แม้ว่านานๆ ครั้งเจ้าของบ้านเขาจะมานอนค้างที่บ้านของตัวเองสักครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะโผล่มาตอนไหน ถ้าเกิดนักร้องหนุ่มโผล่มาในตอนที่หลานสาวจอมดื้อของนางกำลังเอาเจ้าหมาน้อยสองตัวนั่งจู๋จี๋กันอยู่จะทำยังไง
“เฮ้อ!” หญิงชราถอนหายใจยาวออกมาพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมาอีกครั้งอย่างระอาใจในพฤติกรรมแสนซนของลูกแพร แต่พอสายตาที่ผ่านโลกมานานมองเห็นรถยุโรปคันงามแล่นมาจอดที่หน้าบ้านหลังตรงข้าม แม่บ้านชราก็รู้สึกใจคอไม่ดี อดเป็นห่วงหลานสาวของตัวเองไม่ได้
“ตายแล้ว! คุณโจกลับมาแล้ว คราวนี้ยัยแพรซวยแน่ๆ เลย หาเรื่องใส่ตัวแล้วมั้ยล่ะที่นี้ แล้วนี่ป้าจะช่วยแกได้ยังไงล่ะเนี่ย โธ่เอ๊ย...เตือนแล้วก็ไม่ยอมฟัง
“ยัยแพรนะยัยแพร!” ป้านิ่มมองตามร่างสูงใหญ่ที่กำลังขับรถคันหรูเข้าไปบ้านหลังงามตรงข้ามด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
โจนาธาน นักร้องซูเปอร์สตาร์ลูกครึ่งไทยอิสราเอล ครอบครัวของเขาประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกอัญมณีรายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้กิจการการค้าอัญมณีของ โจน่าเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด กำลังได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่งในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายมั่นคนดูแลสวนวิ่งออกมาเปิดประตูรถให้กับเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ทำให้นักร้องหนุ่มจ้องมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่านายมั่น ทำไมทำหน้าเหมือนกับมีอะไรปิดบังผมอยู่”
“ปละ...ปละเปล่านะครับ ไม่มี้...ไม่มีจริงๆ ครับ” นายมั่นรีบปฏิเสธเสียงสูงพลางสั่นหัวไปมาเหมือนมีพิรุธ ทำให้โจนาธานยิ่งสงสัย
“ไม่มีแน่นะ” เจ้าของบ้านหนุ่มถามเสียงเข้มอย่างจับผิด นายมั่นดูสั่นๆ ลุกลี้ลุกลน ก้มหน้าหลบสายตาจับผิดนั้นอย่างร้อนตัว
ที่จริงมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของแกนี่หว่า ที่จะต้องมาปกปิดเรื่องของสาวน้อยบ้านหลังตรงข้ามนั้น แต่เขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดีที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาในบ้านก่อนที่เจ้าของเขาจะอนุญาต
แล้วมันเป็นความผิดของเขาเหรอเนี่ย ที่ไม่ทันห้ามปรามลูกแพรไม่ให้เข้าไปข้างใน เหตุเพราะเจ้าหมาน้อยสองตัวนั่นแท้ๆ นายมั่นเกาหัวแกรกๆ มองเจ้านายอย่างกล้าๆ กลัวๆ กลัวว่าเจ้านายหนุ่มจะดุเอาถ้าเขาบอกความจริงออกไป
“คือว่าเอ่อ...คือ...”
“ถ้าตอบยากตอบเย็นนักก็ไม่ต้องตอบ เดี๋ยวผมก็รู้เองแหละว่าเกิดอะไรขึ้น” โจนาธานกล่าวเสียงห้วนมองนายมั่นอย่างรำคาญ ที่พูดติดอ่างละล่ำละลักอยู่ได้ไม่ยอมตอบให้รู้เรื่องสักที
“คุณโจครับคุณโจ! โธ่...ไม่ทันเสียแล้ว”
กว่านายมั่นจะคิดได้ ร่างสูงใหญ่ก็เดินตัวปลิวเข้าไปในบ้านโดยไม่คิดที่จะฟังนายมั่นพูดอะไรอีก วันนี้เขาอยากพักผ่อนให้เต็มที่สักวัน เพราะพรุ่งนี้เขาต้องเข้าห้องอัดเสียงแต่เช้าเพื่อทำเทปชุดใหม่ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้
เมื่อก้าวยาวๆ เดินผ่านห้องรับแขกเข้าไปข้างใน และเดินวนขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของบ้าน ชายหนุ่มรู้สึกว่าวันนี้บ้านมันเงียบแปลกๆ ยังไงชอบกล แต่เขาก็ไม่อยากคิดอะไรมาก มือเรียวกำลูกบิดบิดไปทางขวามือก่อนที่จะดันประตูเข้าไปในห้องนอน
เสียงเปิดและปิดประตูตามมาทำให้คนที่แอบอยู่ในห้องน้ำค่อยๆ แง้มบานประตูออกมาดู เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของเหมียวสาวใช้ที่สนิทกับเธอเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน
เพราะวันนี้เจ้าหมาน้อยนีโม่ของเธอน่ะสิ แอบเข้ามาในห้องนอนของเจ้าของบ้านเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สงสัยมันจะวิ่งเข้ามาตอนที่ป้าผ่องแม่บ้านวัยค่อนคนกำลังเข้ามาทำความสะอาดในห้องนี้แน่ แต่ป้าผ่องแกคงไม่ทันเห็นว่าเจ้านีโม่มันแอบเข้าไปในห้องน้ำ
ลูกแพรจึงต้องตามหาหมาน้อยไปทั่วทุกห้องที่คิดว่าเจ้านีโม่มันจะเข้าไปได้ แล้วห้องสุดท้ายที่สาวน้อยคาดไม่ถึงว่าสุนัขจอมซนของเธอจะกล้าเข้าไปก็คือห้องนอนของนักร้องหนุ่มนั่นเอง
ตอนแรกเธอก็ไม่กล้าเข้ามาหรอก แต่เพราะเห็นว่าประตูห้องไม่ได้ล็อกและ ป้าผ่องแกก็ไม่อยู่ หล่อนจึงขอแรงเหมียวให้เข้ามาหาหมาน้อยด้วยกัน แล้วทั้งสองก็เจอมันอยู่ในห้องนี้จริงๆ
เจ้านีโม่มันกำลังตั้งหน้าตั้งตาเบ่งอึในห้องน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองต่างเบิ่งตาโตมองมันด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่ามันจะไฮโซมากถึงขนาดมาอึในห้องน้ำสุดหรูของเจ้าของบ้านเขาแบบนี้ และคนที่ตกใจมากสุดก็คือลูกแพร
ด้วยความเกรงใจสาวใช้เพื่อนซี้ ลูกแพรจึงขอทำความสะอาดทุกอย่างเองเพราะเป็นหมาของตัวเอง แต่พอทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จร่างบางก็เปียกปอนไปหมด จนเธอต้องขอร้องให้เหมียวหาชุดมาเปลี่ยนให้ แต่เหมียวออกไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับเข้ามาสักที
สาวน้อยตกใจแทบช็อก เมื่อคนที่เธอเห็นไม่ใช่เหมียว แต่กลับเป็นเขาที่เข้ามา โอ้มายก๊อด! เธอจะทำยังไงดีเนี่ย จะออกไปตอนนี้ก็ไม่ได้ด้วยสิ
‘เหมียวนะเหมียว ทำไมไปช้าแบบนี้นะ เป็นเพราะแกตัวเดียวนีโม่ แกกำลังจะทำให้ฉันซวยแล้วรู้มั้ย’ ลูกแพรเฝ้าแต่โทษคนอื่นและยังแอบโทษว่าเป็นความผิดของหมาน้อยอีกต่างหาก
คนตัวเล็กที่แอบอยู่ในห้องน้ำรีบกดล็อกประตูจากข้างใน เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเข้ามา แต่ทว่าเสียงกดล็อกดังกริ๊กจากในห้องน้ำ ทำให้ร่างกำยำเกือบเปลือยที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำและกำลังจะบิดลูกบิดประตูห้องน้ำเข้าไปต้องชะงัก และยืนฉงนอยู่กับที่
ร่างสูงยืนนิ่งคิดครู่ใหญ่ ‘ใครอยู่ในห้องน้ำ คงไม่ใช่แม่บ้านหรือสาวใช้แน่นอน เงียบแบบนี้ มันต้องเป็นขโมยแน่ๆ!’ เขาได้ยินข่าวในโทรทัศน์บ่อยๆ ว่าโจรมันชอบขึ้นปล้นตามบ้านดารานักร้องบ่อยๆ ไม่ได้การแล้ว
เพื่อความไม่ประมาท เขาต้องล็อกประตูห้องนอนให้แน่นหนากันขโมยหนีออกไปได้ เขาเดินไปตรงลิ้นชัก ดึงมันออกมาแล้วหยิบปืนขนาดพกพาขึ้นมาเตรียมป้องกันตัว แล้วเดินไปยังหน้าห้องน้ำ
“ใครอยู่ในห้องน้ำ ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“........” เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับ มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูก็เห็นมามันล็อกอยู่ จึงเคาะประตูแรงๆ
ปังๆ !!
“ฉันถามว่าใครอยู่ในห้องน้ำ! ถ้าไม่ออกมาฉันจะยิงทะลุไส้แตกแน่!”
เสียงตวาดดังๆ หน้าห้องน้ำพร้อมทั้งคำขู่ของเขา ทำให้สาวน้อยแทบฉี่ราด ร่างเล็กที่เปียกปอนกำลังสั่นงกๆ อยู่หน้าห้องน้ำด้วยความตื่นกลัว กลัวไปสารพัดจนบรรยายไม่ถูกแล้วว่ากลัวอะไรบ้าง
‘ตาย...แกตายแน่ๆ ยัยลูกแพรเอ๊ย ทำไมวันนี้มันซวยแบบนี้วะเนี่ย’ ร่างบางกุมมือตัวเองเอาไว้แน่น ก่อนที่จะยื่นมือที่สั่นระริกไปจับลูกบิดประตูและค่อยๆ หมุนมันออกไปทางขวามือช้าๆ จนต้องกลั้นหายใจ