ตอนที่ 1

1194 Words
บทที่ 1 เกือบหกโมงเช้าของอีกวัน แต่วาหรือแวววิวาห์ สาวน้อยวัยยี่สิบเจ็ด จริงๆ แล้วก็ไม่น้อยหรอก ไอ้ที่น้อยน่าจะเป็นความสาวของเธอมากกว่าที่มันเหลือน้องลงทุกปี และนี่แหละคือสาเหตุของเรื่องวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอตื่นขึ้นมาในที่ที่ไม่คุ้นตา อีกทั้งยังรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัว เธอมองไปรอบๆ ห้องด้วยความรู้สึกหลากหลาย ใช่! เธอเต็มใจมาที่นี่ เรียกว่าเต็มใจมาพลีกายให้เจ้าของห้องโดยเฉพาะเลยแหละ จะเรียกว่าพลีกายก็คงไม่ถูกนัก เรียกว่าแล้วแต่สถานการณ์จะพาไปน่าจะเหมาะกว่า “นี่เรากับคุณภากร…” เธอครางเบาๆ พลางเปิดผ้าห่มเพื่อจะพบกับเนื้อตัวเปลือยเปล่าภายใต้ผ้านวมผืนหนา ครั้นพอหันไปเห็นเสื้อผ้าตัวเองที่วางเกลื่อนพื้นก็รีบดึงผ้านวมขึ้นมาปิดหน้าด้วยความกระดากอีก “พระเจ้า! เรากับเขามีอะไรกัน เรากับคุณภากรมีอะไรกัน” จากสภาพร่างกาย อีกทั้งความรู้สึกที่ร้าวระบมไปหมดทั้งตัว ทำให้เธอคิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากเธอเพิ่งเสียตัวให้กับผู้ชายที่ตัวเองหมายตา “แล้วเขาจะมองว่าเราเป็นผู้หญิงแบบไหน เฮ้ย! แต่เขาก็น่าจะสนใจเราบ้างแหละ ไม่งั้นจะยอมมีอะไรกับเราได้ยังไง” เธอคิดสะระตะไปไกล แต่จริงๆ น่าจะเรียกว่าคิดเองเออเองมากกว่า “แล้วนี่เขาหายไปไหน” พลันคำถามนี้ก็ได้คำตอบเป็นเสียงน้ำกระทบพื้นจากในห้องน้ำ เธอเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังอาบน้ำ “แล้วถ้าเขาออกมา ฉันต้องทำหน้ายังไง ไม่ๆๆ ฉันยังไม่พร้อมเจอเขาตอนนี้” ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวลุกขึ้น เก็บเสื้อผ้าที่ตกอยู่ตามพื้นขึ้นมาสวม ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเผ่นแน่บออกไปโดยไม่คิดจะร่ำลาเจ้าของห้องสักคำ กระทั่งเจ้าของห้องออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอหญิงสาวที่ตนนอนกอดมาทั้งคืน ให้ตายสิ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วยังโมโหไม่หาย นอกจากเธอจะยึดครองเตียงเขาแล้ว เธอยังทำให้เขาเผลอนอนกอดเธอทั้งคืนเลยด้วย ก่อนหน้านี้เคยมีสักครั้งไหมที่เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงมานอนค้างอ้างแรมด้วย ปกติเสร็จกิจก็แทบจะไล่ตะเพิดแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ เธอกำลังทำให้กฎที่เขาตั้งไว้ต้องสั่นคลอน และกำลังทำให้เขาโมโหมากๆ ด้วย “บัดซบ!” เขาสบถแรงๆ หลังพบว่าในห้องมีแต่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งเงาคนที่ควรจะเจอ ภาคิน จงวิสุทธิ์รังสรรค์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมากความสามารถ ความเก่งของเขามีมากพอๆ กับความหน้าตาดี ที่สาวๆ เห็นแล้วต่างดาหน้ากันเข้ามาทอดสะพานให้ แต่เพราะเขายังไม่คิดสานต่อและจริงจังกับใคร อีกทั้งหน้าดุๆ กับเสียงเข้มๆ ของเขาก็ทำให้สาวๆ พวกนั้นพากันล่าถอยกลับไปในที่สุด ไม่ใช่เพราะขาดแคลนผู้หญิง แต่เพราะยังไม่อยากให้ใครมาผูกมัด ซื้อกินจึงเป็นวิธีที่สะดวกและวุ่นวายน้อยที่สุด เขาก็ผู้ชายทั้งแท่ง มันก็ต้องมีอารมณ์อยากปลดปล่อยกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ให้ตายเถอะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงที่เขาเพิ่งนอนด้วยไม่ใช้สาวไซด์ไลน์อย่างที่ผ่านๆ มา แต่เป็นยัยขี้เมาที่พลัดหลงมาจากไหนไม่รู้ ชายหนุ่มเดินมาทิ้งสะโพกลงบนที่นอนที่ตอนนี้ว่างเปล่า อดคิดไม่ได้ว่ามันก็ดีเหมือนกันที่เธอไปซะได้ เรื่องวุ่นวายที่กลัวจะได้ไม่เกิดขึ้น แต่อีกใจก็กำลังหงุดหงิดงุ่นง่านเต็มกำลัง ที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่แยแส ทั้งๆ ที่เขาคือภาคิน หนุ่มฮอตแห่งปีที่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็ฝันจะได้ร่วมเตียงด้วย แต่เธอกลับหนีหายไม่มีแม้แต่ข้อความร่ำลา “อย่างน้อยก็ควรบอกสิวะว่าจะเอายังไง” นั่นสินะ ถ้าเพียงแต่เธอจะเรียกร้องหรือโวยวาย เขาคงไม่รู้สึกหัวเสียขนาดนี้ แบบนี้มันหักหน้ากันชัดๆ หรือว่าลีลาเขาไม่เด็ดจนเธอเข็ดขยาดไม่อยากสานสัมพันธ์ต่อ ให้ตายสิ! ยิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์เสีย จะมีสักครั้งไหมที่เขาจะต้องเป็นบ้าเป็นหลังเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว “โธ่เว้ย!” ความหงุดหงิดงุ่นง่านของเขามีเพิ่มมากขึ้น เมื่อไม่รู้ว่าจะเจอหรือติดต่อเธอได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเธอด้วยซ้ำ ทันใดนั้นเองทุกอย่างก็ไม่ได้มืดแปดด้านอย่างที่เขาเข้าใจ “แกร๊ก!” ทันทีที่เขาลุกขึ้นด้วยความโมโห เท้าเขาก็เหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างจนต้องก้มลงมอง “หึๆ” ชายหนุ่มหยักยิ้มร้ายกาจ หลังหยิบป้ายชื่อที่ตัวเองเหยียบขึ้นมาดู แน่นอนว่าเขาจำได้ดีเชียวแหละว่าผู้หญิงที่อยู่ในรูปเป็นเธอไม่ผิดเพี้ยนแน่ แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือชื่อบริษัทที่โชว์หราอยู่ มันดันเป็นชื่อบริษัทเขา “แวววิวาห์ เกื้อสกุล พนักงานฝ่ายการตลาด หึๆ เธอหนีฉันไม่พ้นแน่” เขาอ่านชื่อเธออย่างอารณ์ดี ผิดกับตอนก่อนหน้าลิบลับ “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะมาไม้ไหน” นัยน์ตาเขาหมายมาดขณะมองรูปเธอที่อยู่ในมือ การได้รู้ว่าเธอต้องมาอยู่ใต้อาณัติ มันทำให้ความคิดบางอย่างของเขาพลุ่งพล่านไปหมด จนต้องรีบลุกไปแต่งตัวเพื่อเข้าบริษัทแต่เช้า ตัดมาที่นางสาวแวววิวาห์ เกื้อสกุล หลังจากกลับมาถึงห้องเธอก็อาบน้ำอาบท่าอย่างอารมณ์ดี เพราะในที่สุดทุกอย่างก็ลงตัวตามที่เธอหวัง เหลือก็แค่ทำให้ทุกอย่างถูกต้องหลังจากนี้ “ใช่! เหลือก็แค่พาเขาไปหาแม่กับยาย ให้มันรู้ไปสิว่ารูปหล่อโปรไฟล์ดีขนาดนี้ แม่กับยายยังจะปฏิเสธได้ลงคอ ทีนี้แม่กับยายจะได้เลิกบังคับให้เราแต่งงานกับคนอื่นสักที” นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องจำใจทำเรื่องน่าอาย เพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่แม่กับยายหาไว้ให้ “นี่เราควรจะเป็นฝ่ายเดินไปหาเขา หรือรอให้เขาเป็นฝ่ายเดินมาหาเราเอง แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายไปหาเขา มันก็จะดูไม่งามน่ะสิ (มันไม่งามตั้งแต่เมื่อคืนที่เธอเร่ไปหาเขาถึงห้องแล้ว) โอ๊ย! แล้วฉันจะทำหน้ายังไงถ้าต้องเจอเขา บ้าบอ! เขินไปหมดแล้วเนี่ย” เธอจับแก้มสองข้าอย่างเขินอาย ขณะกำลังหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทันใดนั้นเองเหมือนเธอจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD