ซาตานทวงสิทธิ์ ตอนที่ 3

1022 Words
ตอนที่ 3 ท่ามกลางงานเลี้ยงฉลองของนักธุรกิจมากหน้าลายตาระดับต้นๆ ของประเทศ จัดขึ้นใจกลางเมืองประเทศอิตาลี ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งเมื่อร่างสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าหล่อเข้ม น่าเกรงขามก้าวเข้ามาในงาน เซนต์ วาโลว ดีลล์ เจ้าของธุรกิจการส่งออกน้ำมันและปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเดินเข้ามาในงานทุกคนต่างจับจ้องที่เขาและอยากร่วมทำธุรกิจกับเขาทั้งนั้น เซนต์ขึ้นมาเป็นนายใหญ่แทนท่านพ่อเขาได้ 8 ปี เขาสามารถทำมันออกมาได้ดีตลอดมาจนน่าทึ่ง นอกจากธุรกิจสีขาวสีดำ เขายังเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยดีลล์ที่เปิดสอนทางด้านปิโตรเลียมโดยเฉพาะอีกด้วย ร่างสูงใหญ่ทักทายผู้คนในงานตามมารยาท และได้ขอตัวออกมาก่อนเนื่องจากมีงานสำคัญหลายงานรอเขาอยู่ "นายครับ วันพรุ่งนี้นักศึกษาทุนจากบริษัทสาขาต่างประเทศมีอบรมที่มหาวิทยาลัย นายจะไปไหมครับ" "อืม ฉันจะไปเอง" เซนต์บอกลูกน้องคนสนิท ไหนๆ พรุ่งนี้เขาก็ต้องไปตรวจงานที่นั่นแล้วก็เข้าร่วมเปิดงานเลยแล้วกัน หลังจากสั่งงานลูกน้อง ร่างสูงก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของกาสิโนใหญ่กลางตัวเมืองเพื่อสะสางงานที่ค้างสะสมไว้หลายวันกว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาของวันใหม่แล้ว เขาจับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อตรวจเช็กสิ่งต่างๆ ก็พบข้อความของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานทำให้เขาเดินออกจากห้อง ก็พบกับไอ้เพื่อนยาก ที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานเขาสักพักแล้ว "ไง ไอ้เสือ มานานยัง" เซนต์เอ่ยทักเพื่อน แล้วเดินไปห้องวีไอพีสำหรับเขาเท่านั้นโดยมีเคลย์ตันเพื่อนสนิทเดินตามไปติดๆ "กูเจอไอ้คินทร์ที่เยอรมันเมื่อวันก่อน" เคลย์ตันพูดเข้าเรื่องทันทีที่ถึงห้อง "หึ มันสินะ" เป็นคนวางระเบิดกาสิโนของเขากับไอ้เพื่อนรักที่เยอรมันและรัสเซียพร้อมกันเมื่อวันก่อน ทำให้ลูกน้องและลูกค้าของเขาบาดเจ็บและเสียชีวิตไปหลายสิบคน "กูร่วมด้วยคน" เคลย์ตันรู้ว่าเพื่อนเขาต้องเอาคืนให้หนักกว่าที่คินทร์ทำแน่นอน เขาทำธุรกิจโรงแรมเชิงอนุรักษ์การท่องเที่ยวแถบฮาวายเกือบทั้งหมดและอีกหลายๆ แห่งทั่วโลก รวมทั้งที่อิตาลีประเทศของตัวเองด้วย การที่คินทร์วางระเบิดกาสิโนที่เขากับเซนต์ร่วมกันสร้างมาด้วยละก็เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนจัดการคนเดียวแน่นอน ร่างบางที่พึ่งลงจากเครื่อง รีบนั่งรถมายังบ้านที่แม่เธอเขียนทิ้งไว้ในจดหมายทันทีซึ่งเธอค้นหาแล้วพบว่าที่อยู่นั้นอยู่แถบชานเมือง สภาพบ้านเหมือนมีคนเข้ามาดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา ลันตาเดินเข้ามาถึงหน้าประตูบ้านทรงยุโรปขนาดไม่ใหญ่มากพร้อมกระเป๋าลากของเธอ ไม่นานก็มีคุณป้าท่านหนึ่งเดินออกมา "หนูเป็นใครเหรอจ๊ะ" ลันตายกมือไหว้เพราะติดนิสัยคนไทยก่อนจะนึกได้จึงรีบเอามือลง "คือหนู..." "ลันตา ลันตาใช่หรือเปล่า" คุณป้าคนนั้นถามขึ้นมาเพราะเห็นจี้พระจันทร์เต็มดวงที่เธอดัดแปลงให้เป็นกำไลข้อมือเรียบร้อยแล้ว ลันตาแปลกใจ ป้าคนนี้รู้จักเธอได้ยังไง ทำไมถึงอยู่ที่นี่ "ป้ารู้จักลันเหรอคะ" เธอถามคุณป้าขึ้นด้วยสายตาอันวูบไหวชั่วครู่ก่อนจะกลับไปเป็นตามเดิม "หนูเป็นลูกนภาใช่มั้ย" คุณป้าถามซ้ำอีกครั้งและได้เล่าแม่ของเธอให้ฟัง คุณป้านวลคนไทยแท้เป็นพี่ที่ทำงานของแม่ ทั้งสองคนสนิทกันมาก คอยช่วยเหลือกันและกันตลอดมาเปรียบเสมือนครอบครัว จนวันหนึ่ง นภากับสามีได้หายตัวไปพร้อมกับเด็กน้อยที่พึ่งคลอด หลังจากออกจากงานป้านวลจึงมาอยู่ดูแลที่บ้านหลังนี้ตามคำขอของน้องรักที่หายตัวไป เกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ของเธอกันนะ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ท่านทั้งสองหายตัวไปและได้ทิ้งเธอที่บ้านสุขใจกับครูอารี ลันตาคิดไม่ตกกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เลย 2 วันต่อมาลันตาได้เข้าร่วมอบรมปฐมนิเทศนักศึกษาทุนต่างประเทศ คนที่จะได้ทุนนี้ต้องเป็นคนของบริษัทสาขาย่อยที่แยกออกไปในประเทศหรือต่างประเทศ มีผลการเรียนดีและประวัติการทำงานดีเท่านั้น พิธีเปิดงานได้จัดที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยดีลล์มีนักศึกษาทุนด้านปิโตรเลียมร่วมงานอีกประมาณ 100 คน ไม่นานก็มีชายใส่สูทสีดำอีกหลายสิบคนเดินเข้ามา และมีชายหนุ่มร่างใหญ่กำยำ ใบหน้าหล่อเข้ม ความน่าเกรงขามล้นแผ่กระจายไปทั่วห้องเมื่อเขาเดินขึ้นไปบนเวทีที่ได้จัดเตรียมไว้ สายตาคมกริบของชายหนุ่มกวาดตามองไปทั่วห้อง บังเอิญสบตากับหญิงสาวร่างบางแต่อวบอิ่มดูสุขภาพดี ผิวขาวละมุน แววตาสดใสอ่อนหวาน แต่เหมือนปกปิดความเศร้าไว้ลึกๆ ข้างใน ชายหนุ่มจ้องร่างแบบบางอย่างไม่ละสายตาจนเจ้าตัวเสมองสิ่งอื่นเพื่อหลบตาเขา ทำให้เซนต์รู้ตัวแล้วมาโฟกัสกับงานข้างหน้าแทน แต่สมองก็หยุดคิดถึงหญิงสาวคนนั้นไม่ได้เลย แววตาคู่นั้น…เขาจำมันได้!! เมื่อพิธีกล่าวเปิดงานเรียบร้อยแล้วเซนต์ก็ไปที่ห้องทำงานเพื่อตรวจเช็กรายงานประจำเดือนของมหาวิทยาลัยต่อ เขาจะต้องดูเอกสารรายงานประจำเดือนของงานทุกอย่างทั้งหมดของเขาด้วยตัวเอง "เอาประวัตินักศึกษาทุนปีนี้มาให้ฉันทั้งหมด" ไมค์รับคำสั่งแล้วเดินออกไป ไม่นานก็ได้เอกสารสำคัญที่ผู้เป็นนายต้องการ "ลันตา วัฒนกุล....สืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาอย่างละเอียด" ชายหนุ่มที่นั่งเงียบขมวดคิ้วหนาเหมือนคิดอะไรสักอย่าง ดวงตาคมกริบมองกระดาษแผ่นหนึ่งตรงหน้าเอ่ยปากสั่งลูกน้องคนสนิท ก่อนจะลุกจากเก้าอี้หนังตัวใหญ่เดินออกจากห้องทันที วัฒนกุล งั้นเหรอ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD