//พลอยฝัน//
วันนี้ก็เฉกเช่นเดิมความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ลูกค้าที่มากมายต่างเข้ามาทานอาหารที่ร้านที่ฉันทำงานอยู่ ฉันรู้สึกหนักอึ้งไปหัว เหมือนจะไม่สบาย
“พี่น้ำคะ” ฉันเดินไปหยุดด้านหลังพี่น้ำที่กำลังคุยงานต้องแคชเชียร์
“ว่าไงพลอยฝัน”
“คือหนูรู้สึกเหมือนจะไม่สบายค่ะ หนาวๆ สั่นๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“อ้าว แล้วก็ยังฝืนมาทำงานเนี่ยะนะ”
“ก็คิดว่าทำไหวนี่คะ”
“งั้นกลับไปพักไป แล้วกลับไหวไหม” พี่น้ำย้อนถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ไหวค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” พูดจบเราก็เดินไปเอากระเป๋าและสัมภาระของเราที่อยู่ห้องพักเบรกของพนักงาน “เห้อ เหนื่อยกว่านี้มีอีกไหม” เราบ่นคนเดียวอย่างเนือยๆ
เมื่อหยิบสิ่งของเรียบร้อยฉันก็เดินออกจากร้านเพื่อที่จะไปขึ้นรถ เดินเรียบมาตามฟุตบาทที่มีแสงแดดจ้าจนแสบตา เม็ดเหงื่อเล็กๆ เริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าพร้อมทั้งสายตาที่พร่ามัวทำให้ฉันมองทางไม่ค่อยชัด ฉันหยุดเดินสักพักแล้วหลับตานิ่งเพื่อปรับสายตาใหม่แล้วลืมตาขึ้น แต่เหมือนเปลือกตามันหนักอึ้ง แดดร้อนจัดแต่ทำไมในร่างกายถึงรู้สึกหนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก ภาพที่มองตรงหน้ามันเริ่มเบลอไปหมดพร้อมทั้งร่างกายของฉันที่มันอ่อนแรงที่จะยืนทรงตัวให้อยู่นิ่งจนในที่สุดทุกอย่างมืดดับ ตุบ!
-คุณ!- เสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่ฉันจะไม่รู้สึกอะไรเลย
สู้ดๆ ฟุ๊ดๆ กลิ่นอาหารที่มันลอยโชยมากระทบกับจมูกของฉัน แม่คงทำกับข้าวสินะ เราพยายามลืมตาขึ้นเพ่งมองกับบริเวณโดยรอบที่ฉันไม่คุ้นเคยเลยสักนิด
“ ที่นี่ที่ไหน” ฉันลุกนั่งหลังพิงหัวเตียงแล้วเอ่ยขึ้น “ มาอยู่นี่ได้ยังไง “ ฉันใช้อุ้มมือเล็กๆ ทุบขมับเบาๆ เพื่อบรรเทาความมึนหัว แล้วก้มมองสำรวจตัวเอง
แกร๊ก! แอร็ด ฉันเงยหน้ามองไปยังประตูแล้วต้องตกใจกับคนที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดในมือและรอยยิ้มแสนหวาน
“ ดีขึ้นแล้วหรอ “ เขาถามฉัน
“ ดีขึ้นแล้ว ว่าแต่คุณเป็นใคร “
“ ผมเห็นคุณท่าทางไม่ดีตรงป้ายรถเมย์ คุณเป็นลมหน่ะและมีไข้ด้วย ผมไม่รู้จะพาไปไหนเลยมาที่บ้านและอีกอย่างมันใกล้” เขาชี้แจงเหตุผลให้ฉันฟัง
“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้ว”
“คุณกินข้าวก่อนสิ จะได้กินยา แล้วค่อยกลับ” เขาก็ดูไม่มีพิษภัยอะไรนะในความรู้สึกของฉันแต่ฉันจะไว้ใจใครง่ายๆ ไม่ได้ อันตรายมีรอบตัว
“ เอ่อ............”
“ผมไม่มีความคิดชั่วร้ายกับคุณแน่ๆ ผมรับรอง”
“ ฉันเกรงใจ “ พูดจบฉันก็ลงจากเตียงนอนของเขา
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมเต็มใจช่วยคุณจริงๆ ผมชื่อโฟร์ค”
“ พลอยฝันค่ะ “ ฉันแนะนำตัวเองอย่างเป็นมิตร “ ก็ได้ แต่ฉันว่าคุณน่าจะเป็นพี่นะ”
“ ผมอายุ 26 พลอยฝันหล่ะ”
“ 20 ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักและก็ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วย” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มอ่อน
โฟร์คเป็นคนดูนิ่งๆ แต่เวลายิ้มแล้วดูมีเสน่ห์มาก เป็นคนสูง ผิวออกเข้ม รูปร่างดี เหมือนคนใส่ใจดูแลสุขภาพ ภายนอกที่ฉันสัมผัสตอนนี้เขาดูเป็นคนดีคนหนึ่ง (มั้ง)
“ งั้นกินข้าวกัน “ โฟร์คเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“ ค่ะ งั้นขอเรียกพี่โฟร์คแล้วกันนะคะ”
“ยินดีเลย”
แล้วเราก็เดินออกจากห้องนอนเขาถือถาดข้าวลงมาแล้วเราก็เดินบันไดลงมาข้างล่าง ภายในบ้านที่แสนจะเงียบเชียบ - อยู่คนเดียวงั้นหรอ – ฉันเกิดคำถามในใจ
“พี่โฟร์คอยู่บ้านคนเดียวหรอคะ”
“ ครับ “
“ ไม่เหงาหรอคะ “ ฉันเอ่ยถามพร้อมเดินตามหลังเขาไปยังห้องครัวที่มีโต๊ะกินข้าวพร้อมกับข้าววางอยู่
“ เหงา “ เขาพูดเสียงเศร้าๆ “ แต่ตอนนี้ชินแล้วหล่ะ” แล้วรอยยิ้มบางก็ผุดขึ้นอีกครั้ง เว้นแต่แววตาที่เศร้าสร้อยเท่านั้นที่มันบ่งบอกว่าเขากำลังพยายามกับอะไรสักอย่าง
“ ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะคะ และก็อาหารอร่อยมาก “ ฉันเอ่ยจากใจอีกครั้งตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้านเพราะหายไปทั้งคืนตั้งแต่ลางานตอนบ่าย โดยไม่ได้บอกแม่ด้วยซ้ำ แม่คงเป็นห่วงแย่
“ ยินดีครับ น้องสาวคนใหม่ “ เขาพูดพร้อมวางมือบนหัวฉัน
“ หืม...น้องสาวหรอคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่นกับมือนี้นักนะ
“ มาเป็นน้องสาวของพี่นะครับ พลอยฝัน”
“ พี่โฟร์ค”
“ พี่อยากมีน้องสาว”
เอิ่ม เอ่อ...................เอายังไงดีหล่ะ