“น้ำค้างไม่คู่ควรกับคุณเหมันต์หรอกค่ะ” เธอบอกจากใจจริง เนื่องจากทั้งฐานะทางสังคม และทรัพย์สิน การศึกษา ไม่มีส่วนไหนที่เทียบเทียมเขาได้เลยสักข้อ และเธอเองก็ไม่อยากเจ็บช้ำในเรื่องนี้ด้วย
“อะไรที่น้ำค้างใช้ตัดสินล่ะครับว่าน้ำค้างคู่ควรกับผมหรือไม่ การศึกษา ฐานะทั้งการเงินและทางสังคม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินนะครับ หัวใจต่างหากที่เป็นเครื่องตัดสินทุกอย่าง เหมือนตอนนี้หัวใจของผมมันบอกว่าน้ำค้างคือคนที่ใช่” เหมันต์พูดเองอยากจะอาเจียนเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาจีบผู้หญิงแบบนี้ จริงอยู่เขาพอใจในตัวของหยาดน้ำค้างในระดับหนึ่ง แต่พอรู้ว่าเธอคือเจ้าของที่ดินที่เขาต้องการ และคำเจ็บที่ฝากมาถึงเขา ความพอใจของเขาเหือดหายลงสิ้น ต้องทำให้เธอรู้ว่าอย่าได้มาผยองกับคนอย่างเขา
“เอ่อ.” หยาดน้ำค้างพูดไม่ออก
“น้ำค้างยังไม่ต้องให้คำตอบกับผมตอนนี้ก็ได้ครับ ผมจะทำให้น้ำค้างเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น ถ้าคุณให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง” เจอคำนี้เข้าไปหยาดน้ำค้างจะปฏิเสธต่อไปก็คงไม่ได้ เธอควรจะปิดกั้นหัวใจของตัวเองเหมือนที่ผ่านมา หรือว่าเปิดรับเขาเข้ามาในหัวใจดี นั่นเป็นสิ่งที่หยาดน้ำค้างกำลังขัดแย้งในใจ
การรับประทานอาหารเสร็จสิ้นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากนั้นชายหนุ่มได้พาเธอไปส่งที่บ้าน และอ้อยอิ่งคุยกันที่หน้าบ้านนานนับสิบนาที ก่อนที่ชายหนุ่มจะเห็นว่าวันนี้เขารุกเธอมามากพอแล้ว จึงขอตัวกลับบ้าน แต่ไม่วายทิ้งคำพูดให้สาวน้อยใจเต้นรัว
“พรุ่งนี้ผมจะมารับไปทำงานนะครับ รอผมนะครับ” หยาดน้ำค้างมองรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกไป หัวใจของเธอวันนี้ช่างกระไรนัก เต้นเร็วผิดจังหวะทั้งวัน เมื่อเช้านี้หัวใจของเธอแทบจะกระดอนออกมาเมื่อเห็นหน้าเขาครั้งแรก พอตกเย็นมันทำท่าจะเป็นเหมือนเมื่อเช้าอีกครั้ง แต่ดูจะหนักกว่า เต้นถี่รัวเร็วสั่นไปหมด วาจาที่จีบเธอนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้กลอนประตูหัวใจที่ปิดตาย เปิดแง้มรับเหมันต์เข้ามาในหัวใจอย่างไม่รู้ตัว
เหมันต์ไม่ได้เดินทางกลับบ้านอย่างที่ใจคิด เนื่องจากโยธกาคู่ควงแสนร้อนแรงได้โทรศัพท์มานัดหมายให้ไปเจอกันที่ผับแห่งหนึ่ง เขาจึงเดินทางไปที่นั่น
“นึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว” โยธการีบเข้าไปออเซาะเหมันต์ทันทีที่เขาทรุดการลงนั่ง
“ผมเคยผิดนัดคุณเหรอ” เขาตอบยิ้มๆ ก้มใบหน้าลงหอมแก้มของเธออย่างเอาใจ โยธกาเป็นลูกสาวคนเดียวของนายพลถนอมและคุณหญิงรัตนา หุ้นส่วนทางการค้าของเขา ไม่แปลกที่จะเก็บเธอไว้ข้างกาย อย่างน้อยๆ เขาก็รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ที่คิดจะทำอะไรบางอย่าง
“ดื่มค่ะ” หญิงสาวส่งบรั่นดีรสเลิศให้ชายหนุ่ม ซึ่งเขากระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
“ผมได้ข่าวว่าพ่อกับแม่คุณไปเมืองนอกเหรอ”
“ใช่ค่ะคุณแม่บอกว่าจะไปติดต่อเรื่องงาน คุณถามทำไมคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละ อาทิตย์หน้าจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแปซิฟิกไลฟ์ พ่อแม่คุณจะต้องเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเป็นผู้ถือหุ้น ผมก็กลัวว่าพ่อกับแม่ของคุณจะมาไม่ทันก็เท่านั้นเอง” บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทในเครือของ เอพีพีกรุ๊ป
“มาทันแน่นอนค่ะ เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะกลับก่อนวันที่มีการประชุมหนึ่งวันค่ะ อย่าพูดเรื่องอื่นดีกว่าค่ะ เราอยู่ด้วยกันน่าจะคุยเรื่องของเรามากกว่า” หญิงสาววางแก้วบรั่นดีลงบนโต๊ะ ก่อนจะเลื่อนกายมานั่งบนตักของเขา โอบกอดลำคอแข็งแรงประกบเรียวปากที่ถูกเคลือบด้วยสีส้ม แนบสนิทกับเรียวปากหนาที่เปิดรับเรียวลิ้นของเธอ
“ไปที่คอนโดของโยดีกว่าค่ะโยคิดถึงคุณหนึ่งที่สุดเลย” เธอกระซิบบอกหลังจากที่ถอนเรียวปากออก ชายหนุ่มยิ้ม พยักหน้ารับคำเชื้อเชิญนั้นด้วยความเต็มใจ
สองร่างจึงเดินคลอเคลียกันออกไปจากผับหรู โดยมีทูนทำหน้าที่ขับรถยนต์ให้เจ้านายหนุ่มตามหน้าที่ ไม่นานรถยนต์ยี่ห้อดัง ได้เคลื่อนตัวมาถึงวิมานเสน่หาของทั้งสอง
โยธกาไม่เคยทำให้เหมันต์ผิดหวัง หลังจากที่ถึงห้องพักของหญิงสาวผู้ร้อนแรง พันธนาการที่ห่อหุ้มกายของเขาและเธอถูกถอดออกอย่างเร็วพลัน สืบเนื่องจากระหว่างทางที่มาที่นี่ทั้งสองได้เติมเชื้อไฟเข้าไปในร่างกายจนเดือดระอุ โยธการ้อนเหมือนไฟ โยกไหวร่างกายเหนือร่างหนา จังหวะและท่วงท่าของเธอนั้นเรียกเสียงครางให้กับเขาได้มากทีเดียว เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แต่สามารถทำให้เขาถึงฝั่งฝันได้
“โยช่วงนี้ผมอาจจะไม่ว่างนะ เราสองคนอาจจะต้องห่างกันสักหน่อย” เหมันต์เอ่ยบอกหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจพิศวาส หญิงสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียง หันมามองชายหนุ่มทันที
“คุณหนึ่งมีคนใหม่หรือคะ”
“เปล่าผมไม่มีใครหรอก ถึงจะมีก็ไม่เห็นแปลก ลืมไปแล้วเหรอว่าเราตกลงกันว่ายังไง” ชายหนุ่มพูดเสียงค่อนข้างเข้ม ขณะที่มือกำลังถอดเครื่องป้องกันออกจากความแข็งแกร่ง เขาไม่ชอบคำถามนี้เอาเสียเลย เขาจะมีใครหรือไม่มีไม่ใช่หน้าที่ที่โยธกาจะต้องรับรู้ หรือว่าหญิงสาวคงลืมข้อตกลงระหว่างเราไปแล้ว
โยธกาไม่มีวันลืมข้อตกลงที่เคยพูดไว้ก่อนที่จะคบหากัน รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่พันธะผูกพัน ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความพอใจของคนสองคนเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างจะมีใครก็ได้ และห้ามมาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของกันและกัน เหมันต์คงไม่รู้ว่าโยธกานั้นรักเขาจริงๆ รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน และจะไม่มีวันยอมให้ใครมาแย่งเขาไปด้วย
“โยไม่ลืมหรอกค่ะ โยพลั้งปากพูดออกไปอย่างนั้นเอง โยขอโทษนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นเดินลงมานั่งคุกเข่าตรงหน้าเขา โอบกอดร่างหนาและเอ่ยวาจาที่แสนหวาน เพื่อให้เขาคลายความขุ่นมัว