เวลาต่อมา...
เรื่องเมื่อเช้าลอยเข้ามาในหัวทีไรทำเอาแพตตี้อยากมุดหน้าลงพื้นทุกที หวนนึกถึงใบหน้าคนขี้แกล้ง ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรในวันนี้ เขาเข้างานสายอีกด้วย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นน่ะเรา บอกแม่ได้นะ” เสียงแม่ย่าทำให้แพตตี้ได้สติ เธอหันไปยิ้มให้กับมารดาของคนเป็นสามี วันนี้ท่านมาช่วยเธอทำขนม
“แม่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นานแล้วนะ ดีที่คิดไว้ว่าจะให้เราสองคนมาอยู่ก็เลยให้คนมาแต่งบ้านให้ใหม่ แต่ไม่คิดว่าส้วมจะตัน” ยิ่งมารดาของเขาพูดก็ยิ่งทำให้แพตตี้รู้สึกอับอายมากกว่าเดิม
“แต่บ้านหลังนี้น่ารักมากเลยค่ะ” แพตตี้เปลี่ยนเรื่องคุย เธอกำลังทำคัพเค้กเพื่อจะเอาไปฝากเพื่อนบ้าน สำหรับการย้ายมาอยู่ใหม่ของเธอ มารดาเธอบอกไว้ ซึ่งรายนั้นกำลังเห่อหลานในท้องพี่สะใภ้ของเธอ ก็เลยมีแค่มารดาของคนเป็นสามีที่มาอยู่เป็นเพื่อนในวันนี้
“คุณแม่ลองชิมดูนะคะ ฉันว่าจะขายอาหาร แล้วก็ขนมเค้กออนไลน์ค่ะ แบบ...สุขภาพตามหลักโภชนาการ” แพตตี้ยื่นคัพเค้กให้กับปลายฝน
“ตามหลักโภชนาการน่ะเหรอ”
“ค่ะ...”
“แต่ว่ามันจะต่างกันไหมนะ หนูเรียนที่อิตาลีไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ แต่ว่ามันมีหลักสูตรที่เป็นวิชาเลือกสำหรับอาหารไทยด้วย...น่าจะต่อยอดได้” เธอว่าพลางทำหน้าลุ้นรสชาติคัพเค้กที่แม่ย่าชิม ถ้าอร่อยเธอจะแบ่งไปให้เพื่อน ๆ ของคนเป็นสามีที่โรงพยาบาลด้วย
“อื้ม! อร่อยยมาก แป้งนุ่มมากเลย โหย~ แม่ว่าถ้าไม่ตามหลักโภชนาการ แต่เอาตามความอร่อย แม่ว่าขายได้แน่นอน”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ เราไม่เปิดร้านเลยล่ะ จ้างพนักงานทำเลยก็ได้นะ ส่วนเราเป็นคนคิดสูตรอาหาร” แพตตี้ยกมือลูบต้นคอด้วยความเคอะเขิน เธอยังไม่อยากเปิดร้านสักเท่าไร
“แพตอยากหาลูกค้าก่อนค่ะ กลัวเจ๊งด้วย ฮ่า ๆ” หญิงสาวหัวเราะแก้เขิน เธอไม่รู้เรื่องการตลาดอะไรเลย ไม่ค่อยได้เข้าสังคมอีกด้วย ความกลัวทำให้ไม่อยากเปิดร้านดั่งใจคิด
“หึ...ค่อย ๆ เรียนรู้ไปนะ ยังไงแม่ก็คอยสนับสนุนอยู่แล้ว” แพตตี้ยิ้มให้กับเธอ ใบหน้าเล็กแดงก่ำด้วยความเขินอาย
“หนูเหมือนเพียงฝันตอนยังเรียนอยู่เลย น่ารัก ใสซื่อเหมือนกันเลย แม่เลือกคนไม่ผิดจริง ๆ”
“ขอบคุณนะคะ หนูยังไม่รู้เลยว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากให้หนูแต่งงานกับพี่พายุ”
“อ้อ ก็พายุน่ะสิ...ไม่เอาเมียสักที วัน ๆ คลุกอยู่แต่กับหนังสือ ทำงาน กลับบ้าน ดูหนัง นอน...” มารดาของเขาว่าพร้อมกับขมวดคิ้วให้กับความต่างของลูกชายทั้งสองคน
“หึ...หนูนึกภาพออกเลยค่ะ”
“ใช่ไหม แต่พายุไม่เคยออกจากกรอบเลย แม่กลัวว่าพายุจะเก็บกดอยู่เหมือนกัน ทั้งเรียนก็เรียนตามที่พ่อบอก พอแต่งงานก็ยอมแต่งง่าย ๆ แบบนี้เลย” แพตตี้พยักหน้าเข้าใจ งานเลี้ยงเมื่อวานนั้นพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน พายุมักเห็นใจคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่ขัดใจพ่อแม่เลยสักอย่างแม้กระทั่งการแต่งงานในครั้งนี้
“ถ้าเราไม่พอใจอะไรก็บอกพี่เขาตรง ๆ ได้เลยนะ พายุน่ะเข้าใจง่ายมาก ๆ”
“ค่ะ พี่เขาดีมากเลย” แพตตี้ว่าพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ คิดทีไรก็เขินให้เขาทุกที
“แต่เราจะไม่เหงาจริง ๆ เหรออยู่บ้านคนเดียวน่ะ”
“ก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ” แพตตี้แอบกังวลเช่นเดียวกัน ตั้งแต่เกิดจนโตเธอมีพี่เลี้ยงล้อมรอบตลอด แต่คราวนี้เธอต้องอยู่คนเดียว
“แต่เดี๋ยวเราเอาขนมไปฝากข้างบ้านกัน เผื่อแพตจะได้เพื่อนบ้าง” แพตตี้พยักหน้ารับ เธอจัดแจงคัพเค้กใส่กล่องพลาสติกไร้สีนี้...
...หมู่บ้านจัดสรรถูกแบ่งเขตแดนกันอย่างชัดเจน แพตตี้เดินเคียงข้างมากับหญิงวัยกลางคน เธอเรียกกำลังใจอยู่นานก่อนจะกดกริ่งบ้านหลังแรก
กริ่ง~
“สวัสดีค่ะ เรามาอยู่ใหม่นะคะ บ้านหลังที่สองน่ะค่ะ” แพตตี้เอ่ยพูดผ่านกล้องหน้าประตูบ้านโดยมีปลายฝนคอยแนะนำเธอ
“สวัสดีค่ะ ว่าจะแวะเข้าไปหาอยู่เหมือนกันค่ะ” รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้กับเธอ หญิงสาวอายุไล่เลี่ยแพตตี้เอ่ยพูดขึ้น
“ฉันแพตตี้นะคะ เพิ่งแต่งงานค่ะ ย้ายมาอยู่บ้านข้าง ๆ นี้ค่ะ”
“หึ ฝากหนูแพตด้วยนะ หนูพิม”
“อ้าว คุณแม่รู้จักเหรอคะ” ปลายฝนยิ้มให้กับลูกสะใภ้ จะไม่รู้ได้อย่างไรก็เธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
“รู้สิ พิมจันทร์ลูกพี่อ้อยข้างบ้าน...”
“หึ สบายดีนะคะ หนูเกือบจำไม่ได้แหนะ” แพตตี้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่ของคนเป็นสามีเคยอยู่ที่นี่ ไม่แปลกที่จะรู้จักกับเพื่อนบ้าน ดูแล้วเธอกำลังจะได้เพื่อนใหม่เสียแล้ว...
ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาล พายุหายเข้าไปในห้องผ่าตัดค่อนวัน การผ่าตัดคนไข้ในแต่ละวันนั้นไม่ง่ายเลยสักนิด แถมคนไข้ยังล้นมือแพทย์อีกด้วย
“หมอพายุมาสายเมื่อเช้า พี่หมอรุจน์ไม่พอใจอีกแน่เลย” ขวัญตาหันไปมองหมอรุ่นน้องอย่างปลายเข็ม ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะจงใจพูดให้เธอได้ยิน
“ข้างในเป็นไงบ้างล่ะ ได้อะไรออกมาบ้าง ไม่ใช่เข้าไปแล้วไม่รู้เรื่องนะ” ขวัญตาว่าเสียงนิ่งข่มรุ่นน้องเหมือนที่เธอชอบทำ
“โดนไล่ออกมาน่ะค่ะ ค่อนข้างเครียดกันเลย”
“_”
“เฮ้อ...พี่หมอก็โหดกับพี่พายุตลอดเลย ไม่เหมือนกับ...เอ่อ” หมอปลายเข็มเงียบเสียงไป หมอรุจน์เป็นแพทย์ศัลยกรรมหัวใจที่เรียนจบแล้ว ผู้ช่วยหมายเลขหนึ่งในตอนนี้เป็นหมอพายุ
“เขาว่าอะไรบ้างล่ะ”
“หืม ก็...ประชดเรื่องที่ลูกเจ้าของโรง’บาลเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ” ขวัญตาอดเป็นห่วงคนเป็นเพื่อนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพายุไม่เก่ง แต่เขาได้รับความกดดันมาโดยตลอด
“...ไปไหนคะ พี่ขวัญ!” ขวัญตาเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดสำหรับเข้าผ่าตัด เธออดไม่ได้ที่จะตามเข้าไปดู ทว่า
ติ๊ง!
ประตูอัตโนมัติห้องผ่าตัดกลับเปิดออกเสียก่อน เจ้าของร่างบางชะงักไป เธอมองเป็นรุ่นพี่หนุ่มอย่างหมอรุจน์เดินนำหน้าออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“คนไข้อาการแย่เหรอคะ”
“มาก็ดี ทีหลังบอกเพื่อนด้วย...ถ้าไม่พร้อมก็ลาไปอีกสักวัน” ขวัญตาก้มหน้าลง เธอมองไปทางด้านหลังหมอรุ่นพี่ก็เห็นพายุในชุดผ่าตัดเดินออกมา บนศีรษะของเขามีหมวกอาบน้ำคลุมศีรษะอยู่
“แล้วอย่างนี้ก็ต้องประเมินให้ผ่านอยู่ดี...หึ เป็นลูกเจ้าของโรง’บาล มีเงินมีอำนาจมันดีอย่างนี้นี่เอง”
“เกินไปไหมคะ ฉันไม่คิดว่าพายุจะทำไม่ได้เลยจนพี่ต้องประชดขนาดนี้ไหมคะ”
“...เข้าข้างกันเข้าไป” พายุเดินเข้ามาหารุ่นพี่ของเขาเมื่อเห็นว่าขวัญตากำลังปกป้องเขาอยู่ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงเช่นกัน
“เก็บเคสเรียบร้อยแล้วครับ”
“ไปคุยกับญาติคนไข้ซะสิ ไปบอกเขาว่ามาทำงานสายยังไง”
“เดี๋ยวนะคะ พายุมาสายก็จริงแต่เวลาผ่าตัดก็ตามเดิมไม่ใช่เหรอคะ ทำไมต้อง...”
“ครับ เดี๋ยวผมไปบอกเอง” ขวัญตาไม่พอใจที่พายุยอมง่าย ๆ เช่นนี้ ดูก็รู้แล้วว่ารุ่นพี่คนนี้จงใจกลั่นแกล้งเขา แต่เจ้าตัวก็ยอมดังเดิม
“แต่งงานมีครอบครัวแล้วก็อย่าลืมว่าคนไข้ก็มีญาติ เขียนเคสรายงานมาให้ละเอียด อย่าให้ผิดสักคำ” หมอรุจน์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่เขาจะเดินออกไป ทิ้งให้พายุมองตามแผ่นหลังหนานั้นด้วยความรู้สึกอึดอัด
“เฮ้อ...”
“เป็นไง”
“อย่างที่เห็น”
“แย่เหรอ”
“เปล่า แต่พี่เขาแม่ง...กูจะหยิบจับอะไรก็ไม่ได้ พอกูทำก่อนก็ว่ากูทำอะไรไม่รอให้เขาสั่ง”
“_”
“ถ้าเป็นมึงพี่เขาก็คงไม่ว่า” พายุว่าอย่างนึกหงุดหงิดเช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรก่อนรุ่นพี่ได้ แม้นว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะไม่ผิด แต่อคติที่รุ่นพี่มีต่อเขานั้นทำให้เขาผิดเสมอไป
“ไม่เป็นไรหรอกน่า อีกหน่อยเราก็จบละ”
“เอ้อ เดี๋ยวกูไปคุยกับญาติคนไข้ก่อน” พายุยิ้มให้กับคนเป็นเพื่อน ก่อนที่เขาจะไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะได้คุยกับญาติคนไข้หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีสายตาเป็นห่วงเป็นใยของขวัญตามองตามแผ่นหลังหนาไป...
ขนมที่ทำยังเหลืออีกเยอะ เวลาบ่ายของวันหลังจากที่แม่สามีกลับแล้ว แพตตี้นำคัพเค้กใส่กล่องพลาสติกมาให้กับเพื่อนร่วมงานของคนเป็นสามี เธอยังไม่เคยขึ้นมายังตึกศัลยกรรม จากที่เคยแอบมาดูว่าที่เจ้าบ่าวตั้งนานนมนั้น เธอเห็นเขาผ่าน ๆ ที่ใต้ตึกอาคารหลังนี้ ซึ่งสาวเจ้าอยากมาเซอร์ไพร์สเขาก็เลยไม่ได้ส่งข้อความไปบอกก่อน
โชคดีที่หลังจากนี้เธอจะไม่เหงาอีกต่อไป เพื่อนบ้านอย่างพิมจันทร์อายุไล่เลี่ยกับเธอ แถมยังแต่งงานและมีลูกแล้วด้วย ดีที่เธอจะได้ขอคำปรึกษาอีกฝ่าย ทว่า
“อ้าว! หนูแพต” เสียงเรียกด้วยความแปลกใจทำให้แพตตี้หันไปมอง ร่างท้วมคุ้นตานั้น
“ป้าจ๋า สวัสดีค่ะ” เธอพยายามยกมือขึ้นพนมไหว้ ถุงขนมที่พะรุงพะรังมือนั้นทำให้ยากต่อการพนมมือพอสมควร
“ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ต้องไหว้ก็ได้ ว่าแต่มาหาคุณหมอเหรอ”
“ค่ะ ตึกนี้...ชั้นเจ็ดใช่ไหมคะ”
“ป้าไม่รู้ชั้นหรอก ป้ามาส่งน้ำน่ะ...” แววตาของคุณป้าชื่นชมหญิงสาวจากใจจริง ๆ ก่อนที่คนตัวเล็กจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
“อ้อ ป้าคะ นี่คัพเค้กค่ะ หนูทำมาฝาก” หญิงสาวยื่นขนมให้กับป้าจ๋า แต่กลับได้รับการปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
“อุ้ย ป้าเกรงใจ...”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำเยอะมาก เอาไว้กินเองไม่หมดค่ะ นี่ก็จะเอามาฝากเพื่อนพี่พายุด้วย” ใบหน้าเล็กแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ทำเอาคนเห็นนึกเอ็นดู
“งั้นไปกินน้ำปั่นที่ร้านป้าแลกนะ ร้านป้าอยู่ใต้ถุนคณะแพทย์น่ะ ใกล้ ๆ นี้เอง”
“ไว้คราวหน้านะคะ นี่ค่ะ...” ป้าจ๋ารับถุงขนมจากหญิงสาวมา โดยไม่ลืมที่จะแง้มปากถุงดู
“อู้ว น่ากินนะเนี่ย...งั้นป้าไม่กวนแล้วนะ ป้าก็รีบไปเฝ้าร้านน่ะ” แพตตี้พยักหน้ารับ เธอมองแผ่นหลังคุณป้าที่เดินจากไป ก่อนที่จะเดินไปขึ้นลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล โดยไม่รู้ว่าถูกมองผ่านสายตาของคุณหมอคนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเธอคุยอะไร ทว่าท่าทีนอบน้อมนั้นทำให้เขาหยุดฝ่าเท้ามองโดยทันที แถมเจ้าตัวยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย แต่พอจะเดินเข้าไปทำความรู้จัก เธอก็หายเข้าไปในลิฟต์เสียแล้ว
…ใจดวงน้อยสั่นไหว รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอคนเจ้าเล่ห์ ทั้งวันเธอคิดถึงเขาเลยอยากมาเห็นหน้า เห็นคุณแม่ของเขาบอกว่าให้มาหาที่โรงพยาบาลได้ตลอด เจ้าตัวอยู่ชั้นเจ็ดตึกศัลยกรรม แพตตี้อยากรู้ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไรหากเจอเธอ เขาจะดีใจหรือเปล่า
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนลิฟต์ดังขึ้นเมื่อเคลื่อนมาถึงที่หมายพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เคลื่อนเปิดออก ร่างบางก้าวขาเดินอย่างช้า ๆ แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นเจ้าของร่างหนาที่เธออยากเจอยืนอยู่ไม่ไกล
พายุอยู่ในชุดเสื้อกาวน์ยาว เขาหันหลังให้กับเธอ แต่หญิงสาวก็จำเขาได้เป็นอย่างดี พายุกำลังพูดคุยกับหญิงชราคนหนึ่ง ทางด้านข้างมีเด็กผู้ชายยืนร้องไห้อยู่ แพตตี้เดาว่าเขากำลังคุยกับญาติคนไข้ เห็นอย่างนั้นร่างบางก็ไม่อยากเข้าไปรบกวน เธอยืนรออย่างเงียบ ๆ
“เรารอหมอนานมากเลย เห็นคุณหมอคนนั้นบอกว่าจะให้หมอเป็นคนอธิบายภาพเอกซ์เรย์ แต่ก็ให้รอนานมาก” พายุน้อมรับความผิด เขามาทำงานสายแม้ว่าตารางผ่าตัดยังคงเดิม แต่การอธิบายให้ญาติเข้าใจแผนการผ่าตัดนั้นเป็นหน้าที่ของเขา
“แต่ก็ขอบคุณด้วยนะคะ เฮ้อ...พ่อของไอ้หนูไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
“ครับ พักฟื้นสองสามวันก็จะได้กลับบ้าน” ญาติคนไข้พยักหน้ารับ ท่านจูงมือเด็กชายให้เดินตามไปที่ห้องพักผู้ป่วยใน
“เฮ้อ...” พายุพ่นลมหายใจออกมา วันนี้ค่อนข้างหนักสำหรับเขา เป็นเรื่องของสภาพจิตใจเสียมากกว่า ภายในห้องผ่าตัดค่อนวันก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด ทั้ง ๆ ที่เคสนี้ไม่ได้ยาก แต่เป็นความหนักใจของเขากับรุ่นพี่เสียมากกว่า
ความห่อเหี่ยวใจทำให้เขาไหล่ตก ชายหนุ่มหมุนตัวหันหลังคิดจะเดินไปที่ห้องพัก ทว่ากลับมองเห็นเจ้าของร่างบางที่มองเขาอยู่
“แพต...” ใบหน้าเล็กค่อย ๆ คลี่ยิ้ม แพตตี้ฉีกยิ้มกว้างให้เขา ความรู้สึกแรกที่เห็นใบหน้าของเธอนั้นชายหนุ่มแปลกใจ ก่อนที่ก้อนเนื้อข้างซ้ายของเขาจะกระตุกราวกับถูกกระชาก ความรู้สึกใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเกิดขึ้นกับเขา
“เซอร์ไพร์สไหมคะ...” เธอเดินเข้ามาใกล้เขา พายุฉีกยิ้มออกมา เขารั้งเธอเข้ามากอดโดยไม่ได้ตอบคำถามของเธอ จากใจห่อเหี่ยวเมื่อครู่ตอนนี้กำลังพองโต เขารู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเมื่อได้เห็นหน้าของเธอ...