สนามบินนานาชาติ
หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนนเพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลย
การขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ..
ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิททั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบนเจ็ทแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัดแต่อยากบอกซีมากกว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากันเพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย
“ซี!ทางนี้ๆ”
เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวนในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉันพร้อมกางแขนออกกว้าง
หมับ!
“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย
“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉันแหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก
“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบพร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ
“แม่ก็ห่วงเกินไงฉันโตแล้วนะ”
“ในสายตาผู้ใหญ่เรายังเด็กต่างหาก..แล้วนี่ทั้งตัวมีกระเป๋าแค่สองใบเหรอ”
“อือ..จะถือมาทำไมเยอะค่อยมาซื้อเอาใหม่ที่นี่ก็ได้ยังต้องใช้ชีวิตอยู่อีกนาน”
“เออจริงด้วยงั้นกลับไปพักที่บ้านเลยไหมหรืออยากไปไหน”
“ไปห้างก่อนไหมอยากได้ชุดมาไว้ใส่”
“โอเคงั้นไปที่รถกัน” ฉันกอดแขนไซซีแน่นก่อนจะเดินควงแขนกันไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลนักและขับรถออกจากสนามบินโดยจุดมุ่งหมายคือห้างสรรพสินค้าสุดหรูแถวบ้านของฉันเอง
ห้างสรรพสินค้า
ร่างบางทั้งสองเดินคุยกันกะหนุงกะหนิงเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรูโดยมีผู้จัดการออกมาต้อนรับเมื่อเห็นหนึ่งในนั้นคือหลานสาวตระกูลดังและเป็นลูกค้าประจำของร้าน
“คุณซินเซียสวัสดีค่ะ..วันสนใจแบบไหนดีคะเมื่อวานมีเดรสเข้าใหม่อยู่อีกโซนถ้าสนใจเอ๋จะพาไปดูค่ะ” ผู้จัดการสาวสวยออกมาต้อนรับอย่างเป็นกันเองทำให้ซินเซียยกยิ้มและหันไปถามไซซี
“สนใจไหมคุณหนูไซซี” เพราะว่าเธอไม่ค่อยถนัดกับการใส่เดรสเท่าไหร่อยู่บ้านจะชอบใส่กางเกงมากกว่าแต่ไม่ใช่ไม่มีชุดเดรสนะก็มีติดตู้ไว้บ้างต่างกับไซซีรายนี้ชอบใส่เสื้อผ้าหลากหลายแบบ
“เอาซิอยากดูคอลเลคชั่นใหม่พอดี” สาวสวยเรือนผมสีดำตรงยาวเอ่ยตอบซินเซีย
“ค่ะ พี่เอ๋พาซินไปดูหน่อยนะคะ”
“ได้ค่ะเชิญทางนี้เลยค่ะ”
ร่างบางเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนจูงมือเพื่อนสนิทอย่างไซซีไปยังโซนที่มีชุดเดรสเข้าใหม่เมื่อมีเพื่อนเลือกทั้งสองก็สนุกสนานกับการลองชุดมากโดยเฉพาะไซซีที่จับชุดต่างๆ ยัดใส่มือซินเซียให้ไปลองและซื้อกลับ
“ส่งไปที่บ้านเลยนะคะพี่เอ๋” เมื่อรูดบัตรเสร็จสิ้นหลานสาวตระกูลดังก็เอ่ยกับผู้จัดการร้านและขอตัวออกไปเดินเล่นต่อ
“อยากไปเล็มหน้าม้าจังไปเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม” สาวสวยเรือนผมสีดำอย่างไซซีหันมาเอ่ยเมื่อความยาวของผมหน้าม้าเริ่มทิ่มตาเธอ
“ไปร้านประจำฉันก็ได้อยากทำผมด้วย”
“ทำผม?..แกเหรอทำทรงอะไร?”
“อยากย้อมสีผมแต่ขอไปเทียบสีผมที่ร้านดูก่อนว่าจะเข้าไปสีไหน”
“อ๋อ..โอเค”
เมื่อไปถึงร้านทำผมเจ้าประจำฉันก็จัดการส่งเพื่อนให้กับพี่บีช่างผมคนสวยทันทีส่วนตัวเองก็มาเลือกสีผมกับเจ๊แมนสาวสองที่เป็นเจ้าของร้านเมื่อเลือกสีได้ฉันก็เดินไปบอกไซซีไว้เพราะคงใช้เวลาหลายชั่วโมงกลัวรอนานเลยจะให้เรียกคนขับรถมารับที่ห้าง
“ไม่เป็นไรฉันรอแกได้..ว่าแต่สีอะไร”
“ทำสีบลอนด์เทาน้ำตาล”
“สีอะไรนะ!”
“บลอนด์เทาน้ำตาล” ฉันเอ่ยย้ำอีกครั้งถามกลางสายตาสงสัยของเพื่อน
“ชื่อยาวจังเอาเป็นว่ารอชม”
“อือ..รอตรงนี้นะแต่ถ้าอยากพักก็โทรเรียกคนขับรถที่บ้าน” ฉันบอกอีกครั้งก่อนจะเดินไปโซนย้อมผมส่วนไซซีก็พยักหน้ารับรอไปสักพักก็ได้ยินเสียงเพื่อนคุยกับพนักงานว่าจะทำเล็บ
แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย…
ผ่านไปนานนับหลายชั่วโมงมาถึงร้านทำผมบ่ายสามโมงจนตอนนี้สองทุ่มแล้วฉันได้สีผมถูกใจมากระหว่างมองตัวเองในกระจกก็ฉีกยิ้มออกมาเพราะเงาที่สะท้อนภาพตัวเองมันดูดีขึ้นจริงๆ แต่ก่อนผมสีน้ำตาลก็ไม่ใช่ไม่สวยมันก็สวยแต่ดูหน้าเด็กไปพอทำผมสีอ่อนแบบนี้แล้วดูเป็นสาวขึ้น
“เข้ากับแกมาก”
“ใช่ไหมฉันก็คิดแบบนั้นแหละ”
ไซซีที่ทำเล็บเสร็จเดินมาหาฉันพร้อมเอ่ยชมไม่ขาดปาก
“สวยมากน้องซินเซีย”
“ขอบคุณค่ะเพราะเจ๊แมนเนรมิต”
“ว้าย!พูดอีกก็ถูกอีก..ว่าแต่วันนี้นึกว่าจะพาหนุ่มมาด้วยซะอีก” เจ๊แมนทำท่าทางดี๊ด๊าก่อนจะถามถึงสายฟ้าเพราะปกติฉันจะชอบชวนเขามาด้วย
ก็ฉันไม่มีเพื่อนผู้หญิงนี่นา…
“ใครเหรอ?” แต่ดันลืมไปว่าไซซีก็ไม่รู้จักสายฟ้าเธอหันมามองพร้อมทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ทันที
“เพื่อน”
“เจ๊ว่าไม่เพื่อนแน่นอนฟันธง”
“ใช่เพื่อนที่ไหนจะมานั่งรอกันแบบนี้”
“เพื่อนสนิทไง” ฉันเถียงคอเป็นเอ็นเมื่อโดนเพื่อนและเจ๊แมนพยายามไล่ต้อนแซวไม่เลิกอยากจะบอกว่าก็ไม่คิดว่าเพื่อนแหละอยากให้เป็นมากกว่านั้น
“เพื่อนก็เพื่อน..” ไซซีตัดบทแต่ยังยกยิ้มไม่เลิกทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีอารมณ์แบบโดนเพื่อนรู้ความลับเนี่ยเป็นจังหวะที่นรกมากนะ
“แล้วนี่สาวๆ จะไปไหนต่อไหมอุตส่าห์ทำผมสวยกันขนาดนี้” เจ๊แมนเอ่ยถามพลางมองฉันสลับกับไซซี
“คงกลับบ้านค่ะ” ไซซีตอบ
“เป็นเจ๊ไม่กลับค่ะแวะผับเลยสวยแบบนี้ต้องออกไปเฉิดฉายนะลูก” เจ๊แมนจีบปากจีบคอต่อทำให้ฉันรู้สึกอยากไปขึ้นมาทั้งที่เมื่อเช้ายังบ่นสายฟ้าอยู่เลย
“พูดแบบนี้อยากไปเลยค่ะ” ไซซีเริ่มล่ะฉันมองท่าทางเบิกบานของเพื่อนแล้วคิดว่าคืนนี้ได้พากันหนีเที่ยวแน่
“แต่อายุไม่ถึงพี่แมน” ฉันหันไปตอบพี่สาวสองแต่ความหมายคือมีที่แนะนำไหมคะ
“โอ๊ยสกายผับเลยลูกเจ้าของเส้นใหญ่” เจ๊แมนมองซ้ายมองขวาท่าทางแบบลับเฉพาะกิจมากก่อนจะโน้มหน้าลงมากระซิบ
“...”
“แล้วที่นี่การ์ดเยอะดูแลดีที่สำคัญผู้หล่อ”
“จริงเหรอคะ” ไซซีหูผึ่งทันที
“ใช่ค่ะคนสวยไปลองเลยแนะนำแล้วจะติดใจ”
“ไปไหมซิน?” ไซซีมองมาที่ฉันตาเป็นประกายเห็นท่าทางแบบนี้ฉันปฏิเสธทำไมไปก็ไปสิที่จริงฉันเป็นคนที่ดื้อคนหนึ่งเลยนะแต่แค่ไม่มีเพื่อนดื้อน่ะพอไซซีมาฉันก็พร้อมที่จะแหกตัวเองออกจากกรอบ
“ไปก็ไป”
“เย้ งั้นคืนนี้เราหนีเที่ยวกันเถอะ!!” เพื่อนสาวตัวแสบเอ่ยอย่างดีใจก่อนจะกดหน้าลงมาจุ๊บแก้มของฉันเบาๆ ถ้ายัยนี่มีแฟนนะให้ตายแฟนก็ไปไหนไม่รอด
“งั้นขึ้นหน้าที่ร้านเลยนะเดี๋ยวให้พนักงานมาดูแล”
“แหม ไม่ค่อยจะรีบเลยนะเจ๊นี่เจ้าของร้านหรือแก๊งรีดไถ”
“รีดไถ.. อุ้ยช่างทำผมค่ะ..นี่เด็กๆ มาช่วยแต่งหน้าให้สองสาวหน่อยเร็ว”
ไม่นานบรรดาช่างที่กำลังเตรียมตัวเก็บร้านเป็นอันต้องสลายตัวเมื่อเจอเจ๊แมนสั่งให้มาช่วยแต่งหน้าให้ฉันและไซซีจนผ่านไปเป็นชั่วโมงก่อนจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ชั้นบนของร้านดีนะที่แวะซื้อเสื้อผ้าก่อนเราสองคนเลยได้ชุดเดรสสวยๆ ใส่ไปเที่ยว
สรุปวันนี้ทั้งวันยังไม่กลับบ้านแต่เที่ยวต่อฉันไม่เท่าไหร่นะแต่ยอมใจยัยไซซีเลยพลังงานเยอะเหมือนหมาตัวโต!!