Lovely shot 5

1184 Words
Lovely shot 5 หลายวันผ่านไป “กานต์!! ประชุมด่วน” เมื่อเข้ามายังแผนกพี่ภัสตะโกนบอก ฉันเองก็ต้องรีบตาม แต่ประชุมอะไรตั้งแต่เก้าโมงแบบนี้ ฮื่อ! ยังไม่ได้เตรียมตัวเลย “ประชุมเรื่องอะไรพี่ภัส” “ไม่รู้ เลขาคุณกรเพิ่งแจ้งเข้ามา พี่ก็งงอยู่” “อ้าว งงเลย” “พี่ก็งง ไป ๆ อีกสิบนาที” ฉันคว้าสมุดโน้ตและปากกาวิ่งตามหลังพี่ภัสไป เมื่อเข้าไปยังห้องประชุมก็พบว่าพี่ ๆ จากแผนกอื่นก็กำลังทยอยเดินเข้ามาในห้องแล้วเช่นเดียวกัน คนสุดท้ายที่เข้ามาคือเจ้านายอย่างคุณกรนั่นแหละ เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาฉันเลี่ยงที่จะมองหน้าเขาตรง ๆ เวลาเขายิงคำถามเจาะจงมาที่ฉัน ฉันก็ต้องตอบและสบตาด้วยแต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มองหน้าเขาเลย แล้วรู้ไหมว่าเขาเรียกประชุมเรื่องอะไร จะบอกให้ว่าที่เขาเรียกเข้าประชุมเพราะจะบอกว่าเย็นนี้เขาจะพาไปเลี้ยง บ้าบอที่สุดแจ้งผ่านไลน์บริษัทก็พอไหมทำไมต้องเรียกประชุมให้ยุ่งยาก “ธุรการรอก่อนนะครับ” นั่นไงล่ะ เรียกแผนกไหนไม่เรียก ดันเรียกแผนกฉัน “ค่ะคุณกร” เขาพยักหน้าและรอกระทั่งพี่ ๆ จากแผนกอื่น เดินออกไปจนหมด “หนูต้องอยู่ไหมอ่ะพี่ภัส” ฉันเอียงหน้าเข้าไปกระซิบถามพี่ภัสเพราะบางทีคุณกรก็อาจจะอยากคุยกับหัวหน้าฝ่ายธุรการก็ได้นี่ “แกนั่นแหละตัวดีเลย นั่งอยู่นี่เลย” “พี่ภัสอา” “ไม่ต้องมาทำหน้างอแง ไอ้ซินไม่อยู่ให้เราอ้อนหรอกนะ” เกือบห้านาทีห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ มีคุณกรนั่งจ้องฉันอยู่ นอกจากนั้นยังมีเลขาเขาสองคน พี่ภัสและฉัน ฮื่อ! ฉันกลัวนะ ทำไมต้องมามองกันแบบนั้นด้วย “กานต์” “ค่ะ คุณกร” ฉันขานรับอย่างเป็นปกติ แม้ว่าภายในใจจะเต้นรัวแรงตึกตักด้วยความกลัวก็ตามที “ย้ายห้องอีกแล้วเหรอ” เขาควรจะพูดเรื่องงานนะ “กานต์อย่าเงียบ” เขาขู่อีกครั้งเมื่อฉันยังเงียบ “ค่ะ ย้าย” “ครั้งที่เท่าไหร่ที่ย้าย” ใครจะไปนับกัน “ไม่รู้ค่ะ” “แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน” เรื่องอะไรฉันจะบอกเขากันล่ะ ฉันย้ายหนีเขานะ “บอกไม่ได้ค่ะ คุณกรมีเรื่องงานจะพูดไหมคะพอดีว่ามีงานค้างเยอะมาก ๆ เลยค่ะ” “ช่างงานไปก่อนสิ ตอบพี่มาว่าย้ายไปไหน” “คุณเป็นเจ้านายนะคะ เรื่องนี้ก็ไม่สมควรจะบอก” “แล้วไง พี่ปล่อยให้ดื้อนานแล้วกานต์ นับตั้งแต่วันนี้ขึ้นไปทำงานช่วยเลขาพี่ ส่วนคุณภัสเดี๋ยวจะมีคนมาช่วยงานแทนกานต์นะครับ” “เอ่อ ค่ะคุณกร” “แต่ฉันไม่อยากขึ้นไปค่ะ อยู่ตรงนี้ดีแล้ว” ฉันยังดื้อปฏิเสธ แต่ก็เห็นว่าคุณเลขาทั้งสองเริ่มอึกอักรวมถึงพี่ภัสด้วย “คุณกานต์คะ ทำตามที่คุณกรบอกเถอะค่ะ” “แต่กานต์ไม่อยากขึ้นไปข้างบนนี่คะ ขออยู่ช่วยพี่ภัสข้างล่างดีกว่า” “ก็เป็นแบบนี้ไง ดื้อแล้วยังเถียงเก่งแบบนี้ไงพี่ถึงต้องพาขึ้นไปอยู่ใกล้ ๆ ” “ดิฉันขอยืนยันคำเดิมค่ะคุณกร” ฉันอยู่กับพี่ ๆ ฉันสบายใจที่สุดแล้ว “กานต์” “คุณกรคะ เรื่องนี้เราค่อย ๆ คิดกันดีกว่านะคะ อีกอย่างช่วงนี้งานที่แผนกเยอะได้น้องกานต์มาช่วยก็เบาไปเยอะทีเดียว เกรงว่าถ้ามีคนใหม่มาจะเสียเวลาสอนงานกันน่ะค่ะ คุณกรช่วยพิจารณาใหม่ด้วยนะคะ” “ผมจะคิดใหม่ก็ได้ แต่คุณภัสต้องติดตามกานต์ให้ผม อย่าให้น้องไปซนที่ไหน มีอะไรเกี่ยวกับน้องขึ้นตรงกับผมคนเดียว” “ค่ะคุณกร” คุณกรออกจากห้องประชุมไปพร้อม ๆ กับเลขาของเขา ก่อนออกไปไม่ลืมที่จะมองหน้าฉันดุ ๆ อีกด้วย ส่วนพี่ภัสก็หันมามองฉันอย่างสงสัย “มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหมกานต์” พี่ภัสทำหน้าเครียด ฉันไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องระหว่างฉันกับเขา เพราะมันก็ไม่มีอะไรแต่พอเห็นสีหน้ากังวลของพี่ภัสจึงเอ่ยเล่าเพียงบางส่วน บอกแค่ว่าเคยรู้จักเขาแค่นั้นและมีเรื่องไม่เข้าใจกันเล็กน้อยเลยเป็นแบบนี้ พี่ภัสเหมือนจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ “เอาละ เราไปจัดการงานของเรากันเถอะ” “ไปกันค่ะ” ฉันส่งยิ้มจนตาหยีให้พี่ภัสเบาใจไปหนึ่งเปราะที่ไม่ต้องย้ายไปอยู่ใกล้เขา จากนั้นเราทั้งสองก็ออกจากห้องประชุม เมื่อทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานความโกรธเคืองความหงุดหงิดที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็ต้องหายไปเพราะต้องเพ่งสมาธิมายังงานที่ทำ ไหนจะติดต่อประสานงาน เคลียร์เอกสารส่งต่อให้แผนกบัญชีอีก แต่ยังดีที่พี่แผนกฉันและพี่ๆ ที่นั่งอยู่ใกล้กันไม่ใช่คนประสาทหรือจุกจิกเลยไม่ค่อยมีปัญหา แต่คนที่มีปัญหาจริงๆ คือคนนอกแผนกนั่นแหละ ประสาทมากขนาดที่ว่าถ้าฉันคุยด้วยคงต้องประสาทตาม หากไม่พอใจเราก็จะพูดจาแซะหรือถากถาง แต่นับว่าดีไม่น้อยที่ฉันใจเย็นแม้จะน้อยนิดแต่ก็ยังทนความประสาทเสียของคนพวกนั้นได้ “พี่จะสั่งเครื่องดื่มเอาอะไรไรกานต์” พี่ภัสเดินมาเคาะโต๊ะถามเบา ๆ “เอาช็อกโกแลตเย็นค่ะพี่ภัส” “เหมือนเดิมเลยนะ” “ค่ะ” “พวกนั้นกำลังมา ฮึบไว้นะ” พี่ภัสกระซิบบอกก่อนจะแกล้งหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก “นี่พิศเมื่อเช้าได้ข่าวว่าคุณกรเรียกพบธุรการนะแก ไม่รู้จะโดนไล่ออกหรือเปล่า” เสียงกระแนะกระแหนดังขึ้นใกล้ ๆ พร้อมกับหัวข้อประเด็นที่ฟังดูจากหน้าออฟฟิศก็รู้ว่าตั้งใจว่าให้ฉัน “น่าจะใช่นะ ใครเขาจะอยากเอาคนที่บ้าผู้ชายมาไว้ในบริษัท” “น่าจะไล่ออกไปเลยนะคนแบบนั้น พวกบ้าผู้ชายตามกรี๊ดผู้ชาย ตลกอะแก” เย็นไว้กานต์ ใจเย็น ๆ ฉันได้แต่บอกตัวเองในใจแบบนั้น เพ่งสมาธิไปที่งานอย่างเดียว คนพวกนี้ก็ดีแต่พูดจากหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว เมื่อไม่ได้ดั่งใจหรือถูกใจก็จะพูดจาถากถางกดคนอื่นให้ต่ำเพื่อที่จะได้ยกระดับตัวเองให้สูง ทั้งที่ความเป็นจริงพวกเขาอาจจะต่ำกว่าคนที่ถูกพูดจาไม่ดีใส่ “ทำใจไว้นะกานต์ คุณกรคงอยากไล่แกออกเต็มทนแล้ว” “ถ้าผมจะต้องไล่ใครออก ผมคงเลือกที่จะไล่พวกคุณสองคนออก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD