ตอนที่ 8 ลงไปรับชะตากรรม(เลี่ยงไม่ได้)
“ทำไมน้ำแกงของท่านขมปี๋เยี่ยงนี้” ฉันหลับตาปี๋ ทำหน้าแหยะ เมื่อรับรู้ถึงรสชาติของน้ำแกง
“ข้าใส่ยา” หวังเย่พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ใส่ยา !?” ฉันทวนคำ
“นี่ท่านใส่ยาพิษจะฆ่าข้าหรือ อ้ากกก ทำไงดี” ฉันลนลาน เบิกตาโพลง ฮือชีวิตน้อย ๆ ของฉัน ถูกเทพเซียนรังแก
“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึ” หวังเย่พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
ฉันเลิกคิ้ว แล้วเอียงคอถามหวังเย่ ว่าทำไมน้ำแกงมันขม“งั้นท่านใส่ยาอะไรให้ข้า”
“ยาบำรุงวิญญาณเจ้าไง” หวังเย่ตอบ
“ฮู่วว โล่งอก เช่นนี้ข้าก็จะหายเจ็บแล้วใช่หรือไม่” ฉันถามด้วยความตื่นเต้น หวังเย่พยักหน้าให้ฉันแทนคำตอบ หายเร็วทันใจแบบนี้ นี่สินะเรียกว่ายาเทวดา ตอนนี้เป็นยาเทพเซียนละ ฉันยิ้มร่า มือและขาของฉันจะกลับมาใช้ได้แล้ว
“วันนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ วันพรุ่งนี้ท่านอาจารย์ก็จะกลับมา จะมาตัดสินเจ้าว่าจะเอาเช่นไรต่อ” หวังเย่พูดด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง พร้อมกับเดินออกไป
“นี่การลงโทษยังไม่จบอีกหรือนี่” ฉันพึมพำ แง ชีวิตฉันมันจะไปจบที่ตรงไหน ฉันแค่แต่งนิยายเอง ทำไมมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก
ขณะนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ฉันไม่รู้ เพราะหวังเย่ไม่ได้บอก เท่าที่สังเกตน่าจะเป็นเวลากลางคืนของสวรรค์ ทุกอย่างยังสว่างไสว ราวกับไม่มีเวลากลางคืน ฉันนอนนิ่ง ๆ นอนไม่หลับด้วยความที่กังวลใจ พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้าง
“เฮ้อ ฉันอยากเอามือก่ายหน้าผากจริง ๆ” ฉันบ่นอุบอิบ นอนมองขึ้นไปด้วยใบหน้าที่เบื่อหน่าย อ้ากกกก ฉันไม่ต่างอะไรกับคนพิการเลย อยากจะเป็นกิเลน พ่นไฟให้ไหม้ทั้งตำหนัก
เช้าต่อมา
แขนขาของฉันหายเป็นปลิดทิ้ง เย้ คำว่าพิการได้ห่างหายไปจากดวงวิญญาณของฉันแล้ว ฉันไม่เป็นวิญญาณพิการ
“อะชึ้บ ๆ ๆ ” ฉันกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ยาของสวรรค์ได้ผลดีแบบ100 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ฉันกำลังกระโดดโลดเต้นราวกับคนบ้านั้น พลันหางตากลับพบหวังเย่ยืนอยู่หน้าประตูของตำหนักซานซาน ฉันชะงัก ยืนตัวตรง ส่งยิ้มให้หวังเย่แบบเจื่อน ๆ
“หือ วะ หวังเย่ ท่านมาตอนไหนข้าไม่เห็นรู้เลย” ฉันถามด้วยความเลิ่กลัก
ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของหวังเย่ เขาตรงปรี่มาหาฉันทันที
“ท่านจะพาข้าไปที่ใด”
“แท่นประหาร” หวังเย่พูดด้วยสีหน้าราบเรียบอย่างไม่แยแส เขามีหน้าเดียวหรือไง
O[]O ทะ แท่นประหาร โฮกกกก ตกใจสุดขีด ไหนบอกอภัยให้ฉันแล้ว
“ดะ เดี๋ยวไหน ท่านว่าจะไม่ประหารข้า”
หวังเย่ไม่ตอบอะไร แต่กลับดึงคอเสื้อ ลากฉันออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันพยายามดึงตัวเองไว้ให้หยุดอยู่กับที่ แต่ทว่าไม่เป็นผล
เมื่อจะพ้นหน้าประตูตำหนักซานซาน ฉันใช้มือทั้งสองข้างเกาะประตูเอาไว้ เพื่อเหนี่ยวรั้งตัวเองไม่ให้ขยับ
“เจ้าปล่อยมือเดี๋ยวนี้!!” หวังเย่เสียงเข้ม
“ไม่!” ฉันยืนยันเสียงแข็ง ฉันไม่อยากตาย
“เจ้าจะปล่อยดี ๆ หรือจะให้ข้าใช้แส้ฟาดเจ้าอีกครา” หวังเย่พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เสกแส้ออกมาในมือ ง้างมือขึ้นจะฟาดฉัน มีหรือ ฉันจะไม่ปล่อยมือ ปล่อยโดยอัตโนมัติเลยล่ะ
เมื่อฉันปล่อยมือจากประตูตำหนักซานซาน หวังเย่ก็ดึงคอเสื้อของฉันเหาะไปยังแท่นประหาร อย่างไม่ทันตั้งตัว
“อ้ากกก หวังเย่ ท่านมันเป็นเทพเซียนที่ใจร้ายกับสตรีที่สวยมากและไม่มีทางสู้!! ฮือ” ฉันตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง จนหวังเย่ต้องเอามือข้างนึงมาปิดหูไว้
ฉันถูกหวังเย่พามายังตำหนักสวรรค์ แท่นประหาร เพื่อรับฟังคำตัดสินโทษอีกครั้ง ไหนท่านเทพแห่งโชคชะตาอะไรนั่นจะมาอีกสองวัน แต่นี่แค่วันเดียว ทำไมกลับมาเร็วนัก
ฉันนั่งคุกเข่าต่อหน้าท่านเทพแห่งโชคชะตา ก้มหน้าลง พร้อมที่จะโดนประหาร จบแล้วไม่มีการเกิดใหม่ มีแต่ดวงวิญญาณดับสูญ ฮือ
“หลินหลิน” เสียงเข้มของท่านเทพเรียกฉัน
“หือ” ฉันเลิกคิ้ว เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย จะประหารอยู่แล้วเรียกทำไม
“เมื่อวานข้าได้ปรึกษากับท่านเทพวารีแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบ”
“อย่างไร” ฉันถามออกไปดวยความอยากรู้
“เจ้าฟัง!!” หวังเย่เสียงเข้ม พร้อมกับกดหัวฉันลงหัวเกือบทิ่ม
ฉันหันไปมองตาละห้อย ฉันเป็นสตรีนะ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าอัปลักษณ์ก็เถอะ ฉันถอนหายใจเฮือกนึง พร้อมกับเงียบฟังเทพแห่งโชคชะตา ดูท่าน่าจะยาวเลย ม้วนกระดาษที่คร่ำครึนั้นยาวเป็นหางว่าว
“โลกที่เจ้าเขียนนั้นเป็นโลกจริง ทุกคนต่างมีชีวิต แต่กลับถูกเจ้าแก้ไขจนโลกกลับตาลปัตร บนสวรรค์มีแต่เสียงก่นด่าสาปแช่งจากมนุษย์บนพื้นโลก เพราะบนโลกมีแต่ความวุ่นวาย เดิมทีซานซานต้องรักกับจื่อรุ่ย แต่เจ้ากลับให้ซานซานหลานของข้าไปปักใจรักจื้อหง นางถึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย ด้วยเหตุนี้ชะตากรรมของนางกลับไม่เป็นไปตามสมุดชะตาชีวิต ดวงวิญญาณจึงหายสาปสูญไป ความผิดอีกหนึ่งประการคือเจ้าสร้างบุคคลที่ไม่มีตัวตนขึ้นมา คือตัวร้ายของเจ้า เจ้าคงใช้คำว่า คนร้ายปริศนา นั่นเจ้ากำหนดตัวตนไม่ชัดเจน ทำให้โลกมีแต่ความโกลาหลเกิดขึ้น ฉะนั้นข้าจะให้เจ้าลงไปยังโลกมนุษย์ในร่างของหลินซานซานหลานของข้า มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในการแก้ไขโลกให้กลับมาดังเดิม
1.เจ้าต้องให้จื่อรุยรักกับหลินซานซาน แต่เจ้าห้ามรักคนในโลกนี้
