เวลาต่อมา...
ทุกคนรักและยินดีกับเจ้าบ่าวของเธอมาก พายุเป็นที่รักของทุกคน เขายิ้มแย้มและพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ความคิดเล็กคิดน้อยของแพตตี้ทำให้ใบหน้าเล็กขาดสีสัน แม้นว่าตอนนี้จะเหลือแค่พี่น้องคนสนิทแค่นั้น
“ฉันมีอะไรจะบอกค่ะ” ผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งขยับเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เธอ แพตตี้จำเธอคนนี้ได้ ขนมแป้งเธอเป็นภรรยาของสายฟ้า น้องชายของคนเป็นสามีนั่นเอง
“เวลาอยากให้พี่พายุหลับ หรือว่านิ่งไปเลย ให้พี่เขาดื่มเหล้าค่ะ”
“หืม...”
“หึ ครอบครัวนี้คออ่อนมาก แบบมาก ๆ เลย ถ้าได้ดื่มแค่แก้วเดียวก็เมาเอ๋งแล้ว ดูนั่นสิ...เฮียสายฟ้าหลับไปแล้ว” แพตตี้มองตามสายตาของขนมแป้ง ซึ่งใบหน้าที่ฟุบหลับคาโต๊ะของสายฟ้านั้นทำให้แพตตี้อมยิ้ม
“แต่ว่าต้องระวังหน่อยนะคะ...พอเมาแล้ว เขาจะจำอะไรไม่ได้ แล้วก็มองไม่ชัด...” ขนมแป้งว่าเสียงอ่อน เธอจำได้ไม่เคยลืม เหตุที่ต้องออกจากเรียนกลางคันเพราะตั้งท้องนั้นเกิดจากอะไร สายฟ้าเมา เขาจำผิดคนแล้วพลาดท่ากับเธอ...
“ยังไงคะ ฉันไม่เข้าใจ”
“ก็...ถ้าเขาเมาแล้วก็ต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาค่ะ ถ้าเขาไปสังสรรค์สิ่งที่ต้องเตรียมให้เขาคือถุงยางอนามัยให้เขาด้วย เผื่อเกิดอะไรไม่ดีน่ะค่ะ”
“_”
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คุณแม่เป็นคนบอกค่ะ” ขนมแป้งว่าพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ คุณแม่ที่หมายถึงคงหมายถึงแม่สามีของพวกเธอ
“_”
“เพราะคุณปู่ก็เป็น คือเขาจะคออ่อนมาก ทางที่ดีอย่าให้เขาดื่มเลยจะดีกว่า แต่ถ้าดื่มเราต้องนั่งเฝ้าเลยค่ะ” แพตตี้พยักหน้ารับฟังคำแนะนำ เห็นคุณตาบอกว่าว่าที่เจ้าบ่าวของเธอไม่ติดแอลกอฮอล์คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง
“ขอบคุณนะ ว่าแต่สายน้ำล่ะ” แพตตี้เอ่ยถามหาลูกชายของขนมแป้ง ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหน
“หลับไปแล้วค่ะ...”
“ฉันอยากได้ลูกชายค่ะ” อยู่ ๆ แพตตี้ก็เอ่ยพูดขึ้น เธอจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนด้วยระยะเวลาอันสั้น
“ได้แน่นอนค่ะ บ้านนี้เชื้อผู้ชายแรงมาก!” ขนมแป้งว่าอย่างมั่นอกมั่นใจว่าแพตตี้ต้องได้ลูกชายอย่างแน่นอน ซึ่งคำพูดของขนมแป้งทำให้แพตตี้หันไปมองคนเป็นสามีที่ตอนนี้ยังคงอยู่กับเพื่อนของเขาดังเดิม
“พี่หมอขวัญตา...เธอเก่งมากเลยล่ะ” อยู่ ๆ ขนมแป้งก็เอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง “จริง ๆ แล้วฉันเรียนแพทย์ด้วยค่ะ แต่ไม่จบ...ท้องก่อนน่ะ”
“...เธอเก่งมากเลยเหรอคะ”
“พี่ขวัญตาน่ะเหรอ เก่งมากแบบมาก ๆ ได้ยินว่าคุณปู่ถึงกับให้เธอเซ็นสัญญาทำงานในโรง’ บาลนานจนเกษียณอายุเลย”
“_”
“ฉันอยากทำงานกับเธอสักครั้งเลยล่ะ พี่เขาเก่งจนอาจารย์พูดถึงตลอด” แพตตี้พยักหน้ารับ ขนมแป้งเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมไร้อคติ ทว่าต่างจากแพตตี้เสียทีเดียว พอได้ยินลูกปลาเล่าเรื่องนั้นให้ฟังก็ทำให้เธอเกิดอคติกับเพื่อนสนิทของคนเป็นสามีเสียแล้ว
“ว่าแต่คุยอะไรกันนะ คุยนานมากเลยเนอะ” ขนมแป้งนั่งมองเช่นเดียวกัน ภาพที่เห็นทำให้แพตตี้ไม่อยากมอง ยิ่งมองยิ่งคิดมาก แถมวันนี้เธอต้องรู้จักคนหลายคนจนสับสนไปหมดแล้ว คนนั้นทีคนนี้ที...สามีเธอเป็นดาราดังกระมัง
“โอ๊ะ! พอพูดถึงก็มาเลย” แพตตี้ได้ยินอย่างนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นหันไปมองทางเดิม เธอกระตุกยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นร่างหนาของคนเป็นสามีที่กำลังเดินมาหา
“ลางานนานเป็นแบบนี้ทุกที...” เขาพึมพำออกมา คิ้วหนาดกดำขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องอะไรในหัว
“มีปัญหาเหรอคะ”
“นิดหน่อยน่ะ” เขาว่าก่อนจะดึงเก้าอี้หนึ่งตัวเข้ามาใกล้เธอก่อนจะนั่งลง
“ไอ้สายเมาแล้วสิท่า” พายุหันไปถามน้องสะใภ้ ขนมแป้งหัวเราะเบา ๆ เป็นอันเข้าใจกันว่าเมาแล้วจริง ๆ ทว่า
“ได้ยินข่าวว่าพี่คออ่อนเหรอคะ”
“อ้าว!...แป้งขายพี่เหรอ” พายุหันไปถามพร้อมกับมองคาดโทษน้องสะใภ้เมื่อแพตตี้เอ่ยถามเขา ทว่าขนมแป้งกลับเม้มริมฝีปากพร้อมกับทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งข้าง ๆ คนเป็นสามีที่หลับไปแล้ว
“พี่ไม่ได้คออ่อนนะ”
“หึ...ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” แพตตี้หัวเราะให้กับใบหน้าของคนเป็นสามี น่าจะเป็นปมด้อยของเขากระมังที่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้
“เฮ้อ ความลับแตกแล้วเรา”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาไม่ตอบเธอ เพียงแค่หัวเราะกลบเกลื่อน ขณะเดียวกันแพตตี้ก็ได้เลื่อนสายตาไปมองขวัญตาที่เดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนใกล้กับซุ้มดอกไม้เพียงลำพัง
“พี่รู้นะว่าเราอึดอัดกับขวัญ”
“หืม?” พายุว่าขึ้น เขาหันไปมองคนเป็นเพื่อนเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นว่าแพตตี้มองอยู่
“ขวัญตาเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือพี่มาตลอดเลย จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนใจดีนะ ไม่ได้โหดเหมือนที่รุ่นน้องว่าหรอก” เขาว่าพร้อมกับกระตุกยิ้ม ทว่าความรู้สึกของแพตตี้นั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“พี่กำลังชมเธอเหรอคะ”
“ก็...ไม่นะ พี่พูดความจริง” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พายุไม่รู้จริง ๆ ว่าที่ขวัญตาดีกับเขาเพราะชอบเขา ชายหนุ่มคงคิดแค่ว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดี
“เราไม่โอเคกับขวัญเหรอ”
“ไม่รู้ค่ะ วันนี้ฉันรู้จักคนเยอะมาก จนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร”
“หึ ถ้าเครียด ๆ ก็ต้อง...นวดขมับ” เขาว่าพร้อมกับยื่นมือมาบีบนวดขมับให้เธอ
“ดีไหม”
“ดีค่ะ...ดีจังมีสามีเป็นหมอ” แพตตี้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริง ๆ ทว่าอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าทุกคนบนโต๊ะหันมามองกันทุกคน
“โว้ว! ไม่อยากจะเชื่อว่าเพิ่งรู้จักกัน หวานเชียวนะ”
“หึ...หลงแล้วล่ะมั้ง” แพตตี้เขินอายให้กับคำเอ่ยแซว ที่พี่ชายของเธอพูดขึ้น
“พี่กลับได้แล้วค่ะ งานเลี้ยงเลิกแล้ว”
“อ้าว...เขินแล้วมาไล่พี่แบบนี้น่ะเหรอ” แพตตี้เม้มริมฝีปาก เธอเขินเขามากจริง ๆ ก่อนที่พายุจะหันไปบอกให้ทุกคนกลับกันได้แล้ว
“จะอยู่ทำไมวะ”
“ก็อยู่เป็นก้างไง!” เตชินท์เห็นเพื่อนว่าน้ำเสียงหงุดหงิดเขาก็เลยช่วยเพิ่มความหงุดหงิดให้มากขึ้นด้วยการแสดงเจตจำนงอย่างตรงไปตรงมา ทว่า
“อยู่ก็อยู่ไป กูไปละ...” พายุว่าพลางเอื้อมมือลงไปคว้าฝ่ามือของแพตตี้ขึ้นมาจับไว้ “ขอพาแพตตี้ไปนอนก่อน”
“นอนอย่างเดียวเหรอ”
“ไม่รู้สิ เผื่อมีคนใจดีให้ไม่ให้นอนอย่างเดียว” เขาดันแขนมาชนไหล่เล็กเพื่อส่งซิกให้แพตตี้เออออเล่นตามไปด้วย ทว่าเธอกลับไม่ทำตาม
“อะไรคะ ใครใจดี”
“ฮ่า ๆ” ทุกคนต่างหัวเราะให้กับความใสซื่อของเธอ แพตตี้ไล่สายตามองใบหน้าของทุกคน ก่อนที่เธอจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“หึ...”
“แกล้งพี่เหรอ หืม...เราเข้าใจแต่ไม่เล่นด้วยกับพี่ใช่ไหม” แพตตี้ส่ายหน้าเบา ๆ เธอไม่ตอบเขา
“ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยนะคะ” ร่างบางเอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะได้รับรอยยิ้มตอบรับกลับมา “กลับกันดี ๆ นะคะ”
ทุกคนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม พายุโอบเอวแพตตี้เข้ามาใกล้ พรุ่งนี้เขาต้องไปทำงานเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงโต้รุ่ง งานเลี้ยงต้องมีเลิกราเป็นธรรมดา เขาเดินไปส่งเพื่อน ๆ ทุกคนขึ้นรถ ทว่าพอหันไปมองหาเพื่อนสนิทอย่างขวัญตาก็ไม่เห็นเธอแล้ว
“มองอะไรคะ”
“ขวัญน่ะ บอกว่าจะรอให้พี่ไปส่ง”
“ไปส่ง?”
“ครับ พี่เห็นกินเบียร์นะ แต่สงสัยจะกลับแล้ว” แพตตี้พยักหน้ารับ เธอเดินเคียงคู่คนเป็นสามีเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้พนักงานจัดงานเลี้ยงเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านให้...
...ห่างไกลออกไปบริเวณลานจอดรถภายในหมู่บ้าน เสียงสะอื้นไห้ภายในรถคันหรูดังขึ้นเบา ๆ ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธแค้น ขวัญตาไม่เคยคิดว่าจะเห็นภาพอะไรแบบนี้...เธอรอเขามานาน รอมานานไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้
“กรี๊ดด!!” หญิงสาวกรีดร้องระบายความอัดอั้นภายในใจพร้อมกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ วันนี้เกือบจะคุมตัวเองไม่ได้เสียแล้ว จากที่คิดให้อีกฝ่ายไปส่ง แต่เธอก็ชิ่งหนีออกมาเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเธออาจจะสติแตกต่อหน้าเขาก็เป็นได้ อย่างไรเสียพรุ่งนี้เขาก็ไปทำงานกับเธออยู่ดี ขวัญตาเชื่อว่ามิตรภาพยาวนานของเธอจะทำให้เขาเข้าข้างเธอ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
...อดคิดถึงวันแรกที่เธอได้พบเขาไม่ได้ มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอหลงรักเขา...
สิบเอ็ดปีที่แล้ว...
บริเวณหน้าตึกสุขศาสตร์ สายวิทย์สุขภาพจะอยู่บริเวณนี้ ขวัญตามองไปรอบ ๆ ตัวด้วยความตกใจที่พบเห็นผู้คนมากหน้าหลายตา เธออยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงยาวเลยเข่าไป กรอบแว่นตาหนาเตอะของเธอทำให้เธอต้องคอยขยับอยู่ตลอด ทว่า
“น้องอยู่คณะไหนคะ” มีเสียเอ่ยทักเธอ เมื่อเจ้าของร่างบางเดินผ่าน
“แพทย์ค่ะ...” เธอเอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะได้รับการหัวเราะเบา ๆ จากรุ่นพี่นักศึกษาที่มาคอยรอรับรุ่นน้อง
“มึงก็ถามน้องเนอะ น้องแต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้มึงคิดว่าน้องเรียนอะไร...ฮ่า ๆ ทางนั้นครับคณะแพทย์” ขวัญตาพยักหน้ารับ ไม่รู้ว่าพวกเขาหัวเราะอะไรกัน ทว่า
“มึง...ปีนี้คณะแพทย์แม่งมีแต่แบบนี้อ่ะ เฉิ่มมาก หาน่ารัก ๆ ไม่มีเลย” เสียงเอ่ยพูดไล่หลังมานั้นทำให้ขวัญตาพอเข้าใจว่าพวกเราหัวเราะอะไรกัน หญิงสาวก้มหน้าลงอย่างไม่ใส่ใจนัก เธอเดินไปตามฟุตบาทเพื่อไปที่คณะของเธอ
พอเดินมาก็เห็นป้ายคณะแพทย์ ร่างบางหยุดมองไปรอบ ๆ มีคนเดินกันให้ขวัก ไม่มีใครสนใจเธอสักเท่าไร อาจจะเป็นเพราะเธอแต่งตัวไม่โดดเด่น หรือที่เรียกว่าเฉิ่มเลยก็ว่าได้ ทว่า
“คณะแพทย์ป่ะ” อยู่ ๆ ก็มีเสียงเอ่ยพูดขึ้นทางด้านหลังเธอ เจ้าของร่างบางหันไปมองอย่างช้า ๆ เกรงว่าเจ้าของเสียงนี้จะไม่ได้เอ่ยเรียกเธอ แต่เขาก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน
“หล่อจัง...”
“หืม...พอดีว่ารุ่นพี่บอกให้เดินเธอตามเธอมาน่ะ คณะแพทย์ใช่ไหม” ราวกับเวลาหยุดหมุนไป ขวัญตามองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า เขาฉีกยิ้มกว้างโชว์ซี่ฟันขาวเรียงกันสวย
“ไม่ใช่เหรอ”
“ชะ ใช่ ใช่แล้ว” ขวัญตาเลิ่กลั่ก เธอเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะมีหนุ่มหล่อเข้ามาทักเธอ
“เราพายุนะ”
“อ้อ...”
“เธอล่ะ”
“ขวัญ...ขวัญตาน่ะ” ขวัญตาว่าพร้อมกับฉีกยิ้มออกมา เธอยกมือลูบผมตัวเองปอย ๆ เมื่ออยู่ ๆ ก็เกิดอากการเคอะเขินให้กับสายตาของเขา
“ไปกัน คนเยอะมาก” ชายหนุ่มว่าพลางหันไปมองรอบกาย คนเยอะมากจริง ๆ “มาสิเป็นอะไรหรือเปล่า”
“อ้อ...ไม่ได้เป็นอะไร” ขวัญตาทำตัวไม่ถูก เธอเดินตามหลังเขาเข้าไปใต้ตึกคณะแพทย์ ยิ่งเดินเข้าไปมากเท่าไรก็ยิ่งมีคนหันมามองมากขึ้น ทุกคนไม่ได้มองเธอแต่มองผู้ชายตัวสูงข้าง ๆ เธอต่างหาก พายุดึงดูดสายตาของทุกคนให้หันมามอง
“น้องชื่ออะไรคะ...”
“พายุครับ...คนนี้ขวัญตา” ชายหนุ่มเอ่ยพูดพร้อมกับบอกชื่อของขวัญตาไปด้วย เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการเป็นมิตรของตน ต่างจากขวัญตาที่รู้สึกพิเศษขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“ห้อยป้ายชื่อไว้น้าน้อง เดี๋ยวไปนั่งรอพี่เรียกได้เลย” พายุยื่นป้ายห้อยคอที่เพิ่งถูกเขียนชื่อให้กับขวัญตาไป ก่อนที่เขาจะคล้องคอตัวเองเช่นกัน
“ห้อยสิ คล้องคอแบบนี้” ขวัญตาทำตามที่เขาบอก ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่ม้านั่งใต้ถุนเพื่อรอให้รุ่นพี่เรียก ซึ่งขวัญตาก็เดินตามมาทันที ทว่าเธอก็ได้ยินเสียงซุบซิบตามหลังมาอีก
“แก...น้องเขามีแฟนแล้วป่ะ เดินมาด้วยกันด้วยอ่ะ”
“โหย...ไม่ใช่หรอก แกดูเขาดิโคตรหล่อ ไม่น่ามีแฟนแบบนี้นะ ไม่สวย ไม่เหมาะกับน้องเขา” ขวัญตาชะงักไป เธอไม่ได้หน้าตาแย่อะไร เพียงแต่ว่าไม่ใช่คนชอบแต่งตัวเพียงแค่นั้น บุคลิกของเธอเหมือนกับสาวเฉิ่มตั้งใจเรียน
“เป็นไรน่ะ ไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่สบายไม่ต้องเข้ารับน้องก็ได้นะ”
“เปล่า เราสบายดี”
“เหรอ แต่หน้าไม่สู้ดีเลย เราไปบอกรุ่นพี่ให้”
“ไม่เป็นไร...จริง ๆ” ขวัญตาเอ่ยย้ำอีกครั้ง เธอยิ้มให้กับเขา หญิงสาวแค่รู้สึกประหม่าเพียงแค่นั้น
“หรือเป็นเพราะเสียงพูดเมื่อกี้ อย่าใส่ใจเลย...เธอก็สวยนะ”
“_” ใบหน้าเล็กแดงก่ำ เธอเขินอายให้กับคำพูดแสนใจดีของเขา แม้จะรู้ว่าเขาแค่กำลังปลอบใจ
“ทุกคนสวยหมดแหละ หึ...” พายุไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของตัวเอง เขาคิดอย่างที่พูดจริง ๆ ชายหนุ่มจิตใจดี ไม่คิดว่าคำพูดของตนนั้นจะหยั่งลึกเข้าไปในจิตใจของหญิงสาวคนนี้...