พยศรักเมียเก่า
ตอนที่ 2 นี่คือความรู้สึกของ Poopy love
“ กอดพี่แล้ว จะจากไปง่ายๆเหรอ ”
พี่ผู้ชายนักศึกษาคนที่ฉันกอดซบเอ่ยขึ้น ฉันหงายหน้ามองเขาชัดๆ สูง ผิวพรรณดี มีหนวดเครานิด หน้าตาค่อนข้างถือว่าใช่ได้เลย
“ พี่จะเอาเงินเหรอ พี่จะเอาเท่าไหร่ ? ”
“ พี่ไม่ได้อยากได้เงิน ”
“ แล้วพี่อยากได้อะไร ” ฉันออกแนวเริ่มฉุดนิดหน่อย เพราะพี่นักศึกษาคนนี้ยิ้มกรุ่มกริ่มให้กับฉัน มันเป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่เลย
“ พี่ชื่อแซก อยู่ปี 5 มหาลัยaa แล้วน้องล่ะคะ ”
“ ปาลิน ม.6 โรงเรียนww ”
“ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะน้องปาลิน ”
“ ปล่อยปาได้รึยัง ”
“ เดี๋ยวสิ พี่อยากได้ไลน์หนูด้วย ”
“ เอาไปทำไม ”
“ หนูเข้ามาชนพี่ หนูไม่มีสิทธิ์ต่อรองพี่นะคะ ” พี่แซกยื่นโทรศัพท์ให้กับฉัน ถ้าฉันไม่ให้เขาต้องไม่ปล่อยฉันแน่ๆ ฉันจำต้องกดไลน์ให้เขา
“ แมวน้อยปาลิน ”
นั่นคือชื่อไลน์ของฉัน พี่แซกอ่านหน้าจอเอ่ยโปรยยิ้มปริ่มให้ฉัน สีหน้าและแววตาของเขาทำฉันใจเต้นแปลกๆ เหมือนกำลังตื่นเต้นตีกลองรัวๆอยู่เลย
“ ปล่อยมือจากแขนปาได้รึยัง ? ”
“ พี่ปล่อยก็ได้ค่ะ ” พี่แซกปล่อยมือจากแขนของฉัน ฉันสบตาเขาก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น
“ พี่ไลน์ไป หนูตอบพี่ด้วยนะหนูปาลิน ”
“ …………… ”
เสียงตะโกนตามหลังทำฉันไม่กล้าหันไปมอง รีบเดินพลางวิ่งลัดเลาะผู้คนออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด รีบกลับมายังห้องตัวเอง เอามือทาบอกจับหัวใจตัวเองหายใจแรงๆ ราวกับขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ
‘ ทำไมใจมันเต้นแรงอย่างนี้ ’
ติ้ง~
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือของฉัน ไลน์ที่เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารเด้งขึ้นมา ฉันตาลุกวาวเมื่อหน้าจอโทรศัพท์มือถือเผยให้เห็นประโยคของคนที่ฉันกำลังคิดถึง
Saz : ถึงห้องรึยังคะ
Palin : ค่ะ
Saz. : ไม่รู้ทำไมพี่คิดถึงแต่หน้าของหนูปาลิน
ประโยคนี้ของพี่แซกทำฉันทิ้งตัวลงนอนด้วยหัวใจที่เต้นแรง หน้าของพี่แซกลอยวนเวียนตราตรึงอยู่ในหัวฉัน มองหน้าจอเผยเผลอยิ้มออกมา ทำให้ฉันคิดถึงรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของพี่เขาจนฉันต้องเขอะเขินตัวบิดงอ
‘ ทำไมฉันต้องคิดถึงแต่หน้าพี่เหมือนกันนะ ’
