Lovely shot 8
“อ้อ ได้ข่าวจะกดบัตรนี่นา ไวไฟที่ออฟฟิศช้ามากเลยนะ คนอื่นเขาทำงานทำการตัวเองจะเอาไวไฟไปใช้กดบัตรไปหาผู้ชายคงไม่ได้ คิดบ้างนะจ๊ะจุดนี้” ทนไม่ไหวแล้วล่ะแบบนี้น่ะ
“แหมรู้ดีจังเลยนะคะ ไม่ได้ชอบจริง ๆ เหรอคะ รู้กระทั่งวันกดบัตร หรือว่าจริง ๆ แล้วก็ชอบแต่พูดจาดูถูกคนอื่นไว้เยอะเลยต้องแสร้งทำตัวปากจัดกัดคนอื่นไปทั่ว ถามว่าเตรียมเงินไว้เยอะไหมก็น่าจะเยอะกว่าเกินทำศพพวกพี่นั่นแหละ” ฉันจ้องคนพวกนั้นอย่างไม่พอใจ อายุเยอะกว่าแล้วไงทำตัวไม่น่าเคารพฉันก็ไม่อยากเคารพหรอกนะ ที่ทนอยู่ทุกวันนี้เพื่อความสงบในการทำงานแต่เหมือนพวกเขาจะไม่อยากสงบน่ะสิ ถ้าสันติไม่ใช่ทางออกก็บวกแม่งเลยแล้วกัน!!
“ใจเย็นเว้ยกานต์” พี่ปองเอื้อมมือมาตบไหล่เบา ๆ
“เป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาไร้มารยาท” นั่นไงล่ะ ยกเรื่องนี้มาอีกแล้ว
“ก็ถ้าผู้ใหญ่ทำตัวไม่น่าเคารพเด็กมันก็ไม่อยากเคารพหรอกนะ” เสียงพี่ภัสเอ่ยขึ้นบ้าง ปรบมือให้พี่ภัสเลยค่ะงานนี้ เอาใจหนูไปเลยค่ะพี่
“พี่ภัส!”
“ทุกคนคะ ลืมไปหรือเปล่าว่าวันนี้เจ้านายมาด้วย พวกคุณจะทะเลาะอะไรกันเกรงใจเจ้านายบ้างนะคะ” นะ นั่นสิ คุณกรมาด้วยนี่นา แต่ก็ดีถ้าเขาไม่พอใจฉัน เขาจะได้ไล่ฉันออกยังไงล่ะ สาธุช่วยไล่ฉันออกหน่อยเถอค่ะ
“ทานต่อเถอะครับ” คุณกรบอกเสียงเรียบ ๆ ฉันนั่งหันหน้าเฉียง ๆ เข้าหาพี่ปองและยกแก้วชนกับพี่ปองถี่ ๆ ไม่อยากหันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่อีกด้านเลย เมื่อไหร่เขาจะโมโหแล้วเอ่ยปากไล่ฉันออกนะ
“เฮ้ย ๆ หนักไปแล้วกานต์ ใจเย็นโว้ย” พี่ซิมร้องมาบอกเมื่อเห็นฉันกับพี่ปองกำลังท้าดวลกันอยู่
“หนูไหวน่าพี่ซิม”
“ปากไหวแต่ตาเตอนี่ไปหมดละนะ ฮา ๆ ๆ ” พี่ปองหัวเราะอย่างสนุก ก็ฉันไม่ได้มีเพื่อนดื่มนานแล้วนี่นาเจอคนดื่มเป็นเพื่อนก็สนุกเป็นธรรมดา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงว่าทั้งโต๊ะมีเพียงแผนกฉันและทีมวิศวกรและอินทีเรีย อ้อแล้วก็คุณกรและเลขาทั้งสองของเขา คนอื่นๆ กลับกันหมดแล้วรวมถึงคนพวกนั้นด้วย คนที่ไม่ชอบฉันน่ะ ตอนนี้ที่เหลืออยู่ก็สนิทกันทั้งนั้นหมายถึงพี่ๆ สนิทกันนะ
“อีกคนละขวดละกัน” พี่ปองบอก ฉันพยักหน้ารับ สามทุ่มแล้วเหรอเนี่ยเร็วจังเลย เมื่อได้เบียร์มาอีกคนละหนึ่งขวดฉันก็ไม่รีรอที่จะดื่ม ดื่มแล้วหยุดไม่ได้เลยจริง ๆ
“ที่แผนกไวไฟช้าเหรอครับ” เสียงทุ้มๆ แบบนี้มีเพียงคุณกรเท่านั้นแหละ
“ค่ะ ช้ามาก ๆ เลยไม่รู้เป็นเพราะอะไร” เสียงพี่ภัสนี่นา
“เดี๋ยวผมให้คนไปดูให้ ยังไงผมกลับก่อนแล้วกันครับ”
“ครับคุณกร”
“พวกคุณก็กลับกันดี ๆ นะครับ ไม่ไหวก็กลับแท็กซี่ดื่มต่อได้เลยลงบิลผมไว้เดี๋ยวผมเคลียร์เอง”
“ขอบคุณครับ”
คุณกรหันมามองก่อนจะเดินออกไป เย้! เขากลับแล้ว ดีใจอะเขาไม่ไปส่งฉันแล้ว ระหว่างที่คิดก็ดื่มต่ออย่างมีสุขสุขแต่แล้วความสุขฉันก็ต้องพังทลายลงเมื่อคุณเลขาลุกยืนและเดินเข้ามาใกล้ อีกแล้ว รอยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ฮื่อ!! ฉันหนีทันไหม
“เชิญคุณกานต์ค่ะ”
“หนูอยากดื่มต่อ คุณเลขากลับได้เลยค่ะ” ฉันยังต่อลอง
“คงไม่ได้ค่ะ คุณกรรออยู่ที่รถแล้วค่ะ” บ้าจริง ทำไมเขาไม่กลับไปเลยล่ะฉันกลับเองได้นะ
“แต่...”
“ถ้าน้องกานต์ไม่กลับ พวกพี่สองคนก็กลับไม่ได้นะคะ พี่คิดถึงลูกแล้วค่ะ” ท้ายประโยคคุณเลขากระซิบบอก จนฉันใจอ่อน
“ค่ะ ๆ พี่ ๆ คะหนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ลาพี่ๆ ก่อนจะขยับลุกยืน พื้นเอนเอียงไปหมดเลย ฮื่อ นี่ฉันเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“กลับยังไงวะ พวกพี่ไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“เออ ๆ มีไรโทรมา” ฉันโบกมือลาพี่ ๆ ก่อนจะเดินโอนเอนออกจากร้านโดยมีคุณเลขาผู้หญิงประคอง คุณเลขาผู้ชายเดินตามอยู่ด้านหลัง เมื่อก้าวพ้นตัวร้านคนที่บอกว่ารออยู่รถกลับยืนอยู่ตรงหน้า เขามองหน้าฉันก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ คุณเลขาปล่อยมือออกจากการพยุง ฉันที่ยังไม่ทันตั้งตัวเกือบเซล้มถ้าไม่ติดว่าคนที่ก้าวเข้ามาใกล้รวบฉันเข้าไปกอดเสียก่อน
“ขี้เมา” เขาดุเบา ๆ ก่อนที่ทั้งร่างฉันจะลอยหวือเหนือจากพื้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบนี้มันคืออะไรกันทำไมฉันถึงรู้สึกชอบนะ
“ง่วงก็นอนก่อนนะครับ” เสียงทุ้มกระซิบบอกเมื่อร่างฉันถูกวางลงบนเบาะรถด้านหน้าและเขากำลังรัดเข็มขัดให้
“คุณกรคะ กระเป๋าน้องค่ะ”
“ขอบคุณครับ แล้วก็พรุ่งนี้ติดต่อให้อัพความเร็วไวไฟแผนกน้องให้เป็นความเร็วสูงสุดนะครับ เดี๋ยวผมจะพาน้องกลับก่อน ดื้อทั้งวันแล้ว”
“ค่ะคุณกร”
“งั้นผมกลับแล้วนะ กลับดี ๆ นะครับ”