ตอนที่ 1

1166 Words
ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีบนเนินเขาเตี้ยทอดยาวไปเบื้องหน้าราวกับไม่มีวันจบสิ้น เท้าเล็กเปลือยเปล่าก้าวลงบนต้นหญ้านิ่มละมุนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อที่จะตามร่างของเด็กผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งให้ทัน แต่แล้วก็พลันสะดุดก้อนหินหกล้ม ใบหน้ากลมแก้มยุ้ยกระแทกลงกับพื้นเต็มแรง และถึงแม้จะมีต้นหญ้านับร้อยต้นรองรับแต่แรงปะทะก็ทำให้หน้าผากของเด็กหญิงรูปร่างตุ้ยนุ้ยปูดบวม          เด็กหญิง อัญชัน เกิดลาภ หรือที่ทุกคนเรียกว่าหนูอัญพยายามดันกายอ้วนป้อมให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วยกมือขึ้นเช็ดหน้าที่เปื้อนคราบดินและเศษหญ้าออกไป หยาดน้ำตากลมกลิ้งไหลหยดออกมาจากสองดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากรูปกระจับแย้มฉีกเมื่อเสียงร้องไห้ดังเล็ดลอดออกมา          “พี่ชาย... หนูอัญเจ็บ”          สองมือของเด็กหญิงวัยเพียงแค่แปดขวบยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาอย่างไร้เดียงสา ดวงตามองตามหลังร่างของพี่ชายสุดที่รักที่ตัวเองวิ่งตามมาด้วยความเสียใจ          “พี่ชาย... พี่ชายขา หนูอัญเจ็บ...”          แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นจะไม่ได้ยิน เด็กหญิงจึงกัดฟันลุกขึ้นยืนและออกวิ่งตามไปอีกครั้ง          “พี่ชายขา... พี่ชาย...”          เคียร์ส เบนด์เนอร์ เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดชะงักเท้าที่กำลังวิ่งไล่จับผีเสื้อแสนสวย เพื่อหวังจะเอาไปให้น้องน้อยที่ตัวเองแสนจะรักชะงักเท้า หมุนตัวเร็วๆ กลับไปด้านหลัง ร่างเล็กของน้องสาวบุญธรรมยืนน้ำตาร่วง เขารีบคุกเข่าและรั้งร่างสั่นเทานั้นเข้ามากอดแนบอก          “หนูอัญ... เป็นอะไรไปครับคนเก่ง”          อ้อมกอดของพี่ชายช่างแสนอบอุ่น แม้ว่าอัญชันจะยังเล็กนัก แต่หล่อนก็รู้ดีว่าอ้อมแขนของเคียร์ส เบนด์เนอร์คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวเอง          “หนูอัญหกล้มค่ะพี่ชาย... เจ็บ...”          มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าผากที่ตอนนี้เป็นรอยแดงช้ำ ดวงตากลมโตคล้ายกับตุ๊กตามีหยาดน้ำตาคลอตลอดเวลา          “เจ็บมากไหมครับ มานี่พี่เป่าให้ เพี้ยงงงง”          เคียร์สเป่าลมใส่หน้าผากที่บวมให้กับอัญชัน ก่อนจะบรรจงจูบแก้มใสแผ่วเบา                   “หายหรือยังครับ”          เด็กหญิงส่ายหน้าน้อยๆ พูดอย่างไร้เดียงสา “ยังเลยค่ะพี่ชาย... แต่หนูอัญจะอดทนค่ะ เพราะพี่ชายเป่าให้หนูอัญแล้ว”          เคียร์สยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กอย่างแสนเอ็นดู “เก่งมากครับหนูอัญ เดี๋ยวกลับบ้านแล้วพี่จะใส่ยาให้นะครับ”          เด็กหญิงพยักหน้ารับ ก่อนจะยกมือขึ้นแตะใบหน้าหล่อเหลาของเคียร์สแผ่วเบา          “เราจะมาที่นี่กันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่ไหมคะ พี่ชาย... จะไม่อยู่กับหนูอัญอีกแล้วใช่ไหมคะ”          เด็กหนุ่มจับมือของน้องน้อยที่ตัวเองแสนเอ็นดูเอาไว้ พลางพยายามอธิบายให้เด็กหญิงเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาจะต้องจากไปไกลแสนไกลในอีกสองวันข้างหน้า          “พี่ต้องไปเรียน ไปหาความรู้ใส่ตัวเอง เพื่อที่จะได้กลับมาช่วยงานของคุณพ่อคุณแม่ยังไงล่ะครับ อีกหน่อยถ้าหนูอัญโตขึ้น หนูอัญก็จะเข้าใจว่าการเล่าเรียนมันสำคัญแค่ไหน”          เด็กหญิงไม่เข้าใจความหมายนักหรอก แต่ก็พยายามที่จะไม่ทำให้พี่ชายที่ตัวเองรักต้องลำบากใจ          “หนูอัญเข้าใจค่ะ ว่าพี่เคียร์สจำเป็นต้องไป พี่เคียร์สไม่ได้ต้องการจะทิ้งหนูอัญ”          “ใช่ครับ พี่ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งหนูอัญเลย เพราะพี่รักหนูอัญนะครับ”          เด็กหญิงตัวน้อยระบายยิ้มแก้มแทบปริ หล่อนมองพี่ชายสุดที่รักด้วยดวงตาแสนภักดี          “พี่ชายต้องสัญญานะคะว่าจะกลับมาหาน้องอัญ จะไม่ทิ้งน้องอัญไปไหน”          เคียร์สยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยเล็กป้อมของอัญชัน พลางให้คำสัญญา          “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่ชายคนนี้ก็จะรัก จะดูแลหนูอัญไปชั่วชีวิตครับ”          “พี่ชายสัญญาแล้วนะคะ ห้ามผิดสัญญากับหนูอัญนะ”          “ครับ พี่จะรักษาสัญญาของเราเอาไว้ด้วยชีวิต”           อัญชันปล่อยหยาดน้ำตาออกมาจากสองดวงตาอีกครั้ง และสวมกอดพี่ชายที่ชื่อเคียร์สเอาไว้แน่น ไม่ว่าจะกี่วัน กี่เดือน กี่ปี หรือเป็นสิบๆ ปี หล่อนก็จะรอ... จะเฝ้ารอเคียร์สด้วยความภักดี          “เคียร์ส หนูอัญ... กลับบ้านได้แล้วลูก เย็นแล้ว”          เสียงของดาริน เบนด์เนอร์ มารดาแท้ๆ ของเคียร์สดังขึ้น เด็กทั้งสองจึงผละออกจากกัน และจูงมือกันเข้าไปหามารดา          “ครับคุณแม่”          “ค่ะ คุณป้า”          อัญชันถูกดารินซึ่งเป็นเพื่อนรักกับอรดีแม่แท้ๆ ของตัวเองที่เสียชีวิตตั้งแต่คลอดหล่อน ขอมาอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้ไม่ถึงหนึ่งขวบ เพราะชัดชัยสามีของอรดีได้มีภรรยาคนใหม่ ดารินเกรงว่าลูกของเพื่อนรักจะถูกกลั่นแกล้งจึงได้ขอมาเลี้ยงดู ซึ่งชัดชัยก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร          “แล้วนั่นหัวหนูอัญไปโดนอะไรมาล่ะลูก ทำไมบวมเชียว” ดารินเห็นหน้าผากของอัญชันแดงช้ำก็อดที่จะถามด้วยความตกใจไม่ได้ “หรือว่าเคียร์สแกล้งน้องกันหึ!” “ผมไม่ได้แกล้งหนูอัญนะครับคุณแม่” “คุณป้าขา หนูอัญหกล้มเองค่ะ พี่เคียร์สไม่ได้แกล้ง แถมยังเป่ารักษาให้หนูอัญ จนตอนนี้หนูอัญไม่เจ็บแล้วล่ะค่ะ” ดารินระบายยิ้มและดึงร่างของอัญชันเข้ามากอด หล่อนรักอัญชันเหมือนลูกแท้ๆ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก แถมอรดีแม่ของอัญชันตอนมีชีวิตอยู่ก็เป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับหล่อน “ถ้าพี่เคียร์สแกล้งต้องมาบอกป้านะหนูอัญ” อัญชันยิ้มกว้าง รอยยิ้มไร้เดียงสาจนดารินอดอมยิ้มตามไม่ได้ เด็กหญิงมองหน้าพี่ชาย ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมีความสุข “พี่ชายบอกว่าจะไม่มีวันรังแกหนูอัญค่ะคุณป้า” “เชื่อได้ไหมเนี่ย พ่อเคียร์ส” ดารินหันไปพูดทีเล่นทีจริงกับลูกชายสุดหล่อของตนเอง “จริงสิครับคุณแม่ ผมรักน้องอัญ ไม่มีวันทำให้น้องอัญเสียใจหรอกครับ” “แล้วแม่จะคอยดู” เคียร์สคว้ามือของอัญชันมาจับจูงเอาไว้ ก่อนจะพาเดินตามหลังของมารดากลับไปที่รถ ระหว่างทางก็ชี้ชวนให้น้องสาวดูผีเสื้อแสนสวยที่บินว่อนผ่านหน้าหลายต่อหลายครั้ง “ถ้าพี่ชายกลับมาแล้ว ต้องพาหนูอัญมาเที่ยวที่นี่ด้วยนะคะ” “ครับ พี่สัญญา” สายใยแห่งความพันธ์ผูกร้อยรัดให้หัวใจของทั้งสองคนชิดแนบ กรุ่นไอรักหอมละมุนคละคลุ้งล้อมรอบสองกายา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD