พยศรักเมียเก่า
ตอนที่ 9 เมื่อโชคชะตาเล่นตลกกับฉันให้เจอเขา
“ หาววววว ”
เสียงของแตงไทยที่หาวนอนเสียงดังเอามือปิดปากตัวเอง ที่เราสองคนย้ายมาคอนโดใหม่ที่สะสวกสบายกว่าเดิมได้ไม่ถึงอาทิตย์ ฉันจึงลากแตงไทยลงมาใส่บาตรใต้คอนโดเป็นเพื่อน ที่วันนี้เป็นวันหยุดตื่นสายได้แต่นางต้องลากสังขารมากับฉันใสสภาพหัวฟูชุดนอนลายเป็ดเหลือง
“ มึงจะคลั่งใส่บาตรทุกเช้าไม่ได้นะ กูง่วง ” แตงไทยนางบ่น ปากพูดแต่ตาปิดนะ ขณะกำลังรอพระอยู่
“ ทำบุญบ้างเถอะ ชาติหน้าจะได้สวยไม่ต้องศัลเหมือนชาตินี้ ”
“ ตบปากตัวเองเท่าอายุเดี๋ยวนี้เลยนะอีดอก ที่กูต้องศัลยกรรมเพราะกูอยากสวยชาตินี้เว้ย ”
“ ชาตินี้ต้องสวยว่างั้น ”
“ เออ…นี่กูก็สงสัย คบกันมาตั้งแต่เรียนจนทำงาน มึงใส่บาตรเหมือนพระเป็นญาติมิตรเกลอ ช่วยไขความสงสัยกูที อย่าบอกนะว่ามึงเป็นคนธรรมะธัมโมกูจะตบเข้าให้ คนอย่างมึงกับกูเข้าวัดยังร้อนผ่าว ” ตลอดเวลาที่คบกันฉันไม่เคยเอ่ยถึงอดีตความผิดพลาดของฉันให้แตงไทยฟังเลยสักครั้ง
“ กูทำให้ลูก ”
“ ลูกแมวหรือลูกหมาว่ะ จะลูกมึงก็ไม่ใช่เพราะมึงไม่มีผัว ผู้ชายไม่เคยได้จิ้ม ”
“ ลูกกู ”
“ อะไรนะ!! มึงพูดอะไร ขออีกทีสิ ”
“ กูพลาดท้อง กูทำแท้ง ”
“ อีปาลิน… ” แตงไทยที่ยังหาวนอนอยู่ถึงกับตาสว่างราวกับได้กินคาปูชิโน่ไปหกแก้วยังไงยังงั้น นางดูตกใจมากที่ได้ยินฉันเอ่ยแบบนั้น
“ มึงรังเกียจกูไหม ”
“ อีดอก…อย่าพูดแบบนี้ ต่อไปนี้กูจะมาใส่บาตรเป็นเพื่อนมึงทุกครั้งเลยนะ ”
“ ขอบใจนะมึงที่เข้าใจกู ” แตงไทยนางไม่ถามถึงที่มาที่ไปเลยด้วยซ้ำแต่กลับเข้ามากอดปลอบฉันทันที เอาหน้าฉันไปชนกับหน้าตัวเองแล้วลูบหัวฉันเป็นเด็กน้อยเลย
“ มันแค่อดีตนะมึง กูเชื่อว่ามึงมีเหตุผล ไม่ต้องคิดมากนะปัจจุบันเราสวย เรามีเงิน เรามีผู้มาตอมนะมึง ” นี่คือการปลอบของแตงไทย
“ กูควรดีใจใช่ไหม ”
“ ใช่สิมึง ท่องไว้นะเว้ย เราสวย เราเริ่ด เราไม่แคร์ของเก่า ปัจจุบันเราแซ่บ ”
“ กูต้องท่องไหม ”
“ ท่องสิว่ะ มันคือคติของเรา ”
“ ………… ”
“ พระมาแล้วมึง ”
ชีวิตฉันที่ไม่มีเขามันดีขึ้นมาก ฉันมีความสุขดีมากที่มีแตงไทยในทุกๆวัน ฉันไม่เคยเสาะหาข่าวคราวของเขา ตัวเขาเองก็ไม่ได้พยายามติดต่อฉัน เราสองคนมันเป็นแค่อดีตกันที่ไม่มีวันได้มาบรรจบพบกันอีกแล้ว…
“ เห้อ…สบายใจจัง ”
แตงไทยเอ่ยขึ้น เมื่อใส่บาตรรับพรเสร็จกำลังเดินขึ้นห้อง จากที่หน้าตาหาวนอนกลับสดชื่นขึ้นมาในทันที
“ ได้รับพรแล้วมีพลังเหรอว่ะ ”
“ อีดอก กูเป็นคนไม่ใช่ผี ”
“ หน้าเก่าอ่ะเหรอ ”
“ อีเลว ”
“ ฮ่าๆๆ ”
วันหยุดทั้งทีที่ซักผ้า ทำความสะอาดห้องเสร็จกะจะนอนเอาแรงให้เต็มอิ่ม เตียงนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ แอร์เย็นๆสบายๆ มันช่างชวนยั่วยวนการหลับของฉันมาก ค่อยๆล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับตาปริ่มรับความสบาย
“ อีดอกปาลิน!! ”
มารผจญก็โผล่เข้ามาขัดขวาง แตงไทยเข้ามาในห้องฉันที่เราสองคนมีรหัสห้องกัน นางพรวดพราดเข้ามาในห้องฉัน กระโดดขึ้นเตียงกอดฉันเอ่ยเรียกฉันเสียงดังแล้วมายิ้มปริ่มแบบนี้
“ มึงมีอะไร ? ”
“ รู้ดีนะเพื่อนรักกะหรี่ของกู ”
“ กูไม่ไป กูจะนอน ”
“ มึงไม่ไปไม่ได้ มึงไม่มีเพื่อนแล้วนะ กูคือเพื่อนคนเดียวของมึง เพราะฉะนั้นมึงต้องไปกับกู ”
“ ถ้ามึงจะพูดขนาดนี้ มึงบอกมาเหอะ ”
“ ดีมากเพื่อนรัก กูนัดผู้ไว้ ”
“ อีกแล้ว คนที่ร้อยสิบเจ็ดแล้วนะ เมื่อไหร่มึงจะเลือกสักทีว่ะ ”
“ ก็คนนี้ไง กูเลือกเขาแล้ว กูชอบเขา กูจริงใจไม่เททิ้งแล้ว ” ฉันถึงกับขมวดคิ้ว แตงไทยทำเสียงเจ็ดเสียงแปดหวานหยาดเยิ้ม ไหนจะทำท่าเขอะเขินจะฉีกผ้าห่มฉันขาดเป็นริ้วอีก แตงไทยนางไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลย ฉันถึงกับต้องลุกนั่งมองนาง
“ อีดอก…เล่นเขินจะแดกผ้าห่มกูขนาดนี้ ถ้ากูไม่ไปดูคนนี้ กูต้องพลาดมากแน่ๆ”
“ ตั้งแต่กูเจอเขา โลกมันก็สีชมพู เขาน่ารัก เขาตรงสเปคกูทุกอย่างเลยว่ะ ”
“ ทรงโจรแต่อยู่ในโหมดมุ้งมิ้งเหรอว่ะ ” นั่นคือสโลแกนของแตงไทยนางเลย
“ อืม…เขาน่ารักมากเลยนะมึง เขาต้องเป็นเนื้อคู่ของกูแน่ๆเลยว่ะ กูสัมผัสได้เขาคือคนที่กูตามหามาตลอดทั้งชีวิต ”
“ ขอให้มึงสมหวัง เพี้ยง!! ”
“ กูจะมีผัว มึงก็ต้องมีผัวด้วย เพี้ยง!! ”
“ อีดอก เกี่ยวไรกู ”
“ ก็ช่วยกันเพี้ยงให้มีผัวไง มาๆเพี้ยงๆๆ ”
“ อี๊!! น้ำลายโดนหน้ากู ”
“ อ้าว ฮ่าๆๆ ”
