2-1 เพื่อนบ้านรุ่นคุณพ่อ

1179 Words
2 เพื่อนบ้านรุ่นคุณพ่อ หน้าตาตกใจสุดขีดของสาวน้อย เป็นเหตุให้พีระพงษ์อารมณ์ดีทั้งวันจนเพื่อนร่วมงานและลูกน้องที่ทำงานแซว ‘มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า คุณพีถึงได้อารมณ์ดี ยิ้มไม่หุบ’ รถติดไฟแดง นั่งรอลูกค้า เข้าประชุมบอร์ดผู้บริหารของบริษัทอสังหาฯ เขาปิดตาลงคิดถึงกลิ่นดอกไม้คล้ายว่าจะเป็นลาเวนเดอร์เย็น คล้ายกลิ่นอายของน้ำหอมจาง ๆ บนเรือนร่างนุ่มหอมของเธอซึ่งไม่เหมือนสาวคนไหน ตื่นเต้น... จนมือไม้สั่น ใจสั่นไปหมด ไม่สมเป็นหนุ่มวัยสามสิบเก้าปี ผู้ผ่านประสบการณ์เรื่องผู้หญิงมาโชกโชน เลิกงานแล้วชายหนุ่มยกเลิกทุกนัดหมาย รีบบึ่งรถตรงกลับบ้าน ถือโอกาสเข้าไปเยี่ยมเยียนรุ่นพี่ บ้านของทวียศเป็นบ้านแฝดกว้างขวางสะอาดตา ในหมู่บ้านของคนฐานะกลาง ไม่ใช่โครงการใหญ่โต บางบ้านเป็นคนดั้งเดิม พักอาศัยมานานหลายสิบปี เป็นหมู่บ้านเดียวกันกับพีระพงษ์ที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ จากการแนะนำของรุ่นพี่ ส่งข้อความมาบอกกับเขาเรื่องประกาศขายบ้านมือสองราคาถูกทำเลดี พีระพงษ์ไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้ออะไร กำลังมองหาบ้านพักอาศัยใกล้กับที่ทำงาน บ้านหลังนี้ตกแต่งเพิ่มเติมแล้วก็นับว่าถูกใจในงบประมาณประหยัด ชายหนุ่มมาถึงบ้านรุ่นพี่ในช่วงเย็น ‘ทวียศ’ และ ‘วรรณภา’ กำลังยุ่งอยู่กับการเลี้ยงหลานวัยล้มลุกคลุกคลาน หัดตั้งไข่ รุ่นพี่ซึ่งกลายมาเป็นคุณตาแล้ว ออกมาเปิดประตูรั้วเหล็กให้โดยไม่ต้องรอให้แขกกดกริ่งเรียก ภรรยาเจ้าของบ้านอายุสี่สิบเอ็ดปี เรียนจบรุ่นเดียวกันกับพีระพงษ์ หล่อนมีสามีอายุสี่สิบสามปี พีระพงษ์ไม่ได้รังเกียจพวกเขาเรื่องที่เป็นคุณพ่อคุณแม่วัยใส ทั้งสองมีลูกเร็ว ท้องแรกตอนอายุสิบห้า ท้องที่สอง ท้องต่อไปก็ตามมา แต่ก่อนนั้นเขายังคอยให้ความช่วยเหลือเป็นบางคราว เมื่อสองสามีภรรยาวัยรุ่นต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปแต่งงานเลี้ยงลูก หากทวียศไม่หัดเล่นโซเชียลเพราะลูก ๆ ชวนให้ลองเล่น ได้หัดเข้ากลุ่มเฟซบุ๊กกับเขา คงไม่มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าอีกหลายคน เรียนหนังสือร่วมชั้นเรียน โรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน อย่างพีระพงษ์ก็เป็นรุ่นน้องของทวียศ ถึงแม้ว่าไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปี ยังคงมีความสนิทสนม มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน “เก็บบ้านเสร็จแล้วหรือยังล่ะพี เรียบร้อยดีไหม...” “เรียบร้อยครับพี่ ขอบคุณพี่ยศมากเลยนะ เจ้าของบ้านเดิมจัดการเรื่องเอกสารให้ผมทุกอย่าง ค่าโอนก็ออกให้ บ้านหลังนี้ต่อเติมแล้วสวย เดินทางไปทำงานสะดวก” ร่างสูงในเชิ้ตทำงานหล่อเหลาหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีขาว ส่งของฝากหลานให้เจ้าของบ้านกับมือ “นี่ของฝากหลาน วัยกำลังเรียนรู้หัดพูดหัดเดิน ผมแวะเซ็นทรัลซื้อผลไม้ของเล่นมาครับพี่...” “ขอบใจ ๆ” คุณตาท่าทางตื่นเต้น แววตาเป็นประกายขณะเปิดถุงพลาสติก ก้มลงดูตุ๊กตาผลไม้ที่แกะออกจากกันได้ ติดกันใหม่อีกครั้งเป็นของเล่นฝึกพัฒนาการของเด็กในอายุวัยขวบกว่า ๆ กว่าจะเงยหน้าขึ้นพูดคุยกับเพื่อนบ้าน “เอ้อ... วันก่อนพี่ขอบใจแกมาก แต่ว่าคราวหน้าคงไม่รบกวน พี่ล่ะเกรงใจแก” ชายหนุ่มยกมือโบกไปมา “ไม่ ๆ เลยพี่ พี่กวนผมได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ขอให้กวนมาเถอะจะได้สนิทสนมกันเหมือนเมื่อก่อน ได้เจอกันบ่อย ๆ” พีระพงษ์ฉีกยิ้มกว้างอย่างหนุ่มอัธยาศัยดี บนโซฟาในฝั่งตรงกันข้าม เจ้าของบ้านหรี่ตามองอย่างไม่ไว้วางใจ ทว่าคงไม่กล้าทักถาม ชายหนุ่มนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “ว่าแต่... พี่มีปัญหาอะไรกับลูกสาวหรือเปล่าครับ?” “อ้อ... เอ้อ ก็นิดหน่อย น่าปวดหัวทุกคน...” ทวียศเล่าไป กุมขมับไป ลูกสาวคนเล็กสุดเป็นเด็กดี กำลังจะรับปริญญา แต่คุณพ่อคุณแม่ยังคงเป็นกังวล กลัวจะเป็นเหมือนพี่ ๆ คนที่สองคืออิงฟ้า เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่เดือน กู้เงินธนาคารไปลงหุ้นเปิดบริษัทโฆษณากับเพื่อน ธุรกิจท่าทางไปได้สวย ดันมาอกหักหมาด ๆ เลยทำตัวผีเข้าผีออก มีเพื่อนสนิทเป็นสาวสองชื่อเปรี้ยว เปรี้ยวสมชื่อเลยทีเดียว ถึงนายเปรี้ยวจะเป็นเพื่อนที่ดีพอสมควรแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็อดห่วงไม่ไหว ลูกสาวคนที่สามท้องโตกลับบ้านมา มีสามีเป็นเด็กแว้น มาทิ้งหลานเอาไว้ให้เลี้ยง ตัวไปไหนไม่รู้ คนที่บ้านคาดเดาว่าหนีไม่พ้น กลับไปเป็นสิงห์นักบิด ลูกชายคนโตสองคนเรียนหนังสือไม่จบ ดีหน่อยมีวิชาช่างติดตัวมา คุณพ่อเลยฝากฝังให้ไปทำงานที่อู่รถมอเตอร์ไซค์ เรื่องรายได้ก็พอมี สองสามีภรรยายังเปิดอู่รถมอเตอร์ไซค์หลายสาขา มีร้านคาร์แคร์เล็ก ๆ ริมชานเมือง บ้านของทวียศยังเรียกได้ว่ากินบุญเก่า บ้านไม่ต้องเช่าเป็นทรัพย์สมบัติเดิม คุณปู่คุณย่าทิ้งเอาไว้ให้ลูกหลาน ถึงไม่ได้ร่ำรวยมาก จัดอยู่ในระดับฐานะที่ไม่อดอยาก พอมีพอกิน แต่ละคนมีวิชาชีพเลี้ยงตัวเองได้ ทุกวันนี้เรื่องสถานะทางการเงินเลยไม่เป็นปัญหาเท่าความสัมพันธ์ในครอบครัว มีปากเสียงกันเป็นบางครั้ง และหลาย ๆ ครั้งก็ไม่ได้พูดจาปรับความเข้าใจกัน ไม่ได้หันหน้าเข้าหากันอย่างครอบครัวพึงเป็น “พูดยากนะพี่ เด็กสมัยนี้ ยิ่งเราแรงไป เขาจะแรงกลับ ดีนะ ไม่เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปไหนต่อไหน...” “พี่ได้แต่คอยบอกให้มันดูแลตัวเอง อย่าให้เป็นเหมือนพี่สาวมัน ทำอะไรให้ป้องกัน แม่มันไม่ค่อยสอน เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว แต่จะมาให้พี่คอยสอนลูกสาวเรื่องเพศ รู้สึกปากหนักยังไง ๆ” “ผมว่าเขาคงเรียนหนังสือในห้องเรียนมาพอประมาณนะ ถึงในชีวิตจริงอาจต้องระวังมากกว่าในหนังสือ เรื่องป้องกัน คงพอได้นะผมว่า...” ไม่ได้เลยต่างหาก! มีที่ไหนกัน เมาแล้วขี่คอผู้ชาย กระโดดขึ้นรถเรียกพี่คะพี่ขาพาหนูไปด้วย... พีระพงษ์เพียงพูดไปเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจเท่านั้น สีหน้าของรุ่นพี่ไม่ค่อยจะดี วรรณภาก็กำลังนั่งฟังพวกเขาสนทนากัน ไกวเปลกล่อมหลานในคอกกั้นเด็กไปด้วย “ผมผ่านผับย่านนั้นยังไงเดี๋ยวผมไลน์บอกพี่ แต่ถ้าพี่หลอกถามลูกสาวได้ รู้ว่าวันไหนอิงฟ้าไปเที่ยว พี่โทรมาบอกผมล่วงหน้าสักชั่วโมง ผมจะแอบไปดูให้ เจ้าของผับ การ์ดย่านนั้น ผู้หมวดละแวกนั้น ผมรู้จักหมดแหละ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD