี๊ดอิจฉาฉัน แตงไทยเองที่คงเมากรึ่มๆก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร กระแทกไหล่อย่างอิจฉาฉัน สายตาของเขาเจ้าเล่ห์มาก ฉันจำต้องรับดอกกุหลาบจากแรงกดดัน เขายิ้มกรุ่มกริ่มให้ฉันก่อนจะไปทำหน้าที่นักร้องบนเวที
“ ทำไมไม่เป็นพี่ ”
“ เด็กปาลินมันร้าย มันเงียบแต่มันฟาดนักร้องไปได้ ”
“ อิจฉาโว๊ย ”
“ ช่วยหลีกทางให้อีปาลินนะคะพี่ๆ เพื่อนแตงจะมีผัวเป็นนักร้องก็คราวนี้แหละค๊า ”
“ ฮ่าๆๆ ” ฉันควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่ได้ดอกกุหลาบจากแฟนเก่าแบบนี้ ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ทุกคน จะบอกว่าไม่ได้อยากได้ก็จะดูว่าหยิ่งอีกก็ต้องปล่อยตามน้ำไป
บนเวทีแสดงจบ บอกเลยว่าฉันแทบไม่ได้ฟัง ได้ยินแต่เสียงของพี่ๆที่กรี๊ดกร๊าดกรอกข้างๆหูฉัน ไม่มีเขาฉันรู้สึกโล่งหน่อย เวลาผ่านไปเที่ยงคืนที่ใกล้เวลาผับปิด แต่ละคนหน้าแดงไปยันหู ไม่เมาแต่ก็ไม่เหมือนเดิมกัน ฉันไม่ได้ดื่มมากนัก เพราะเป็นคนขับรถฉันจึงไม่ค่อยดื่ม ก่อนกลับฉันต้องประคองแบกสะระร่างแตงไทยไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ
“ เป็นไง โอเคยัง ? ” ฉันถามแตงไทย เมื่อพี่มีนโทรมาแล้วสภาพกับเสียงที่แหบร่าของแตงไทยจะรับสายก็ลำบาก
“ เออ…สติมาล่ะ ”
“ คุยให้รู้เรื่อง กูรอแถวๆนี้ ”
“ อืม…มีแฟนมันน่ารำคาญ รู้งี้โสดเหมือนมึงดีกว่า ”
“ เลิกเลยไหม ? ”
“ กูรักเขา ”
“ อีดอก แล้วทำเป็นพูด ”
ฉันออกมายืนรอแตงไทยที่ผู้คนพลุ่งพล่านเดินผ่านไปมา กดโทรศัพท์มือถือเล่นไปเรื่อย แต่จู่ๆฉันถูกใครบางคนจู่โจมประชิดตัวดันตัวฉันเข้ามุมหลังติดกำแพง เขาเอามือยันกำแพงเชิงขังฉันไว้ไม่ให้หนีได้
“ ทำไมต้องสวยขนาดนี้ด้วย ”
“ พี่แซก! ”
เขาตั้งใจยังกับดักรอฉัน สายตาของเขาเจ้าเล่ห์มากไม่เหมือนคนๆเดิมที่ฉันคุ้นเคย ฉันดันตัวเขาออกแต่เขากลับยิ้มกรุ่มกริ่มให้ฉัน ราวกับว่าเขาไม่ออกไปง่ายๆ
“ ดีใจจังที่หนูจำพี่ได้ ”
“ ………….. ” ฉันไม่อยากตอบเขา หันไปทางอื่น
“ คิดถึงนะคะ ”
“ มาบอกปา แล้วปาต้องคิดถึงพี่ตอบด้วยไหม ”
เขายิ้มกรุ่มกริ่มอย่างคนเจ้าเล่ห์ให้ฉัน เอามือเขี่ยแก้มฉันเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาราวกับจะจูบฉันแต่ฉันหันหลบ เขาก้มมาหายใจใกล้ๆหูฉัน ก่อนจะกระซิบ
“ เมียคิดถึงผัว มันก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ”
“ !!!! ”
ฉันตกใจกับคำพูดของเขา ฉันผลักเขาออกอย่างแรง เขายิ้มร้ายกาจให้ฉัน ฉันรีบเดินออกจากตรงนี้เลย เป็นจังหวะที่แตงไทยเดินมาพอดี ฉันทำเหมือนไม่มีอะไร จนแยกย้ายกับพี่ๆ
“ อีปาลิน มึงมีเกณฑ์ได้ผัวเป็นนักร้องแน่ๆ ” แตงไทยเอ่ยแซวฉัน แต่สมองของฉันคิดถึงแต่คำพูดของเขาเมื่อกี้
“ เมาแล้วนอนอีดอก พูดเพ้อไปเรื่อย ”
“ นอนก็ได้ จะได้เก็บแรงพามึงมาหาว่าที่ผัวที่นี่ ฮ่าๆๆ ”
แตงไทยหลับไป คำพูดของเขามันทำให้ฉันร้อนรนมาก นี่เขาจำฉันได้อย่างงั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเขาจำฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลย หรือว่าที่เจอกันในผับนี้เพราะเขาตั้งใจ ทั้งคำพูด สีหน้า แววตาของเขามันดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจทุกอย่างเลย คำอธิษฐานที่ฉันเคยขอมันกำลังเป็นจริงแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องรับมือกับเขาและครอบครัวของเขาแล้วใช่ไหม หนังสือเล่มเดิมจะจบเหมือนเดิมอีกไม่ได้ ผัวเก่ามาจีบใหม่มันต้องไม่เหมือนเดิมสิ
‘ เจอกันใหม่ มันต้องไม่เหมือนเดิมแล้ว ’