ตอนที่ 2
“ผมขอโทษครับ แต่คุณแม่ครับ ผมไม่อยากแต่งงานกับแม่พิตต้าอะไรนั่นนะครับ สวย เซ็กซี่ก็จริงแต่ไม่เหมาะเอามาเป็นเมียผม” เอเรสเอ่ยบอกเสียงอ่อน เพราะถูกอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนพูดจาไพเราะตามคำสั่งมารดาจึงทำให้ชายหนุ่มต้องลงท้ายด้วยครับตลอด หากอยู่ต่อหน้าบิดามารดา แต่ลับหลังขอบอกเลยว่าเขาเป็นคนมารยาททรามมาก ถึงมากที่สุด จากนั้นหนุ่มหล่อก็ลอบถอนใจทิ้งเฮือกใหญ่ ขณะที่คนเป็นแม่ก็ทำหน้าหนักใจไม่น้อยเมื่อลูกชายกล่าวออกมาเช่นนั้น เพราะงานนี้เห็นจะลงเอยยากเสียแล้ว หากลูกชายไม่ให้ยินยอม แต่ถึงจะไม่ยินยอมตนก็ไม่ละความพยายามแน่ๆ
“แต่อีกไม่กี่เดือนลูกจะอายุครบสามสิบสี่แล้วนะทาม แม่ว่าลูกควรมีครอบครัวได้แล้ว แล้วแม่ก็อยากให้ทามลองเปิดใจคบหาหนูพิตต้าดู ไม่แน่ว่าลูกอาจจะหลงรักหนูพิตต้าเข้าสักวัน หากลูกเปิดใจรับหนูพิตต้า ถึงหนูพิตต้าจะมีข่าวอย่างที่ลูกว่ามา แต่คุณหญิงศศิประภาก็ยืนยันว่าข่าวไม่จริง อีกอย่างลูกก็น่าจะเข้าใจว่านะว่าหนูพิตต้าเป็นคนสวย มันก็ต้องมีข่าวเรื่องหนุ่มๆ เป็นธรรมดา” มารดาบอกเหตุผลพร้อมพยายามหว่านล้อม ใจก็คิดว่ากลับเมืองไทยคราวนี้คงต้องไปพูดคุยกับคุณหญิงศศิประภาให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที ไม่งั้นลูกชายของตนคงจะทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่เลิกแน่ๆ หากไม่รีบจัดการเรื่องหมั้นหมาย
“อายุแค่นี้ยังไม่ถือว่าแก่หรอกครับคุณแม่ อีกอย่างผมก็ชอบชีวิตอิสระ ยังไม่อยากผูกมัดกับใคร”
“แต่น้องๆ ของลูกก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว แล้วดูเราสิ เป็นพี่ชายคนโตแท้ๆ ยังไม่คิดจะมีครอบครัว” พูดจบก็ถอนหายใจ หนักใจกับชีวิตลูกชายมาก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงที่ลูกชายคบหามาทำให้รำคาญใจ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ด้วยกลัวว่าลูกชายจะพลาดพลั้งเรื่องผู้หญิงเข้าสักวัน
“ก็ผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจไงครับคุณแม่ ผมเลยต้องอยู่เป็นโสดต่อไป”
“แม่ก็บอกลูกไปแล้วว่าให้เปิดใจรับหนูพิตต้า” พูดจบก็แอบสังเกตท่าทีพ่อตัวดี แล้วก็ส่ายหน้ากับท่าทีของลูกชาย ทั้งที่การแต่งงานมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แล้วดูอย่างวิลเลียม เพื่อนสนิทของเจ้าตัวนั่นสิ แต่งงานไปหลายปีมีครอบครัวแสนจะอบอุ่น ลูกๆ ก็น่ารักกันทุกคน
“แต่ผมไม่วันรักผู้หญิงคนนั้นครับคุณแม่” เอเรสตอบมารดาด้วยเสียงหนักแน่น
“เอาล่ะๆ จะมีวันหรือไม่มีวัน แม่ว่าลูกก็ควรไปทำความรู้จักกับหนูพิตต้าดูก่อน ตกลงว่าแม่จะรอลูกเคลียร์งานทางนี้ให้เรียบร้อย แล้วทามก็กลับเมืองไทยกับแม่ จะได้ไปทำความรู้จักกับหนูพิตต้า ตกลงตามนี่นะลูกรักของแม่” มารดาตัดบทแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก
เอเรสมองมารดาจนลับตา แล้วเอนแผ่นหลังเข้าพนักโซฟา ยกมือลูบหน้าไปมาแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น
“มีอะไร” เจ้าของเครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่เอี่ยมถามด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญ เมื่อมีคนมารบกวน
“คนร้ายที่เราจับได้ มันยอมตายมากกว่าจะบอกเราครับ” เสียงรายงานจากปลายสายทำให้มาเฟียหนุ่มต้องถอนใจอีกครั้ง เพราะไม่ว่ากี่คนที่เขาจับได้ พวกมันยอมตายกันหมด ไม่ว่าเขาจะซ้อมแค่ไหน มันก็ไม่ปริปากพูดสักคน
“งั้นก็ต้องพยายามกันต่อไป ฉันว่าสักวันเราต้องรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าของพวกมัน” พูดจบก็ตัดสายทิ้ง จากนั้นเขาใช้เวลาค่อนชั่วโมงจึงได้ขึ้นไปปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อออกไปพบน้องชาย เพื่อเตือนให้น้องชายเพิ่มกำลังคนและคอยระวังตัวให้มากขึ้น แล้วจากนั้นเขาก็ต้องเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับมารดาเพื่อไปพบหน้าว่าที่คู่หมั้น เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องทำตามที่ท่านเลือกให้แต่คนอย่างเขาจะยอมไปก่อนเพื่อทำให้ท่านสบายใจ
สองสัปดาห์ถัดมา...
เอเรสและมารดาพร้อมคนติดตามเดินทางมายังประเทศไทยตามความต้องการของมารดา และเมื่อมาถึงแผ่นดินเกิดของมารดา มาเฟียรูปหล่อก็ต้องไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ โดยที่ทางคุณหญิงศศิประภารับเป็นแม่งาน ที่จะจัดขึ้นในค่ำคืนนี้และเวลาแห่งการออกไปโชว์ตัวของเขาก็มาถึง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คุณทามคะ คุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ” เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงสาวใช้ขานเรียกเจ้านายหนุ่ม เพราะจวนจะได้เวลาเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงอยู่แล้ว แต่พ่อลูกชายของนายหญิงยังไม่ออกจากห้องพัก กระทั่งได้รับคำบอกเล่าของเจ้านายหนุ่มว่าอีกเดี๋ยวจะลงไป สาวใช้จึงรีบลงไปรายงานนายหญิงที่ตอนนี้กำลังนั่งสนทนาอยู่กับลูกสาวคนสวย
“คุณแม่ขา พี่ทามยังไม่ลงมาอีกเหรอคะ” ธัญญ่า น้องเล็กสุดในบ้านเอ่ยถามมารดาเสียงใส หลังเห็นสีหน้าของผู้เป็นแม่ ที่ดูจะหมดความอดทนกับการรอคอยพี่ชายของเธอ ที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพี่ชายถึงไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเสียที และก็เอาแต่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าจนต้องมาเจอแผนจับคลุมถุงชนจนได้
“ก็ยังน่ะสิ ตาทามนะตาทาม เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่แต่งองค์ทรงเครื่องช้ายิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก” คนเป็นแม่บ่นเสียงดังเมื่อได้เห็นพ่อตัวดีกำลังเดินลงมาจากห้องพัก แล้วยังผิวปากอย่างอารมณ์ดี
“ผมก็ต้องแต่งตัวให้ดูดีหน่อยสิครับ ไปให้ผู้หญิงดูตัวทั้งที ถ้าเกิดผมไม่หล่อไม่เนี้ยบ เดี๋ยวคุณแม่ก็จะเสียหน้าเอาได้นะครับ” เสียงทุ้มดังขึ้น ก่อนหันไปยักคิ้วและยิ้มให้น้องสาว