บทที่ 7

1203 Words
       มือของฉันเริ่มสั่นเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะวางมือหนึ่งเอาไว้บนหัว สายตาของเขามองดูฉันด้วยความอันตรายและร้ายกาจไม่เบา        “ฉันตกลงแต่งงานกับเธอไปแล้ว สาริญ” เขาพูด “ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่กลับคำพูดนะ งานแต่งงานนี้มันจะต้องเกิดขึ้น”        ฉันขบริมฝีปากแน่น จากนั้นเจาก็เพ่งลงต่ำ ลมหายใจของฉันมันชะงักตอนที่มองเข้าไปในดวงตาของเขา ฉันได้จินตนาการไปไกล อติกรไม่เคนมองฉันด้วยความร้อนรุ่มแบบนี้ แต่เขาเคยทำแบบนี้เหมือนกันนะ ก็คือตอนที่ฉันแทบจะไม่เหลือผ้าสักชิ้นบนเรือนร่างแถมหน้าอกของฉันก็ยังโชว์ต่อหน้าเขาด้วย        ฉันพยายามหายใจผ่านอารมณ์ที่รุนแรงในหัวใจของฉัน ฉันจินตนาการเอาไว้        “ทำไมนายถึงตกลงแต่งงานกับฉัน” ฉันถามเขา “ไม่กี่ชั่วโมงก่อน นายไม่ชอบไอเดียนี้ไม่ใช่เหรอ อะไรทำให้นายเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้ล่ะ”        เขาถอนหายใจ “มันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่เธอควรจะรู้คือการแต่งงานนี้มันจะเกิดขึ้น ถ้าเกิดเธอบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับฉันในตอนนี้ ฉันก็จะหาทางหนุดมัน แต่ถ้าเกิดเธอไม่ได้ว่าอะไร ฉันก็จะแต่งงานกับเธอ”        ฉันอ้าปากค้าง ถ้าเกิดเขารู้ความจริงจากหัวใจของฉัน แล้วเขาเข้าใจว่าฉันอยากแต่งงานกับเขามากขนาดไหน เพียงแค่เขาอยากจะแต่งงานกับฉันเท่านั้น เพราะฉันไม่อยากจะบังคับเขา        ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อไป จากนั้นอติกรก็ถามความยินยอมในการแต่งงานกับฉัน เขายังคงจ้องฉันไม่ห่าง ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกเครียดกับการจ้องของเขา        “ทั้งสองคนอยู่นี่เอง ! ” แม่ของฉันพูดตอนที่พบเราทั้งสองคน “ยังมีอีกภาพที่พวกลูกยังไม่ได้ถ่ายกันนะ”        รูปอีกรูปหนึ่งงั้นเหรอ        “แม่” ฉันพูด “พวกเราถ่ายจนพอแล้ว พอเสียยิ่งกว่าพอ”        แม่จับมือของฉันก่อนจะดึงฉันไปกับเธอ “ไม่ มันยังไม่พอ รูปสุดท้ายเป็นรูปที่สำคัญนะ พวกเราต้องการให้สาธารณะชนเชื่อว่าพวกลูกรักกัน แล้วรูปนี้มันจะช่วยลูกได้นะ”        “นั่นก็คือพลังที่แสดงออกมาไง ! ” แม่ให้กำลังใจ        มันยากที่จะยิ้มออกมาเพราะฉันแทบไม่มีความสุขเลย แม่ของฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันกวนใจฉันขนาดไหน แม่ตื่นเต้นเกินกว่าจะมองฉันอีกครั้ง ฉันรู้ว่าแม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเราแล้ว แต่เธอจะมั่นใจแบบนั้นได้อย่างไรล่ะ        ฉันกอดอกเมื่ออติกรเดินเข้ามาร่วมเฟรมต่อหน้าช่างภาพ เขาดูหมดความอดทนพอ ๆ กับฉันเลย ถึงแม้ว่าช่างภาพ จะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดระหว่างเรา แต่เขาก็ทนรอให้ข้ามผ่านมันไปไม่ไหวแล้ว เขาดูมีความสุขกว่านี้ตอนที่เขาคิดว่าเราอยากแต่งงานกันจริง ๆ เขาจะต้องได้รู้ตอนนี้ละว่านี่มันเป็นการแต่งงานที่ถูกจัดเตรียมขึ้น โดยที่ไม่ได้มาจากความรักเลย        “คุณอยากให้เราโพสต์ท่าแบบไหนครับ” อติกรถาม น้ำเสียงของเขาไม่สามารถซ่อนความขุ่นเคืองเอาไว้ได้        ฉันพยายามทำให้มันไม่มารบกวนฉัน ฉันให้โอกาสในการยกเลิกงานแต่งงานนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันไม่ควรรู้สึกผิดแล้ว เพราะคนเดียวที่ฉันอยากจะขอให้ยกโทษให้ก็คืออัณญา ฉันต้องได้คุยและอธิบายให้เธอฟังเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องเหล่านี้มันไม่เพียงทำให้เธอช็อค แต่มันทำให้ฉันต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะทำให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นปกติ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนในสมองของฉันยังคิดกับเรื่องนี้อยู่        “จูบ ฉากจูบเป็นรูปสุดท้ายที่ผมต้องการ”        ร่างกายของฉันนิ่งไป จูบงั้นเหรอ พวกเขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า พวกเราเพิ่งจะรู้ว่าเราต้องแต่งงานกันแล้วจู่ ๆ พวกเขายังมาคาดหวังให้พวกเราจูบกันอีกงั้นเหรอ         ฉันได้ยินเสียงลมหายใจของอติกรข้าง ๆ ฉัน มันทั้งดังและไม่นิ่ง เขาไม่อยากจะจูบฉันแน่ ๆ ฉันบอกได้เลย        “นั่นมันจำเป็นจริง ๆ เหรอ ” เขาถามช่างภาพ        “แน่นอนครับ” ช่างภาพตอบเขา “คุณกำลังจะแต่งงานกับเธอ มันเป็นเรื่องปกติมากเลยนะครับ ปกติเจ้าบ่าวจะต้องดีใจที่ได้จูบเจ้าสาวเพื่อการถ่ายภาพนะครับ ผมไม่เคยได้รับปฏิกริยาแบบนี้มาก่อนเลย”        แม่ของอติกรจ้องมาทางเขา “ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพเลย ลูกจูบสาริญเลย แล้วเราจะได้มีรูปเอาไว้โชว์ให้เร็วที่สุด”        “แต่หนูว่า...” ฉันยังไม่ทันจะพูดจบ มือของอติกรก็โอบเอวของฉันก่อนจะหันหน้าฉันไปทางเขา ดวงตาของฉันเบิกโพลงเมื่อริมฝีปากของเขาบรรจบลงบนริมฝีปากของฉัน และนั่นก็เป็นเรื่องราวในจูบแรกของเรา เมื่อฉันลืมตาขึ้น เขาก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน พวกเราสบตากันเมื่อริมฝีปากของเขายังค้างอยู่บนริมฝีปากของฉัน โดยที่ไม่ขยับไปไหนเลย ฉันไม่ได้เตรียมใจกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในตัวของฉัน มันไม่เหมือนกับทุกสิ่งอย่างที่ฉันเคยประสบกับผู้ชายคนอื่น ครั้งนี้ฉันรู้สึกเร่าร้อนไปถึงปลายเท้า        ดวงตาของฉันค่อย ๆ หลังลง ก่อนจะปล่อยให้ร่างกายได้เป็นอิสระ ฉันใช้มือโอบรอบคอเขาอย่างควบคุมไม่ได้ก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้ ร่างกายของอติกรเป็นไปตามท่าทีของฉัน จากนั้นเขาก็ปล่อยมือจากเอวของฉันราวกับว่าเขาไม่มั่นใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อฉันจูบเขากลับ เหมือนเขากำลังตกใจอยู่ ฉันรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง ฉันรู้ว่าฉันควรจะผละเขาออก แต่ตอนที่เขาจูบฉัน ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายของฉันต้องการสิ่งนี้มานานมากจนไม่อาจคิดดีได้เลย        ฉันไม่ได้เตรียมใจสำหรับเสียงครางทุ้มต่ำจากปากของเขาเมื่อเราจูบกันอย่างดูดดื่มมากขึ้น มือของเขาก็โอบรัดเอวของฉันแน่นขึ้น จนทำให้ร่างกายของเราเข้าใกล้กันมากขึ้น ฉันพยายามจะไม่ครวญครางในขณะที่ท้องของฉันเต็มไปด้วยความต้องการที่มีต่อเขา        เสียงครางจากนั้นก็มาจากเขา เมื่อเขาผละตัวเองออกจากร่างการของฉัน ดวงตาของฉันเบิกโพลงด้วยความกลัว ก่อนที่เขาจะเช็ดปากพร้อมกับรสชาติของฉันที่จางหายไป        เขาเกลียดมันขนาดนั้นเลยเหรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD