~ อติกร ~
ผมควรจะได้อยู่กับอัณญาในเวลานี้ แต่ผมกลับต้องมาตัวติดอยู่กับดนัยและดนุภัทรเสียอย่างนั้น ผมเริ่มคิดแล้วจะว่าพวกเขาทำแบบนี้เพราะมีแผนอะไรซ่อนอยู่ อย่างการให้ผมมาอยู่กับพวกเขาจะได้ไม่ได้ไปเดตกับเธอ ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการให้เธอเป็นของพวกเขา เหมือนกับที่ผมต้องการให้เธอเป็นของผม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นเลย น่าเสียดาย ที่ผมไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ พี่น้องของผมเองก็รู้สึกเหมือนกัน พวกเขาคลั่งเธอพอ ๆ กับผมเลย นั่นคือสิ่งที่คาดหวังตั้งแต่ที่เธอเข้ามาคบกับพวกเรา มันไม่มีทางที่จะทำลายสัมพันธ์นั้นได้จนกว่าจะมีสองคนในสามคนที่ตัดสินใจจะยอมเสียสละ แต่ไม่มีใครในพวกเราที่เต็มใจจะปล่อยเธอไปเลย
“พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนกันแน่” ผมถามดนัย “เส้นทางนี้มันดูคุ้นจังเลย”
“เรากำลังไปหาเพื่อนเก่า” เขาตอบ “เขามีเรื่องสำคัญอยากจะถามพวกเรา”
“เพื่อนเก่างั้นเหรอ” ผมถาม “จะเป็นใครนะ”
“อาทิตย์ วรนิลวงศ์ไงล่ะ” เขาบอกผม
“พวกเรากำลังตกอยู่ในปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย” ผมถาม “ทำไมพวกเราต้องไปเจอตระกูลวรนิลวงศ์ด้วยล่ะ แล้วทำไมถึงเร่งด่วนขนาดนี้ ให้พ่อแม่ของพวกเราไปเจอพวกเขาแทนไม่ได้เหรอ”
“การพบเจอครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่ของพวกเราเลยนะ อติกร” ดนุภัทรอธิบาย “มันเกี่ยวกับพวกเราทั้งสามคนและความสัมพันธ์ของพวกเรากับใครคนหนึ่งน่ะ”
“อัณญางั้นเหรอ” ผมถาม
“ถูกเผงเลย” เขาตอบ
มันมีอะไรสำคัญมากพอที่จะให้พวกเราต้องเดินทางไกลขนาดนี้เพื่อไปหาเขากันนะ
“ผมไม่จำเป็นต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ” ผมเอ่ยขึ้น “แกกำลังทำลายการเดตของผมกับอัณญานะ แล้วแกก็รู้อยู่แก่ใจด้วย”
“เรางั้นเหรอ” ดนุภัทรถาม “ทำไมพวกเราต้องทำอะไรแบบนั้นด้วยล่ะ”
ผมไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ ขณะที่รถจิ๊บจอดอยู่ริมถนน
ผมสังเกตเห็นอาทิตย์แทบจะทันที ชายคนนั้นดูมีปัญหาไม่เบา
เขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขาอยู่กับหญิงอีกสองคน
“เป็นไปได้ไหมว่าเขามีแฟนสองคนเหมือนกับที่อัณญาคบกับพวกเราสามคนน่ะ” ผมถาม ก่อนจะมองไปที่พวกเขา
ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงพาฉันมาที่นี่กับพวกเขาด้วย อาจจะเพราะพวกเขาหาทางที่จะทำให้มันอยู่ด้วยกันได้ แล้วพวกเขาก็อยากจะสอนวิธีให้กับพวกเรา พวกเราลงจากรถจากน้ันอาทิตย์ก็แนะนำพวกเราให้ทั้งหญิงทั้งสองคนที่มากับเขาได้รู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ สาว ๆ ” ดนัยพูดก่อนจะเข้าไปจับมือพวกเธอ
“เป็นเกียรติอย่างมาก” ผมพยักหน้าเล็กน้อย
“เรียกพวกเรามาทำไมเหรอ” ดนุภัทรถามขึ้น “ผมคิดว่าผมมีความคิดหนึ่ง แต่ผมต้องการคำอธิบายที่ถูกต้องน่ะ”
“ก่อนอื่น พวกเราคิดว่าพ่อของคุณไปทำสัญญาทางธุรกิจอื่น มันมีบางอย่างที่พวกเราอยากให้เขาติดตั้งในบ้าน” ดนัยกล่าว “แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เรามาที่นี่ ใช่ไหม สิ่งที่ผมได้ยินล่าสุด คือคุณกับพ่อของคุณตัดขาดกันไปแล้ว”
อาทิตย์ถอนหายใจ “ผมได้ยินเรื่องบางอย่างที่ผมไม่ค่อยมั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ผมก็หวังว่าคุณจะช่วยชี้ทางสว่างให้กับสถานการณ์ที่คล้ายกันนี้ให้หน่อย”
สถานการณ์ที่คล้ายกันงั้นเหรอ
ผมมองไปทางพี่น้องของผม นี่กำลังจะบอกว่าสมมุติฐานของพวกเราถูกต้องงั้นเหรอ
“ได้ยินอะไรมาเหรอ” ผมถาม
“ผมได้ยินมาว่าพวกคุณสามคนมีแฟนคนเดียวกันน่ะ” อาทิตย์อธิบาย
ผมเอานิ้วปาดริมฝีปากล่างเบา ๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “นั่นก็ใช่ แต่มันจะช่วยอะไรคุณได้เหรอ”
การกล่าวถึงอัณญาของเขาทำให้ความตึงเครียดระหว่างเราเพิ่มขึ้น เขายังไม่ชินที่ต้องมาใช้แฟนร่วมกัน การพูดคุยนั้นมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
“ผู้หญิงทั้งสองคนนี้เป็นแฟนของคุณเหรอ” ดนัยถามขึ้น ก่อนจะรอคำตอบ
ผู้หญิงทั้งสองคนดูขยะแขยงกับคำถามของเขา “ไม่ใช่อยู่แล้วละ” มีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “มีแค่เกวลินที่เป็นแฟนของเขา ไม่มีคนอื่นอีกแล้วละ”
“แล้วมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป” เกวลินเสริมขึ้น น้ำเสียงของเธอไม่มีความคุกคามใด ๆ
“มันเกี่ยวกับเธอ” อาทิตย์พงกหัวไปทางหญิงคนนั้น “ผมมั่นใจว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อของคเณศ ลูกชายของอติรุจ เอราวัฒน์ ผมเชื่อว่าเธอน่าจะเป็นแฟนของเขา แต่ปัญหาก็คือเขานั้นมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นอยู่แล้ว ผมเลยอยากจะรู้ว่ามันเป็นไปได้ไหม”
“ระหว่างที่พวกเรามีแฟนเป็นคนเดียวกัน พวกเราไม่มีใครทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอเลย พวกเราไม่แน่ใจว่าถ้าเราทำแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงไม่ทำ ผมไม่มั่นใจว่ามันหมายความว่าหลังจากที่แสดงความเป็นเจ้าของแล้ว จะหาใครคนอื่นได้อีกน่ะ สิ่งที่ผมสามารถยืนยันได้คือคุณมีแฟนมากกว่าหนึ่งคนได้ มันเป็นไปได้ มันไม่ง่ายเลยที่จะมีแฟนร่วมกัน แต่มันก็เป็นไปได้” ผมพยายามอธิบาย
“อติกร” ดนุภัทรพูดชื่อของผมขึ้นทันควัน “ผมว่าคุณควรดูนี่ก่อน”
เขายื่นโทรศัพท์ในมือมาให้ผมจากนั้นผมก็ตัวแข็งทื่อไป มันเป็นบทความ ที่พาดหัวด้วยตัวอักษรตัวหนาว่า ‘อติกร หริณะกำลังจะแต่งงานกับสาริญ รัตนชลาลัย’
“นี่มันบทความบ้าอะไรกัน” ผมพูดกับดนุภัทร “พ่อกับแม่ไม่เคยบอกเลยว่าฉันต้องแต่งงานกับผู้หญิง แถมยังเป็นหญิงที่ชื่อสาริญ รัตนชลาลัยด้วยเหรอ พวกเขาบ้าไปแล้วเหรอไง”
สาริญเป็นเพื่อนสนิทของแฟนของผมนะ พวกเขามักจะใช้เวลาด้วยกันคลอด แล้วก็มีอะไรบางอย่างจากเธอที่ทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ชอบเลย ไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย
“แม่ได้บอกบ้างไหมว่ามีการตกลงทางธุรกิจอะไรกับครอบครัวรัตนชลาลัยในคืนนี้ เธออยากให้รีบกลับบ้านให้เร็วหน่อยเพื่อไปตามนัด ผมเดาว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่แม่หมายถึงน่ะ” ดนัยอธิบายก่อนจะชำเลืองมองบทความนั้นอีก เขาดูเหมือนกับว่าอ่านทุกอย่างจนจบแล้วเหมือนจะพบอะไรบางอย่าง
“มันไม่มีทางเป็นจริงหรอก” ผมพูดตัดบท มือของผมสั่นอย่างหยุดไม่อยู่ “ฉันจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากแฟนสาวของฉัน แม่น่าจะรู้ดีนี่ แม่ทำไปโดยไม่บอกฉันก่อนได้อย่างไรกัน”
“ใจเย็นก่อน” ดนัยเอ่ยขึ้น “บางทีบทความนี้อาจจะผิดก็ได้ เพราะพวกเขาก็ชอบปล่อยข่าวผิด ๆ เกี่ยวกับชีวิตของพวกเราอยู่แล้ว หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนแล้วกลับบ้านไปฟังสิ่งที่พ่อกับแม่จะพูดก่อนเถอะ”
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมรีบกระโดดขึ้นรถจิ๊บก่อนจะรอให้พี่น้องของผมบอกลาอาทิตย์
ครั้งนี้ผมเป็นคนขับรถ ผมพยายามขับรถจิ๊บให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าบทความเหล่านั้นมันเป็นจริงหรือเปล่า
ถ้ามันเป็นจริง ผมต้องหยุดมันให้ได้