ใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เมื่อรับรู้ได้ว่าคนที่นอนกกกอดซ้อนหลังเธออยู่ขยับตัว ไออุ่นจากเรือนกายชายด้านหน้าที่แนบนาบแผ่นหลังของเธอทำให้หญิงสาวหายใจติดขัด ไหนจะแขนกำยำข้างหนึ่งที่กอดเอวบางไว้หลวม ๆ อีก แค่นี้ก็เล่นงานจนสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างเธอหัวใจแทบวายแล้ว และพอสัดส่วนความเป็นชายแข็งขึงดุนดันบั้นท้ายอวบอัด ไข่มุกก็แทบเป็นลม
เสียงถอนหายใจ และวงแขนที่รัดแน่นขึ้นทำให้ไข่มุกหลับตาลง มือบางสองข้างกำผ้าห่มที่คลุมถึงอกไว้แน่น เธอเปลือย เขาก็เปลือย เรือนกายไร้อาภรณ์ของชายหญิงที่มีศักดิ์เป็นว่าที่พี่เขยกับว่าที่น้องเมียแนบชิดเกินงาม ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงของคนที่มีศักดิ์เป็นคู่หมั้นและพี่สาวของพวกเขา
“กตจ๋า…” เสียงหวานหูเรียกหาพี่สาว ทั้งที่คนที่เขากกกอดอยู่คือน้องสาว
ไข่มุกไม่กล้ากระดุกกระดิก เธอแทบกลั้นหายใจในตอนที่ว่าที่พี่เขยขยับตัวกดเธอลงนอนหงาย แล้วขยับตามมาคร่อมทับเธอไว้ทั้งตัว
เมื่อคนที่นอนอยู่ใต้ร่างไม่ใช่คนที่คิด และเป็นคนที่ไม่สมควรมาอยู่บนเตียงกับเขา ตาคมก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“น้องมุก !”
ภากรแทบสติแตกเมื่อคนที่เขาคิดว่าตัวเองนอนกกกอดมาทั้งคืนคือมรกต…คู่หมั้นที่จะแต่งงานกันในวันพรุ่งนี้
“พี่กร…” เสียงของไข่มุกสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เพราะกลัวว่าเขาจะโกรธจัดจนลงมือทำร้าย
ภากรหลุบตามองสำรวจหญิงสาวแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอเปลือยทั้งตัว เขาจึงสบถคำหยาบออกมา ส่วนตัวเขานั้นไม่ต้องมองตัวเอง เขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น
ภากรกำหมัดทุบลงข้างศีรษะหญิงสาวสุดแรง
ไข่มุกสะดุ้ง ตัวสั่น น้ำตาคลอ เธอตื่นกลัวท่าทีของเขา
ภากรลงไปยืนข้างเตียง มองหาเสื้อผ้าของตัวเอง พอเห็นว่ามันวางอยู่บนพื้นเขาก็รีบก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา แต่พอเขากำลังจะสวมกางเกงใน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจนสุด ตาคมเบิกกว้าง ใบหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นพ่อแม่ของตัวเอง และพ่อแม่ของคนที่ยังนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงยืนอยู่หน้าประตู เขารีบเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในมือมาปิดตรงกลางกาย
สายตาดุและผิดหวังของผู้ใหญ่ทั้งสี่คนทำให้ภากรถอนหายใจ เขายังไม่ได้ทำอะไรไข่มุก เขารู้ตัวเองดี แต่ภาพที่ผู้ใหญ่เห็นไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นได้เลย เขาจึงไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไร
มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย
แม่บุษรารีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนเก้าอี้ไปคลุมตัวลูกสาวคนเล็ก แล้วประคองให้ลุกขึ้นนั่ง โอบกอดลูกไว้แนบอก ท่านถอนหายใจยาว หนักอึ้งเต็มหัวใจของคนเป็นแม่
พ่อกวีเดินเข้าไปหยุดยืนข้างเตียง มองลูกสาวด้วยความหนักใจไม่แพ้ภรรยา เรื่องที่เกิดขึ้นหนักหนาสาหัสเหลือเกินสำหรับครอบครัวของท่าน
ขณะที่ภายในห้องเงียบกริบ เพราะทุกคนต่างพากันอึ้งและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มรกตก็เดินตามเข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้าย หญิงสาวมองน้องสาวที่นั่งพิงอกแม่อยู่ด้วยความตกใจ เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะหันมองหน้าคู่หมั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ
“พี่กร…” มรกตเรียกคนรักด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอสะอื้นออกมาเบา ๆ “ทำไมพี่กรถึงใจร้ายกับกตแบบนี้คะ ฮึก ๆ ฮือ…” มรกตร้องไห้และวิ่งออกจากห้องไปแล้ว ภากรอยากจะวิ่งตามไปกอดปลอบเธอ แต่เขาต้องอยู่เคลียร์เรื่องราวบ้าบอในเช้านี้ให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนเข้าใจก่อน
“ผมไม่ได้ทำอะไรน้องมุกนะครับ เราแค่นอนบนเตียงเดียวกันเฉย ๆ” ไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ เขารู้ตัวเองดี
“กรยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหมลูก ภาพมันฟ้องขนาดนี้ ยังจะปฏิเสธความรับผิดชอบอีกเหรอ” แม่แก้วถอนหายใจแล้วส่ายหน้า ผิดหวังในตัวลูกชาย
“แม่ครับ…” ภากรพยายามจะอธิบาย แต่ผู้เป็นพ่อก็พูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดหนักแน่นว่า
“พรุ่งนี้เปลี่ยนตัวเจ้าสาว แกต้องแต่งงานกับน้องมุก” พ่อภวัตกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด
“แต่ผมไม่ได้รักน้องมุก”
ภากรขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิด เขาหันไปมองหญิงสาวที่เอาแต่นั่งนิ่งในอ้อมอกแม่ของเธอด้วยสายตาดุ เขาไม่รู้ว่าเธอมานอนบนเตียงเดียวกันกับเขาได้ยังไง ที่จริงแล้วคนที่ต้องนอนบนเตียงเดียวกับเขาควรเป็นพี่สาวของเธอ
“น้องมุก เธอรู้ใช่ไหมว่าพี่ยังไม่ได้ทำอะไรเธอ”
“ยังมีหน้าไปถามน้องแบบนั้นอีกเหรอ” แม่แก้วถามเสียงสั่น ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจที่ลูกชายปัดความรับผิดชอบอย่างหน้าไม่อาย ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย
“ก็ผมไม่ได้ทำน้องจริง ๆ นี่ครับ”
“ภากร !” แม่แก้วตวาดเสียงดังลั่นห้อง ท่านกำมือแน่น ขึงตาจ้องลูกชายด้วยความโกรธจัด “ไปสวมเสื้อผ้าในห้องน้ำ แล้วกลับบ้าน พรุ่งนี้กรต้องแต่งงานกับน้องมุก !”