“ขอบใจมากนะที่เข้ามาช่วย ตอนเที่ยงกินข้าวพร้อมกันนะ”
“จ้ะ” สองสาวต่างแยกไปทำงานของตัวเอง เหลือเวลาอีกสี่สิบนาทีเท่านั้น ว่าที่หุ้นส่วนคนใหม่ก็จะเดินทางมาถึง อีกสามสิบนาทีต่อมาทุกอย่างจึงเรียบร้อย
รถเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าสปอร์ตคลับตรงเวลา ร่างสูงใหญ่ของบุรุษงามสง่าก้าวเดินลงมาจากรถ สะกดสายตาของพนักงานทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายให้หยุดมองมาที่เขา ความหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีกโบราณ ร่างกายที่สูงใหญ่ตามแบบฉบับของนักรบโรมัน ดวงตาที่คมกริบสีดำสนิทชวนหลงใหล ริมฝีปากหนาได้รูปสวยแย้มยิ้มเล็กน้อยชวนฝันยิ่งนัก
“ยินดีต้อนรับสู่ทรีสปอร์ตคลับค่ะ” น้ำเสียงอันไพเราะของหยาดน้ำค้างเอ่ยบอก พร้อมกับช่อดอกไม้ช่อโตที่ถูกยื่นให้กับเหมันต์ บุรุษผู้มาเยือน ชายหนุ่มมองสตรีตรงหน้าอย่างตะลึงในความสวยใส รอยยิ้มที่สวยงามแจ่มชัดบนใบหน้า ถ้อยคำที่เพราะพริ้ง รูปร่างที่บอบบางอรชร ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม ยิ่งเพ่งพิศยิ่งชวนมองมากนัก
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือมารับช่อดอกไม้ มือหนาสัมผัสกับหลังมือบางอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลวนเข้าไปในร่างกายของทั้งสองโดยไม่ทันตั้งตัว หยาดน้ำค้างรีบชักมือกลับทันควัน หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่ากลองชุดใหญ่ เดินถอยหลังไปยืนที่เดิม
“คุณเหมันต์ครับ ผมจะพาคุณเดินชมตามชั้นต่างๆ ของสปอร์ตคลับนะครับ” สันติพูดขึ้นหลังจากที่พา ชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในสปอร์ตคลับ พนักงานทุกคนจึงกลับไปทำตามหน้าที่ของตน
“ผมอยากให้ผู้หญิงที่มอบช่อดอกไม้ให้ผมเมื่อสักครู่ เป็นคนพาผมเดินชมสปอร์ตคลับแห่งนี้ดีกว่าครับ ผมจะได้ทดสอบการทำงานของพนักงานที่นี่ไปในตัวด้วย ประกอบกับการตัดสินใจว่าจะร่วมลงทุนด้วยดีหรือไม่” เหมันต์ให้เหตุผลที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ‘ทดสอบการทำงานของพนักงานที่นี่’ ช่างเป็นข้ออ้างที่หาคำค้านไม่ได้เลย
“ได้ครับหากคุณเหมันต์ต้องการแบบนี้ ก็ดีเหมือนกันครับ คุณเหมันต์จะได้รู้ว่าพนักงานของที่นี่ทำงานมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนคุณบงกช ไปตามหยาดน้ำค้างมาที่นี่ด่วนเลยครับ” สันติสั่งการบงกชผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้านายสายตรงของหญิงสาว เหมันต์กระตุกยิ้มเล็กน้อย พึงพอใจกับชื่อเสียงเรียงนามของเธอยิ่งนัก ดวงหน้าที่สวยพริ้งเกลี้ยงเกลา ยังไม่เทียบเท่ากับชื่อนามที่แสนไพเราะและไม่เหมือนใครหยาดน้ำค้าง
“คุณหยาดน้ำค้าง ผมรบกวนคุณช่วยพาคุณเหมันต์เดินชมตามชั้นและส่วนต่างๆ ของสปอร์ตคลับด้วยนะ พอพาคุณเหมันต์เดินชมเสร็จแล้ว พาคุณเหมันต์ไปพบผมที่ห้องรับรองชั้นสาม” หญิงสาวผู้ถูกเรียกใจสั่นรัว นี่เธอต้องพาเขาเดินชมทั่วสปอร์ตคลับหรือนี่ เหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ หยาดน้ำค้างเองยังไม่หายใจสั่น นี่ต้องมาเดินเคียงข้างเขาพาเดินทั่วสปอร์ตคลับ ที่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณยี่สิบถึงสามสิบนาทีกว่าจะดูหมดทุกสถานที่ มีหวังหัวใจดวงนี้ได้กระเด็นออกมาเต้นข้างนอกแน่ ตื่นเต้นดีแท้
“ค่ะเชิญค่ะคุณเหมันต์” หญิงสาวยิ้มตามแบบฉบับและหน้าที่ของเธอ การพาลูกค้าเดินชมทั่วสปอร์ตคลับ เป็นหน้าที่ของแผนกบริการลูกค้า มีหน้าที่พาบุคคลที่ประสงค์จะทำสมาชิก เดินชมศักยภาพและส่วนต่างๆ ของสปอร์ตคลับทุกส่วน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในการทำบัตรสมาชิก
“ส่วนแรกที่ลูกค้าเข้ามาจะต้องเห็นและจะต้องทำคือ การตรวจสอบสภาพการเป็นสมาชิกหรือยืนยันตนว่าเป็นสมาชิก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ส่วนที่สองที่ลูกค้าจะไปคือเคาน์เตอร์ที่สอง ซึ่งสมาชิกจะต้องนำบัตรที่เคาน์เตอร์รับรองลูกค้าให้ไว้ นำมาแลกผ้าขนหนูสองผืนพร้อมกับสบู่หนึ่งก้อน จากนั้นสมาชิกเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและเก็บของในล็อกเกอร์ที่ทางสปอร์ตคลับมีไว้รับรองให้ ส่วนด้านนี้” หยาดน้ำค้างอธิบายตามส่วนต่างๆ ที่อยู่ชั้นหนึ่งก่อน ซึ่งส่วนมากจะเป็นเครื่องออกกำลังกายชนิดวอร์มอัพทั้งสิ้น มีเวทีมวยขนาดกะทัดรัดตั้งอยู่ด้านริม เครื่องบริหารหน้าท้องคุณภาพสูง ส่วนชั้นสองจะเป็นเครื่องออกกำลังเฉพาะกล้ามเนื้อ อย่างเช่นเครื่องยกน้ำหนัก ห้องโยคะมีสองประเภท โยคะร้อนกับโยคะธรรมดา ห้องแบดบินตันในร่ม ห้องซาวน์น่า ห้องล็อกเกอร์ที่แยกชายและหญิง
ชั้นที่สามจะเป็นสระว่ายน้ำในร่มที่แยกระหว่างชายและหญิง ไม่ปะปนกัน ห้องโภชนาการเป็นห้องที่ให้คำปรึกษาเรื่องการรับประทานอาหาร สำหรับคนที่ต้องการควบคุมอาหารประกอบกับการออกกำลังกาย ที่นี่จะมีนักโภชนาการที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีสิบสองคน คอยให้คำแนะนำสมาชิก และเป็นห้องของเทรนเนอร์ ผู้ให้คำแนะนำในการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ชั้นสี่จะเป็นส่วนของออฟฟิศทั้งหมด
เหมันต์เพลิดเพลินกับคำพูดที่หญิงสาวเอ่ยมายิ่งนัก คล่องแคล่วไม่สะดุดน่าฟัง ไม่ติดขัด แต่ทว่าดวงหน้างามที่เขามักก้มมองดูหลายครั้งนั้น เป็นแรงดึงดูดใจอย่างล้นเหลือ หยาดน้ำค้างรับรู้ถึงสายตาคมเข้มที่มองมา หญิงสาวร้อนวูบวาบในบางครั้ง ยามที่แหงนหน้ามองพูดคุยกับเขา ตอนที่เขาถามคำถามเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายชนิดต่างๆ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะพยายามชวนเธอคุยนอกเรื่องมากกว่า หากแต่หยาดน้ำค้างมีวิธีที่จะวกมาเรื่องเดิมได้ทุกครั้ง
“คุณหยาดน้ำค้างทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วครับ” เขาเอ่ยถามขณะที่ทั้งสองเดินลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นสาม มุ่งตรงไปที่ห้องรับรอง
“ดิฉันทำงานที่นี่มาสี่ปีแล้วค่ะ”
“มิน่าล่ะ คุณหยาดน้ำค้างถึงได้รู้จักที่นี่ทุกซอกทุกมุม”
“ถึงแล้วค่ะ ห้องรับรอง” หยาดน้ำค้างรู้สึกดีใจยิ่งนักที่หน้าที่ของตัวเองได้เสร็จสิ้นเสียที หลังจากที่ต้องฟังเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตุ้บๆ ไม่เป็นจังหวะนานร่วมครึ่งชั่วโมง
“ขอบคุณมากนะครับคุณหยาดน้ำค้าง” เหมันต์เอ่ยด้วยถ้อยคำที่สุภาพ
“ไม่เป็นอะไรค่ะ เป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว”
“คุณมีชื่อเรียกสั้นๆ กว่านี้หรือเปล่าครับ”
“น้ำค้างค่ะ คุณเหมันต์เรียกดิฉันว่าน้ำค้างก็ได้ค่ะ ไม่ต้องมีคุณนำหน้า ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญครับขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูลทุกอย่าง”
“ยินดีค่ะ” หยาดน้ำค้างยิ้มให้ชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไปที่ชั้นล่างเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของตน เหมันต์มองร่างเล็กไปจนสุดสายตา ผู้หญิงคนนี้ถูกใจเขายิ่งนัก สวยใสน่าลิ้มลองใช่น่าลิ้มลอง พอเบื่อแล้วค่อยโยนทิ้ง เหมือนหญิงสาวทุกคนที่ผ่านมา เหมันต์ใช้เวลาพูดคุยกับสันติ เรื่องการซื้อหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของสันติ ประมาณ สี่สิบนาทีจึงลากลับ