(สวัสดีค่ะพี่เค้ก)
ไดม่อนชะงักนิ่งทันทีแววตาสั่นรัวเมื่อได้ยินเสียงหวานที่คุ้นหูชัดเจนแต่ก็เงียบเพราะอยากฟังเสียงเธอต่อ
“เอ่อ สวัสดีจ้ะน้องโรส พี่รบกวนเวลาน้องโรสมั้ยคะ”
(ไม่เลยค่ะพี่เค้ก วันนี้โรสหยุดงานพอดี พี่เค้กมีอะไรรึเปล่าคะ)
เค้กเงียบแล้วมองหน้ารามินทันทีเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ รามินจึงกระซิบให้เธอพูดตามที่เขาบอก
(พี่เค้กคะ ได้ยินโรสรึเปล่าทำไมเงียบไปคะ)
โรสเรียกเค้กทันทีเมื่อเห็นปลายสายเงียบไปนาน
“ดะ…ได้ยินจ้ะน้องโรส พอดีเมื่อกี้พี่ทำของตกเลยก้มเก็บ พี่แค่อยากจะถามว่าพรุ่งนี้น้องโรสไปทำงานที่ห้องสมุดมั้ยจ้ะ แล้วเข้างานกี่โมง”
(ไปค่ะพี่เค้ก โรสเข้างานที่ห้องสมุดเจ็ดโมงครึ่งค่ะ พี่เค้กมีอะไรให้โรสช่วยมั้ยคะ)
“อ๋อ พอดีเพื่อนพี่ต้องไปหาหนังสือเพื่อค้นหาข้อมูลแต่เช้าจ้ะ เลยให้พี่ถามเวลาเข้างานของบรรณารักษ์ให้เพราะเห็นพี่สนิทกับน้องโรส”
(อ่อค่ะ ห้องสมุดเปิดให้เข้าแปดโมงตรงนะคะ เพื่อนพี่เค้กอยากได้หนังสือประเภทไหนคะ ให้โรสหาไว้ให้มั้ยคะ)
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวเพื่อนพี่ไปหาเอง งั้นพี่ไม่กวนน้องโรสแล้ว ขอบใจนะจ้ะ”
(ยินดีค่ะพี่เค้ก)
พูดจบเค้กก็วางสายทันที เมื่อเค้กวางสายแล้วทุกคนก็หันไปมองหน้าไดม่อนพร้อมกันหมดเมื่อเห็นไดม่อนนั่งนิ่งแววตาสั่นรัวเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
“พี่ม่อน”
รามินเรียกไดม่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงจนไดม่อนหันมามองรามิน
“ต้องใช่โรสแน่ๆ รามิน กูจำเสียงเธอได้ วันนั้นที่งานเลี้ยงบริษัทกูก็ได้ยินเสียงแบบนี้แต่กูตามไปแล้วไม่เจอจนคิดว่าตัวเองหูแว่ว แต่วันนี้กูไม่ได้หูแว่วแล้วถึงเสียงจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่โทนเสียงและการพูดไม่ได้เปลี่ยนไปเลยพวกมึง”
ไดม่อนพูดขึ้นเสียงสั่นด้วยความดีใจน้ำตาคลอเบ้าออกมาโดยไม่อายแพรวาและเค้กเลยสักนิดทำเอาสาวๆ ทั้งสองถึงกับจะร้องด้วยเพราะเข้าใจความรู้สึกของคนที่รอคอยเวลานี้มาตลอดเจ็ดปี ส่วนรามินและอคินก็ลุกไปนั่งข้างๆ ไดม่อนแล้วตบบ่าเขาเบาๆ
“ใช่ไม่ใช่พรุ่งนี้มึงต้องไปดูด้วยตัวเอง ถ้าเธอใช่โรสจริงๆ มึงก็ต้องพาเธอกลับมา แต่มึงก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยเผื่อเธอไม่ใช่โรสของมึง ตกลงมั้ยไอ้ม่อน”
ไดม่อนพยักหน้าตอบอคินทันที เมื่อเห็นไดม่อนสีหน้าเริ่มกลับมาปกติก็พากันนั่งดื่มต่อสักพักก็แยกย้ายกันนอนห้องที่ผับของตัวเอง ทุกคนต่างนอนหลับสนิทยกเว้นแต่ไดม่อนที่ข่มตาหลับไม่ลงเพราะอยากให้เช้าเร็วๆ ตอนนี้ใจเขาร้อนรนอยากเจอเธอใจจะขาด ความอดทนและความใจเย็นเขามันหายไปตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแล้ว ไดม่อนมาหลับลงในช่วงเกือบตีสี่ร่างสูงสะดุ้งตื่นมาเมื่อมองนาฬิกาก็เบิกตากว้างทันทีเพราะตอนนี้เจ็ดโมงกว่าแล้ว ไดม่อนจึงรีบลุกอาบน้ำแต่งตัวในชุดเสื้อช็อปคณะวิศวะแล้วรีบขับรถไปมหาลัยทันที ที่ไดม่อนรีบไปมหาลัยเขาไม่ได้รีบไปเรียนแต่รีบไปห้องสมุดของมหาลัย เมื่อมาถึงมหาลัยแล้วไดม่อนก็จอดรถไว้ที่คณะตัวเองแล้วรีบเดินไปห้องสมุดทันทีเพราะตรงห้องสมุดไม่มีที่จอดรถ เมื่อเข้ามาในห้องสมุดแล้วร่างสูงก็รีบเดินหาคนที่เขาอยากเจอตามล็อกหนังสืออย่างร้อนรนจนมาหยุดชะงักยังล็อกหนังสือที่อยู่หลังห้องสมุดเมื่อเห็นร่างบางที่เขาโหยหามานานกำลังจัดหนังสืออย่างอารมณ์ดี ไดม่อนยืนชะงักนิ่งมองโรสไม่วางตาหัวใจเต้นรัวจนมือไม้สั่นเทาพูดอะไรไม่ออกเพราะดีใจจนน้ำตาไหลออกมาสักพักไดม่อนก็มือไม้อ่อนจนมือเผลอไปดันชั้นหนังสือจนหนังสือข้างบนหล่นลงมา
“ระวังคะ”
โรสรีบวิ่งมาผลักไดม่อนทันทีเพราะกลัวหนังสือจะหล่นมาโดนเขาจนทำให้ไดม่อนนั้นเสียหลักหงายหลังนอนลงพื้นพร้อมกับดึงเธอมานอนทับเขาไว้ด้วย เมื่อตั้งสติได้แขนแกร่งทั้งสองข้างก็โอบเอวเธอไว้ทันที ส่วนโรสเมื่อล้มทับไดม่อนก็ตกใจเอามือค้ำอกเค้าไว้แล้วรีบขอโทษทันที
“ขอโทษค่ะ คือฉันไม่ได้ตั้งใจ”
โรสพูดขอโทษไดม่อนอย่างสุภาพแต่ก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อได้สบตากับเขาเพราะเธอรู้สึกคุ้นแววตานี้มากแต่โรสก็ต้องเรียกสติตัวเองกลับมาเมื่อเห็นน้ำตาเขาไหลออกมา
“คะ…คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ ทำไมร้องไห้ อ๊ะ!”
โรสร้องตกใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ไดม่อนก็กระชับกอดแน่นขึ้นจนหน้าเธอลงไปแนบอกแกร่งของเขา
“ในที่สุดคำอธิฐานม่อนก็เป็นจริง ม่อนเจอโรสแล้ว ขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่”
“อื้ออ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ พูดบ้าอะไรของคุณ”
โรสรีบผละตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อโดนไดม่อนกอดแบบไม่ทันตั้งตัวทำเอาเธอตกใจไม่น้อย จนไดม่อนได้สติขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นยืนตามเธอ
“ระ…โรสจำม่อนไม่ได้หรอ”
ไดม่อนพูดเสียงสั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเธอมองเขาเหมือนคนไม่รู้จักกัน
“คุณเป็นใครคะ เรารู้จักกันด้วยหรอคะ”
คำพูดของโรสทำเอาไดม่อนถึงกับชะงักนิ่งข้างในใจรู้สึกเจ็บปวดทันทีเมื่อเธอบอกไม่รู้จักเขา
“โรส”
ไดม่อนเรียกชื่อโรสเสียงแผ่วเบาแววตาซึมลงจนโรสรู้สึกใจเสียทันทีเพราะแววตาเขาดูเศร้าจนเธอรู้สึกเจ็บปวดตามอย่างบอกไม่ถูก
“คุณรู้จักฉันช่วงก่อนฉันอายุสิบสามปีใช่มั้ยคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนไดม่อนเงยหน้ามาสบตาเธอแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ขอโทษนะคะ คือถ้าคุณกับฉันรู้จักในช่วงนั้นฉันคงจำคุณไม่ได้ ฉันเสียความทรงจำในช่วงวัยนั้นเพราะเกิดอุบัติเหตุตื่นมาฉันก็จำได้แค่ชื่อเล่นตัวเองเท่านั้นค่ะ”
ไดม่อนเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
“สะ…เสียความทรงจำหรอ”
ไดม่อนเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะไม่คิดว่าเจอเธอแล้วเธอจะจำเขาไม่ได้
“ค่ะ คุณเรียกชื่อฉันทั้งที่พึ่งเจอฉันครั้งแรกแสดงว่าคุณรู้จักฉันจริงๆ อีกอย่างฉันก็รู้สึกคุ้นแววตาของคุณด้วย ช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ยคะว่าเรารู้จักกันได้ยังไง”
โรสพูดกับไดม่อนไปตรงๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ที่เธอยอมคุยกับเขาเพราะรู้สึกคุ้นเคยกับแววตาของเขาแต่ก็จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร ทางด้านไดม่อนก็พยายามตั้งสติตัวเองแล้วพูดกับเธอทันที
“งั้นเราไปหาที่นั่งคุยกันได้มั้ย”
ไดม่อนพูดกับโรสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นั่งคุยในห้องสมุดได้มั้ยคะ พอดีอยู่ในเวลางานฉันค่ะ ขอเอาหนังสือที่ตกเก็บเข้าชั้นแล้วไปนั่งคุยที่มุมอ่านหนังสือตรงโน้นดีมั้ยคะ”
ไดม่อนพยักหน้าตอบโรสทันที เมื่อเห็นเขาพยักหน้าตอบแล้วโรสก็รีบเก็บหนังสือเข้าชั้นโดยมีไดม่อนช่วยเพราะเขาตัวสูงเอาหนังสือยื่นไปวางชั้นสูงที่หนังสือตกลงมาได้ ถ้าเธอเก็บเองก็ต้องใช้บันไดช่วยเมื่อเก็บหนังสือเสร็จแล้วโรสก็เดินนำไดม่อนไปยังมุมอ่านหนังสือที่ตอนนี้ยังไม่มีคนอยู่ทันที
“คุณชื่ออะไรหรอคะ แล้วรู้จักฉันได้ยังไง”
โรสเอ่ยถามไดม่อนทันทีเมื่อนั่งลงที่มุมอ่านหนังสือแล้ว
“ไดม่อน แต่โรสเรียกว่าม่อนเฉยๆ”
ไดม่อนตอบกลับโรสทันทีเมื่อได้ยินเธอถาม
“ไดม่อนหรอ”
โรสพยายามนึกตามทันทีเมื่อได้ยินชื่อของเขาแต่ก็จำเขาไม่ได้อยู่
“อย่าพึ่งพยายามคิดตอนนี้ก็ได้”
ไดม่อนพูดกับโรสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อเห็นเธอทำหน้าเหมือนกำลังพยายามคิดอยู่
“เอ่อ…ตอนนั้นเราสนิทกันมากเลยหรอคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนค่อทันทีด้วยความอยากรู้
“สนิทสิสนิทมากด้วย”
ไดม่อนพูดร่ายยาวเรื่องราวของเธอกับเขาให้โรสฟังแต่ก็เล่าแค่ว่าเธอกับเขารู้จักกันได้ยังไงเพราะเหมือนโรสพยายามคิดตามแล้วเหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกปวดหัวไดม่อนจึงหยุดเล่า
“เป็นอะไรรึเปล่าโรส”
ไดม่อนเอ่ยถามโรสด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอเหมือนกำลังปวดหัว
“ไม่เป็นอะไรมากค่ะ ฉันแค่กำลังพยายามคิดถึงเรื่องของเราแต่เวลาพยายามคิดแบบนี้ทีไรมักจะปวดหัวตลอดเลย”
โรสตอบไดม่อนไปตามตรงจนไดม่อนตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยโดยไม่เล่าต่อ
“เลิกงานแล้วไปไหนมั้ย”
ไดม่อนเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วเอ่ยถามโรสทันที
“ฉันต้องไปทำงานต่อที่ร้านอาหารค่ะ พอดีฉันทำงานสองที่”
“ทำงานร้านอาหารหรอ”
ไดม่อนคิ้วขมวดขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้ทำงานแค่ที่ห้องสมุด
“ค่ะ”
“เดี๋ยวนะ ตอนนี้โรสไม่ได้เรียนต่อหรอ”
ไดม่อนเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย
“ไม่ค่ะ พอดีหลังเรียนจบมอหกยายป่วยพอดีแล้วต้องใช้เงินรักษาเยอะฉันเลยตัดสินใจยังไม่เรียนต่อแล้วหางานทำเพื่อเอาเงินมารักษายายค่ะ อ๊ะ! ทำอะไรของคุณมากอดฉันทำไม ที่นี่ในห้องสะ…”
“ม่อนขอโทษ”