2.เจ้าห้ามให้คนที่มีชื่อในสมุดตายเพราะคนร้ายที่เจ้าสร้างขึ้นมา
3.เจ้ามีโอกาส 1 ครั้ง ในการคืนชีพให้คนในโลกนี้
4 .เจ้าต้องตามหาคนร้ายปริศนา ที่เจ้าสร้างมาให้เจอ แล้วจบชีวิตด้วยการสังหารเท่านั้น โลกถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ต่อด้วยตามหาวิญญาณหลินซานซานที่สลายหายไปให้พบ หากเจ้าทำไม่ได้ต้องติดคุกสวรรค์ 70000 ปี ” ท่านเทพร่ายยาว โอ้ ความผิดครั้งนี้ช่างหนักหนา -0-
“แล้ววิญญาณที่ดับสูญไปจะหาเจอได้อย่างไรล่ะท่าน” ฉันถามด้วยความสงสัย นั่นมันไม่มีทางตามหาเจอแล้ว ทำไมท่านเทพกลับมาให้ตามหาอีก
“นั่นมันเรื่องของเจ้า ที่ต้องตามหาให้พบ!” ท่านเทพเสียงเข้ม
O[]O <<< สีหน้าของฉัน
แบบนี้คือการโยนขี้ให้ฉันชัด ๆ
“เช่นนั้นท่านก็ให้ข้าจำคุกสวรรค์7หมื่นปีเถิด” ต่อให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดฉันยอม ดีกว่าไปตามหาซานซานที่ดวงวิญญาณแตกดับ เท่ากับจับปลาด้วยช้อน งมก้อนเมฆในมหาสมุทร ซึ่งไม่มีโอกาสเลย ไม่มีเลยเจ้าค่ะT^T
“มิได้!!!” ท่านเทพตวาดเสียงดังลั่น
นั่นแล้วจะพูดทำไมมมม ! นี่เท่ากับว่าฉันไม่มีทางเลือกตั้งแต่แรกสินะ ฮึกๆๆ หลินหลิน เป็นเพราะฉันชอบไปเตะฝุ่น เตะหมาอยู่ข้างถนนใช่ไหม โลกถึงใจร้ายกับฉันเช่นนี้
“ละ แล้วเรื่องที่ท่านให้ข้าไปสังหารคนนี่คือผู้ใดรึท่าน” ฉันถามด้วยความสงสัยอีกรอบ หากฉันฆ่าผิดคนขึ้นมาท่านเทพคงจะบันดาลโทสะ จับฉันขังคุกสวรรค์แน่ ๆ
“ผู้นั้นเจ้าสร้างขึ้นมามิใช่หรือ เหตุใดเจ้ากลับไม่รู้” ท่านเทพย้อนถาม
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงอะ ในเรื่องที่ฉันสร้าง ฉันระบุแค่ว่าคนร้ายปริศนา ไม่มีชื่อ ไม่มีตัวตนที่ชัดเจน มันเป็นตัวยังไงฉันยังไม่รู้เลย เดิมทีในสมุดไม่มีตัวละครร้ายฉันจึงสร้างขึ้นมา แล้วดูผลที่ได้ สร้างเองแต่กลับไม่รู้เรื่อง =_=
“ขะ ข้าจะทำให้เต็มที่เจ้าค่ะ ท่านเทพ” ฉันผงกหัว รับปากท่านเทพ เมื่อเห็นใบหน้าที่เรียบตึงของท่าน อ้ากกกก หากทำไม่ได้ตายแน่
“งั้นข้าจะย้อนเวลาไป ก่อนที่ซานซานจะหายไป” ท่านเทพพูดพร้อมกับร่ายคาถา
“หากท่านย้อนเวลาได้เหตุใดท่านไม่ย้อนเวลาไปก่อนที่จะเกิดเหตุล่ะ หรือย้อนไปตอนที่หลินซานซานเกิดเป็นมนุษย์เลยก็ได้” ฉันถาม(อีกครั้ง) เพราะความอยากรู้ ท่านเทพชะงัก
โป๊ก ! =[]=
หวังเย่สับมะเหงกเข้าให้
“เจ้ามีความคิดบ้างหรือไม่หลินหลิน หากทำได้คงไม่ต้องให้เจ้าลงไปยังโลกมนุษย์”
“งะ งั้นเพราะเหตุใด” ฉันถามเพราะไม้รู้จริง ๆ
-_- <<<< สีหน้าหวังเย่ ใบหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับง้างมือเตรียมจะสับมะเหงกอีกรอบนึง
“อ้ากกก ท่านเทพช่วยข้าด้วย ข้าไม่รู้จริง ๆ ข้าไม่ใช่คนบนสวรรค์ ข้าคือมนุษย์”
อีตาเทพเซียนที่ชื่อว่าหวังเย่ เอะอะก็จะโขก จะสับ จะตี จะฟาดอย่างเดียวเลย ฮึ่มมม แบบนี้ในอนาคตจะมีสตรีนางใดหลงรักบ้างเนี่ย