สมสมรนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น ที่นั่งด้านข้างมีเนตร-นภาลูกสะใภ้นั่งเลือกดูชุดเครื่องเพชรที่กำลังสั่งซื้อผ่านมือถือที่ทางร้านส่งแบบมาให้ดู และอีกคนหนึ่งที่คือคฑาเทพที่นั่งจิบชาอยู่บนโซฟาอีกตัว ทั้งสามหันไปมองประตูห้องที่เปิดออก ร่างพลอยพรรณก้าวเดินเข้ามาด้านใน
“ว่าไง ได้เรื่องไหม ทางนั้นตกลงตามเงื่อนไขหรือเปล่า”
คฑาเทพถามลูกสาวที่วันนี้ไปตกลงเรื่องสัญญาตัวใหม่
“เรียบร้อยดีค่ะคุณพ่อ คุณอเนกตกลงตามเงื่อนไขของเราค่ะ” พลอยพรรณที่เวลานี้เข้ามาดูแลกิจการของครอบครัวเกือบเต็มตัวบอกบิดา
“หลานย่าเก่งที่สุดเลยลูก” สมสมรชมหลานสาวสุดที่รัก นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ภูมิใจในตัวพลอยพรรณแบบสุดๆ “ว่าแต่เรื่องที่ดินล่ะ คุณอเนกว่าไง”
นอกจากตระกูลรัตนะเรืองจะมีธุรกิจหลายอย่างในมือ ยังมีที่ดินราคาดีอีกหลายผืนที่เก็บไว้เก็งกำไร ที่เด็ดๆ ในมือก็มีแถวสาธร จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่และนครราชสีมา
“พูดถึงเรื่องนี้แล้วหงุดหงิด” หน้าตาพลอยพรรณบึ้งตึงทันที
“ทำไมล่ะพลอย เขาไม่สนใจหรอ หรือว่าต่อราคามากไป แล้วเขาสนใจที่ดินที่ไหนล่ะ” เนตรนภาถามทีเดียวหลายคำถาม
“พลอยเอาโฉนดที่ดินให้คุณอเนกดูหลายที่ค่ะ แต่ที่ดินที่คุณอเนกสนใจคือที่เกาะลันตาค่ะ เขาบอกว่าทำเลดีเหมาะกับการทำรีสอร์ทหรือไม่ก็โรงแรม” พลอยพรรณตอบ
“ก็ดีน่ะสิ อย่างนี้ก็ขายได้ราคา” สมสมรเอ่ยขึ้น
“ขายได้ราคาแน่นอนค่ะ เนาะๆ ก็แปดสิบล้าน” คนฟังถึงกับตาโต
“แล้วมีปัญหาตรงไหนล่ะ” คนเป็นพ่อถาม
“ปัญหาก็คือที่ดินผืนนั้นคุณปู่ยกให้นังหมิวน่ะสิคะ ที่ดินผืนอื่นมีไม่เลือก ดันไปเลือกที่ดินผืนนี้”
ความเกลียดชังที่ทุกคนมีต่อพรนับพันสะสมมานานตั้งแต่เธออายุได้หกเดือน ในวันที่ศักดิ์ชัยกับครอบครัวเจอพรนับพันครั้งแรกในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า วันนั้นครอบครัวรัตนะเรืองไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดศักดิ์ชัยด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้า ศักดิ์ชัยเห็นพรนับพันครั้งแรกก็ถูกชะตามากจนถึงขั้นทำเรื่องรับเลี้ยงเด็กน้อยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และบังคับให้คฑาเทพกับเนตรนภารับพรนับพันเป็นลูกบุญธรรม หากไม่ทำตามที่ศักดิ์ชัยบอก เขาจะรับพรนับพันเป็นลูกบุญธรรมเอง
คฑาเทพไม่มีทางเลือกจำต้องทำตามที่คนเป็นพ่อบังคับ เพราะหากให้พรนับพันเป็นลูกบุญธรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายของบิดา ทรัพย์สมบัติที่ควรจะเป็นของเขาคนเดียวจะต้องแบ่งให้พรนับพันด้วย และไม่เพียงคฑาเทพไม่พอใจ สมสมรก็ไม่พอใจเช่นกันที่สามีเผด็จการบังคับให้ทำในเรื่องที่ไม่เต็มใจ ทว่านางก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับลูกชายคือ ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอม
พรนับพันถูกเลี้ยงดูด้วยความรักจากศักดิ์ชัย แต่กลับคนอื่นเธอถูกเลี้ยงด้วยความชิงชัง ไม่ชอบหน้า ลับหลังศักดิ์ชัยก็จะถูกตี ถูกดุด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง และในอีกสองปีต่อมาเนตรนภาได้ให้กำเนิดพลอยพรรณ ทายาทโดยสายเลือดของตระกูลรัตนะเรือง
พลอยพรรณเปรียบเสมือนเจ้าหญิงของทุกคนในบ้าน เธอได้รับความรัก ความเอาในใส่ดูแลจากสมาชิกในครอบครัว แม้กระทั่งศักดิ์ชัยก็ยังเอนเอียงไปรักหลานสาวในไส้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทว่าศักดิ์ชัยก็ไม่ได้ทอดทิ้งพรนับพันเสียทีเดียว ยังโอบอุ้มดูแลเสมอ และปกป้องให้เธอรอดพ้นจากเงื้อมมือคนใจร้าย
จุดเปลี่ยนของพรนับพันคือ ศักดิ์ชัยล้มป่วยเป็นอัมพาตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คราวนี้จึงเป็นทีของสมสมรบ้าง นางลดสถานะของพรนับพันเป็นคนอาศัย ใช้งานเยี่ยงกับทาส ห้องนอนที่เคยให้นอนชั้นบนของบ้านก็ให้ไปอยู่เรือนคนใช้ โรงเรียนที่เคยเรียนที่เดียวกับพลอยพรรณก็ให้ย้ายออกไปเรียนโรงเรียนวัด เสื้อผ้าที่เคยมีใส่สวยๆ ราคาแพง สมสมรสั่งให้คนรับใช้เอาไปทิ้งแล้วซื้อเสื้อผ้าราคาถูกให้ใส่แทน ส่วนเงินที่ศักดิ์ชัยโอนใส่ไว้ในบัญชี สมสมรก็บังคับให้พรนับพันไปถอนออกมาให้หมด แล้วให้เงินเดือนใช้เดือนละหนึ่งพันบาท พรนับพันไม่มีปากมีเสียงกับคนในบ้าน ยอมให้โขกสับต่างๆ นานา เธออยู่อย่างเจียมตัว อยู่อย่างอดทนเพื่อจะได้ดูแลศักดิ์ชัย ผู้มีพระคุณของตน
ห้าปีที่ศักดิ์ชัยป่วยเป็นอัมพาต เขารักษาตัวอย่างต่อเนื่องและได้รับการดูแลอย่างดีจากพรนับพัน และพยาบาลที่จ้างมาดูแลเป็นพิเศษ ต่างกับสมสมร คฑาเทพ เนตรนภาพลอยพรรณที่น้อยครั้งนักจะเข้ามาดูแลเขา โดยเฉพาะพลอยพรรณที่ไม่คิดจะเข้ามาเยี่ยมคนเป็นปู่ หากเข้ามาก็แสดงความรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ แม้แต่ตอนที่ศักดิ์ชัยขับถ่ายต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ พลอยพรรณปฏิเสธทันควันที่จะเปลี่ยนให้ เธอเรียกพรนับพันให้มาจัดการ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องแค่นี้พรนับพันทำได้สบายมาก
อีกสองปีต่อมาศักดิ์ชัยสามารถขยับแขนขา และพูดได้แต่ไม่ถึงกับพูดคล่อง ในวันที่สมสมร คฑาเทพ เนตรนภาและพลอยพรรณเดินทางไปเที่ยวยุโรป เขาได้เรียกให้เอกชัย ทนายประจำตัวให้มาเขียนพินัยกรรมใหม่ โดยที่ภรรยาและลูกชายไม่รู้ ศักดิ์ชัยที่รู้นิสัยคนในบ้านดีแจ้งความประสงค์กับทนายความไว้ว่า หากเขาเสียชีวิตลงในวันใด นับไปอีกสิบปีคือวันที่เปิดพินัยกรรม ถือเป็นการแก้เผ็ดคนในครอบครัวที่ไม่ในใยดีตน