(( ก๊อก ก๊อก ก๊อก ))
เสียงที่มีคนกำลังเคาะประตูทำให้ฉันต้องรีบไปเปิดประตู
“ อ่าป้าเพ็ญนี่เอง...มีอะไรหรือเปล่าคะ “
“ คุณวายุรอทานมื้อเย็นแล้วค่ะ”
“ อ๋อ...เดี๋ยวหนูลงไปนะคะ ขอแต่งตัวก่อน “
แล้วป้าเพ็ญก็ยิ้มแล้วเดินลงไปข้าง ฉันรีบกลับเข้ามาในห้องแล้วจัดการใส่เสื้อผ้าที่มีรอรองรับแล้วในตู้ แต่เอ๊ะ! “ทำไมพอดีตัวเราเลย” ก็ได้แต่สงสัยเท่านั้น แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบจัดการตัวเองแล้วรีบลงไปเพราะเขานั้นรออยู่
“ ช้า....” ทันทีที่ฉันเดินมาถึงเขาก็เอ่ยขึ้น จนฉันต้องก้มหน้าหุบต่ำลง
“ หนูขอโทษค่ะ “ ฉันกลัวเขาที่มีน้ำเสียงแบบนี้มันดูเกรี้ยวกราดหรือว่าเขายังโกรธที่ฉันไปยุ่มย่ามพื้นที่ต้องห้ามของเขา
“ รีบทานซะ...” เราทั้งคู่ทานมื้อเย็นด้วยความเงียบขรึม “อยากเรียนหนังสือหรือเปล่า”
“ อะไรนะคะ...แต่หนูไม่มีเงินเรียนหรอกค่ะ” ฉันก้มหน้าเศร้าเมื่อสิ่งที่เป็นทุนให้เรียนนั้นมันไม่มี
“ ฉันถามว่าอยากเรียนหรือเปล่า...ตอบแค่นั้นพอ” เสียงขรึมหน้านิ่งอีกแล้ว
“อยากค่ะ”
“ อืม...ฉันจะส่งเธอเรียนพรุ่งนี้ก็ไปสมัครฉันจะให้คนขับรถพาไป”
“จริงนะคะ....ไม่ได้หลอกหนูใช่ไหม” ฉันหน้าระรื่นดีใจขยับไปประชิดและจับแขนของเขาอย่างลืมตัว
“ฉันไม่เคยพูดเล่น” เขาพูดด้วยเสียงนิ่งและรีบชักมือกลับ
“ขอโทษค่ะ...หนูดีใจจนลืมตัว” ฉันกลับมานั่งที่เดิมพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมล้น
“อืม....” เขาตอบแค่นั้นและก้มหน้ากินข้าวต่อ
“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ หนูจะทำงานในบ้านทดแทนให้นะคะ ?”
“รีบกินซะ...ฉันเริ่มรำคาญเสียงเธอแล้ว” เขาพูดแต่ไม่ได้มองหน้าฉัน ทำไมคำพูดตอนที่อยู่วัดมันช่างแตกต่างกับตอนนี้จัง
เช้าวันใหม่ เด็กสาวแรกแย้มเดินลงบันไดจากชั้นบนด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข ความดีใจ ด้วยความที่เธอนั้นจะได้ไปสมัครเรียนอย่างที่เคยวาดฝันไว้ซึ่งมันกำลังจะเป็นความจริง
“ รีบไปรีบกลับด้วยหล่ะ “ เสียงอันทรงพลังดังขึ้นจนเธอนั้นต้องชงักเท้าหยุดพร้อมเอี้ยวตัวหันหลังกลับไปยังต้นเสียง
“ค่ะ หนูจะรีบกลับ ไม่เถลไถลค่ะ” ฉันพูดแล้วส่งยิ้มบางตอบกลับเขาไป
“ อืม “ เขาตอบกลับเพียงแค่นั้นแต่มันทำให้เขานั้นรู้สึกดีกับคำตอบ แล้วยกกาแฟขึ้นจิบพร้อมกับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์
ฉันรีบเดินไปยังหน้าบ้านที่มีรถมารอรับแล้ว
การสมัครเรียนเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยรอแค่การเปิดภาคเรียนเท่านั้นฉันรีบนั่งรถกลับบ้านทันที ฉันเลือกเรียนการบัญชีเพราะคิดว่าน่าจะหางานทำได้ง่ายที่สุดในความคิดฉัน
-บ้านหลังสวน-
//วายุ//
“เป็นไงบ้างล่ะ...หึ” วายุที่ผู้คนขนานนามเขาว่า ซาตานหน้าหล่อ ย่างเท้าเข้ามาในบ้านที่เขานั้นหวงแหนที่สุดยังไม่เคยมีใครได้ก้าวเท้าเข้ามาในนี้นอกจาก ‘ลลิน’ อดีตหญิงสาวอันเป็นที่รักสุดหัวใจเท่านั้น แต่บัดนี้มันแปรเปลี่ยนไปแล้ว เขาเกลียดชังผู้หญิงคนนี้เป็นที่สุด เธอถูกกักขังบริเวณภายในหลังนี้มานานเกือบปีอย่างทุกข์ทน
“เมื่อไหร่ที่คุณจะปล่อยฉันเป็นอิสระจากขุมนรกบ้าๆ นี้ซักที วายุ!”
“เมื่อไหร่ที่เธอหมดลมหายใจ” เขาเดินไปนั่งเก้าอี้พร้อมเอ่ยออกไปนิ่งๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน หญิงสาวจากที่เคยรูปร่างตอนนี้ผอมแห้งลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
“คุณมันใจร้าย...วายุ อึก ฮึก “
“เพราะใคร! ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เธอหรอ ลลิน ห๊ะ!” เขาตะคอกลลินเสียงดังจนเธอนั้นสะดุ้งกลัว เขาลุกจากเก้าอี้สับขาเดินเข้ามาหาเธอ
“ฮึก อึก.....ออกไปนะ อย่าเข้ามา ว้าย!!” ร่างกายบางที่สั่นกลัวคนตรงหน้า
พรึ่บ เขากระชากแขนของเธอเข้ากระแทกกับอกแกร่ง น้ำตาแห่งความเจ็บปวดและทุกข์ระทมไหลอาบสองแก้มหากเป็นเมื่อก่อนเขาคงจูบซับมันด้วยความรักใคร่
“หึ เธอมันก็แค่ผู้หญิงหลอกหลวง”
“ปล่อย....ว้าย!!!”
ตุบ! เขาผลักร่างบางด้วยความแรงไร้ความปราณีไม่ได้คำนึงว่าเธอนั้นจะเจ็บหรือเปล่า จนเธอนั้นล้มกับที่นอนนุ่มจนร่างเด้งสวนขึ้น...อุ๊บ อื้อ เธอเบิกตากว้างเมื่อเขาบดปากจูบเธออย่างรุนแรง น้ำตาไหลลงทางหางตา ความเจ็บช้ำที่เขานั้นย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ปล่อยฉัน..........ฮือๆ” เธอพูดเปรยมีหรือที่ร่างหนานั้นจะฟัง เขายังคงย่ำยีเธอจนเขานั้นพอใจ ความโหดร้ายที่เขานั้นมอบให้เธอ ลลิน มันรุนแรงและป่าเถื่อน เขาฉีกเสื้อผ้าขอเธอจนขาดวิ่นการเสียดสีของผ้าทำให้ผิวขาวๆ ของเธอนั้นเกิดรอยแดงเป็นแถบ “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด...ฮือๆ ฉันเจ็บ!”