เลิกเรียนของอีกวัน วันนี้เรียนหนักหน่วงสมองมาก ฉันตั้งใจจะไม่ออกไปไหนอยากพักผ่อนคลายให้สมอง เปิดตู้เย็นขนาดเล็กที่ใส่ได้แค่เครื่องดื่มที่หอพักมีให้กับนักเรียน แต่กลับไม่มีเครื่องอะไรเลยนะสิ ทำฉันต้องออกไปข้างนอกจนได้ แต่ทว่า…ฉันกลับชะงัก เมื่อการออกไปข้างนอกทำฉันให้คิดถึงพี่นักศึกษาอย่างพี่แซก ฉันต้องมายืนอยู่หน้ากระจก มองตัวเองผ่านกระจกเงา อยู่ๆฉันก็หยิบลิปสติกขึ้นมาทาริมฝีปากของตัวเอง ฉันรู้สึกแค่ถ้าต้องเจอพี่เขาฉันอยากทำให้ตัวเองสวยสดใสที่พี่เขาเห็นฉัน แม้จะไม่ได้เจอพี่เขาก็เถอะ
ตลาดนัดสถานที่เดียวที่ฉันจะไป ฉันได้ของกิน ได้เครื่องดื่ม กำลังจะกลับแต่จู่ๆฝนเจ้ากรรมก็ดันตก ฝนตกหนักมากถ้าฉันขืนขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจของฉันฝ่าสายฝนนี้มีหวังฉันได้ลงไปเล่นจ้ำจี้กลางถนนแน่ ผู้คนหาที่หลบยืนรอฝนซา ฉันก็เป็นคนนึงที่มาหลบที่หน้าร้านเครื่องขายของชำ
“ หนักไหมน้อง ให้พี่ช่วยถือไหม ” พี่ผู้ชายคนนึงที่มายืนข้างๆฉันเอ่ยขึ้น เขาดูไม่น่าไว้วางใจเลย ฉันไม่ตอบเขาขยับไปยืนห่างๆ แต่เขาก็เข้ามายืนข้างๆฉันอีก
“ ผู้หญิงตัวคนเดียวอันตรายนะ ให้พี่ยืนเป็นเพื่อนดีกว่า ” คราวนี้เขาเอ่ยที่รู้ถึงความต้องการในหัวเขา ฉันไม่อยากตอบสนทนากับเขา มีคนเข้ายืนหลบฝนเพิ่มทำให้ดันตัวฉันเข้าไปข้างในให้ห่างจากเขา
“ ให้พี่ไปส่งไหม ”
ทั้งที่ยืนห่างกันไปแล้ว เขายังเบียดเสียดผู้คนมายืนข้างฉันได้อีก คำถามนี้ฉันเริ่มไม่ไหวกับคำถามที่เขาเริ่มไม่ให้เกียรติฉัน
“ ไม่ต้อง ”
“ แต่พี่อยากไปส่งนะ ”
“ ก็บอกว่าไม่ต้องไง ”
“ แต่พี่อยากไปส่งน้องหนิ ” ผู้ชายคนนี้เอามือมาจับแขนฉันอย่างการตั้งใจ ฉันพยายามดึงมือออก แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่ยอมปล่อยราวต้องการไม่ให้ฉันหนีไปไหน
“ รอพี่นานไหมคะ ? ”
“ พี่แซก ”
ฉันดีใจมากที่ได้ยินน้ำเสียงนี้ พี่แซกเข้ามาที่ฉัน เอ่ยพร้อมดึงมือผู้ชายคนนั้นออกแล้วกันตัวฉันไปอยู่ข้างหลัง เขากำลังปกป้องฉันนั่นเหรอ
“ มึงมายุ่งวุ่นวายอะไรด้วย นี่มันแฟนกู ”
“ แต่คนที่พี่พูด แฟนผม ”
“ ……………. ” ผู้ชายคนนี้เลิกลั่ก เมื่อได้ยินพี่แซกเอ่ยแบบนั้นออกไป เพราะเขาดึงฉันไปโอบกอดให้ซบเขา ขณะที่ผู้ชายคนนั้นกำลังลังเลหาทางออก ผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาเหมือนพี่แซกสองคนก็เข้ามาล้อมผู้ชายคนนี้ไว้