ฉันเหมือนไม้กันหมายังไงไม่รู้ แต่งตัวสวยมานั่งดูคนเขาจีบกัน ผู้ชายรุ่นพี่ที่แตงไทยออกเดตคนนี้ชื่อพี่มีน ทรงโจรตามที่แตงไทยนางบอกเป๊ะ แล้วท่าทางจะสุภาพเข้ากับแตงไทยได้ดีมากด้วย ฉันที่นั่งมองจากโต๊ะข้างๆ อยากให้เขาสองคนได้สวีทกัน ฉันยังรู้สึกว่าคนนี้เหมาะกับแตงไทย เห็นแบบนี้ฉันอดยิ้มตามไม่ได้ที่เห็นเพื่อนกำลังมีความรัก…
แฟนแตงไทยดูจะให้เกียรติมากด้วย คอยมาหา ซื้อของมาให้ที่บริษัท วันหยุดก็จะมารับไปทานอาหาร ซึ่งพี่มีนยังเป็นกันเองมาก ตัวฉันก็พลอยได้ทานอาหารฟรีไปด้วย…
วันหยุดยาวถึง 5 วันที่ฉันไม่ได้อยากกลับบ้าน อยากอยู่ห้องแล้วนอนอย่างเดียวเลย แต่แตงไทยติดสอยห้อยฉัน เมื่อนางจะไปหาแฟนที่ร้านรถ แฟนแตงไทยเปิดร้านแต่งรถอยู่ แตงไทยนางไม่มีรถ นางไม่คิดจะซื้อด้วยเพราะนางบอกว่าไม่ชอบขับ ส่วนฉันที่ชอบขับ ฉันคิดว่าเป็นคนจับพวงมาลัยเองสบายใจที่สุด
“ มึง…ร้านนี้แน่เหรอว่ะ ”
ขับรถมาจอดหน้าร้านแต่งรถที่ไม่มีพนักงานซ่อมรถอยู่เลย เหมือนกำลังตั้งวงดื่มกันอยู่ที่ม้านั่ง ทำให้ฉันไม่กล้าเลี้ยวเข้าไป
“ เออ…ร้านนี้แหละกูเช็กมาแล้ว ”
“ ไม่ใช่กูเลี้ยวเข้าไป แล้วเขาเอาประแจมารุมทุบรถกูนะ ”
“ อีบ้า มึงดูหนังเยอะไปแล้วมั้ง นั่นไง…พี่มีนเดินออกรับแล้ว ”
ร้านแต่งรถที่ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควร แฟนแตงไทยต้อนรับให้เกียรติถือว่าดีเลย แตงไทยนางเลือกคนไม่ผิด พี่มีนทำเหมือนฉันกับแตงไทยเป็นแขกคนนึงเลย พี่มีนแนะนำให้รู้จักเพื่อนและลูกน้องแต่คนที่นั่งรวมกันอยู่สี่คน แตงไทยถูกแนะนำว่าเป็นแฟน และก็ต้องมีคำแซว
“ แล้วน้องปาลินมีแฟนรึยังคับ ? ”
“ อย่าว่าแต่แฟนเลยพี่ แค่วิญญาณเงาดำตามมันยังไม่มีเลย ” ฉันไม่ต้องตอบเลย แตงไทยตอบให้อย่างดี
“ ถ้าไม่มี พี่ขออนุญาตจีบนะคับ ”
“ จีบได้แต่จะติดไหมก็อีกเรื่องนะคะ ”
“ พูดแล้วนะคับ ”
“ ฮ่าๆๆ ” แซวกันไปแซวกัน รู้สึกไม่ได้กดดันอะไรเลย รู้สึกเหมือนมานั่งดื่มนอกสถานที่กับเพื่อนมากว่า แต่แล้วความอึดอัดทั้งหมดก็เกิดขึ้น…
“ เดี๋ยวรุ่นพี่ของพี่มานะ ” พี่มีนเอ่ย ดูเหมือนแค่จะมีคนมาเพิ่ม แต่คนที่มาเพิ่มกลับทำฉันตกใจ
“ มาเร็วกว่าที่คิดนะพี่แซก ”
ฉันได้ยินชื่อนี้ตกใจมาก ภาวนาว่าคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับฉัน เมื่อฉันกับเขาได้สบตากัน
“ น้อง !! น้องชื่อปาลินใช่ไหม ”