“ ไม่ให้เกียรติผู้หญิงแล้วยังโกหกอีกเหรอพี่ ”
“ เสียชื่อลูกผู้ชายนะพี่ ”
“ ………….. ” ผู้ชายคนนี้เหมือนรู้ว่าตัวเองจนมุม รีบดันตัวเดินออกไปจากตรงนี้
“ หนูเป็นอะไรไหม ? ”
“ ปาไม่เป็นไร ขอบคุณพี่ๆนะคะที่ช่วย ” ฉันเอ่ยพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณพี่แซกกับเพื่อนที่ช่วยฉันไว้
“ ฝนยังคงตกอีกนาน ไปนั่งในร้านกับพี่ก่อนไหม ”
“ …………… ”
“ ไม่ต้องกลัว พี่ลูกผู้ชายพอไว้ใจได้ ” ฉันคงไม่มีทางเลือก จะยืนต่อก็อันตรายถ้าผู้ชายคนนั้นวกกลับมา ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันไว้ใจเขาถึงยอมเข้ามานั่งในร้านเครื่องดื่มกับพี่แซกและเพื่อน
“ ปาลิน…หนูเอาน้ำอะไรดีคะ ? ”
“ ไม่เอาค่ะ ”
“ อึดอัดเหรอคะ ? ”
“ เปล่าค่ะ ” พี่แซกเอ่ยถาม ทำไมเขาถึงเดาใจฉันออกทุกอย่างเลยนะ
“ สองคนนี้เพื่อนสนิทพี่เอง ชื่อพี่กันต์กับพี่ภู หนูรู้จักพี่แล้ว เพื่อนสนิทพี่ก็เหมือนเพื่อนหนูนะคะ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกลัวนะ ”
“ …………… ” พี่แซกลูบหัวฉันเบาๆ บอกเลยฉันไม่เคยรู้สึกใจหวิวแบบนี้มาก่อนเลย
“ สบายใจขึ้นไหม อยากดื่มหรือกินขนมอะไรรึเปล่า ร้านนี้อร่อยมีของกินให้เลือกเยอะเลยนะ อยากกินไหม ? ”
“ แพงไหมคะ ? ”
“ พี่เลี้ยงหนูเอง ”
“ ปาอยากจ่ายเอง ”
“ โอเคๆงั้นก็ได้ ไปเลือกไหมคะพี่พาไป ”
“ ค่ะ ”
พี่แซกพาฉันมาเลือกขนมเค้ก ร้านนี้ฉันเคยเห็นหน้าร้านอยู่นาน แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีของน่าทานขนาดนี้ พี่แซกเป็นกันเอง ชวนคุยสนุกทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อนพี่แซกก็นิสัยดี ยิ้มเก่งทำให้ฉันไม่อึดอัดเลย
“ ปาลิน…หนูมีแฟนรึเปล่าคะ ? ” เมื่อเริ่มคลายความอึดอัด พี่แซกก็เริ่มเอ่ยคำถามส่วนตัวกับฉัน
“ ไม่มีคะ พี่แซกล่ะคะ ? ”
“ พี่ไม่มี แต่พี่อยากมีแฟนชื่อปาลิน ค่ะ ”
“ ……………… ”
พี่แซกเอ่ยแบบนี้ออกมา ทำฉันชะงักมองหน้าเขาอย่างตกใจ พี่แซกโปรยยิ้มให้ฉัน รวมทั้งเพื่อนพี่เขาที่ยิ้มเขินให้ฉันด้วย บอกตามตรงฉันได้ยินประโยคแนวนี้จากผู้ชายมาหลายคน แต่ไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงทำอะไรไม่ถูกเลยที่ถูกพี่แซกจับตามองด้วยรอยยิ้มแบบนี้ ฉันรู้สึกตัวเองหน้าแดงเขินมาก หรือว่าฉันก็รู้สึกกับพี่แซกนะ หรือว่านี่คือความรู้สึกของ Poopy love