Meeting again ( การพบกันอีกครั้ง )#1

1435 Words
อิซาเบลล่า หรือที่แด๊ดชอบเรียกเธอว่า เบลล่า ตอนนี้กำลังนั่งวาดภาพทิวทัศน์อยู่ แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์จากด้านนอก เธอจึงวางพู่กันลงแล้วเอื้อมมือไปจับไม้ค้ำยัน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างเข้าร่วมการแข่งขันเมื่อคืนที่ผ่านมา “รถใครคะเจสัน” เธอถามเสียงเบาขณะยืนอยู่ข้างพ่อบ้านผู้เฉยชา พร้อมกับมองดูรถสปอร์ตคนใหม่สีเงิน เจสันกำลังเซ็นเอกสารรับรถ “ใครส่งพากานี ฮิวไอร่ามาที่นี่คะ” อิซาเบลล่าถามออกมา “นายท่านเป็นคนสั่งมาครับ” พ่อบ้านเจสันตอบอย่างระมัดระวังขณะที่เขาช่วยเธอกลับเข้าไปข้างใน อิซาเบลล่าหยุดเดินกะทันหันและปฏิเสธที่จะขยับตัวจากที่ที่เธอยืนมองมาที่เจสันด้วยสายตาเย็นยะเยือก “นี่เขาไม่ยอมทำตามที่ฉันขอเหรอ” เธอถามด้วยความโกรธ เธอยื่นมือออกมา “เอากุญแจมาให้ฉันเจสัน! ฉันจะทำลายขยะชิ้นนั้นเดี๋ยวนี้!” “นายหญิงอย่ากดดันตัวเองนักเลยครับ” เจสันพูดอย่างใจเย็น “คุณยังคงไม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ นายท่านอารมณ์เสียมากเมื่อผมบอกเขาเกี่ยวกับอุบัติเหตุของคุณ” เจสันพยายามหว่านล้อมเพื่อให้หญิงสาวใจเย็นขึ้น “แล้วไง? …เขาเลยชดเชยด้วยการซื้อรถใหม่เหรอ…หึ” เธอถามอย่างไม่พอใจพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น “โทรหาเขาเดียวนี้เจสัน ฉันจะบอกความต้องการของฉันแก่เขา ฉันต้องการพูดกับเขา!” เธอค่อย ๆ พาตัวเองกลับไปที่ห้องวาดภาพของเธอและนั่งบนโซฟาอย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกโกรธเคือง นึกสาปแช่งแด๊ดของเธอเกี่ยวกับการแต่งงานที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี และตอนนั้นคำพูดของแด๊ดทำให้เธอตกตะลึง เขาบอกกับเธอว่าเธอจะต้องแต่งงานกับลูกชายของนายจ้างของเขา ซึ่งก็คือ แอชเชอร์ แคมป์เบลล์ ผู้ชายร้ายกาจที่เธอเกลียดมากคนนั้น ห้าปีที่แล้ว ‘หนูอายุแค่สิบเจ็ดนะแด๊ด!’ เธอตะโกนอย่างโกรธจัด ‘ทำไมแด๊ดถึงผลักดันการแต่งงานครั้งนี้ หนูไม่แม้แต่จะรู้จักผู้ชายคนนั้น! นี่เป็นการแสดงความภักดีต่อนายจ้างของแด๊ดหรือเพื่ออะไรคะ? มีคนอื่นบงการ!?’ เธอพยายามเค้นเอาคำตอบจากแด๊ดของเธอ ‘แด๊ดมีเหตุผลนะเบลล่า’ แด๊ดของเธอพูดอย่างใจเย็น ‘เมื่อลูกโตพอ ลูกจะรู้ ได้โปรดเชื่อแด๊ดในเรื่องนี้ แด๊ดรู้ว่าแอชเชอร์เป็นคนดีและเขาจะปฏิบัติต่อลูกอย่างดี คุณท่านกับครอบครัวของเขาจะเล่าเหตุผลของการแต่งงานครั้งนี้ให้ฟังเมื่อถึงเวลา มันเป็นประโยชน์แก่พวกเขาเช่นเดียวกับเรา’ อิซาเบลล่าไม่เคยทำให้แด๊ดของเธอผิดหวังตลอดชีวิตของเธอ ยกเว้นครั้งนี้ครั้งเดียว หญิงสาวหนีไปอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอ เธอหลับตาและระลึกถึงคำพูดที่เธอได้รับจากเขา แต่เธอก็ตัดสินใจกลับมาบ้านในที่สุดเพราะเธอรักแด๊ดของเธอมากจนไม่อาจทำให้เขาผิดหวังได้ ปัจจุบัน “เขารับสายของคุณหรือเปล่าคะเจสัน” เธอถามเมื่อเห็นพ่อบ้านเดินเข้ามาในไม่ถึงสองชั่วโมงต่อมา “…?” “นายท่านอาจจะกำลังประชุมอยู่ที่ไหนสักแห่งครับนายหญิง” เจสันตอบอย่างเป็นทางการ “ผมเพิ่งได้รับสายจากเลขาของเขาและเธอบอกว่า นายท่านให้ส่งเอกสารทั้งหมดไปให้ที่อะพาร์ตเมนต์ของเขาแล้วครับ' “งั้นก็โทรไปที่เบอร์มือถือของเขา” เธอยืนกรานขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วมองมาที่เจสันอย่างกดดัน พร้อมบอกให้เจสันกดหมายเลข “จะได้ประหยัดเวลา” ในที่สุดเจสันก็กดโทรออก เธอรอให้เขารับสาย อิซาเบลล่าเปิดปากของเธอเพื่อเริ่มต้น แต่เป็นอันต้องหยุดนิ่งกับสิ่งที่เธอได้ยินจากปลายสาย “โอ้…ที่รัก ให้ตายเถอะ ดีมากเลย…อ๊า!” เสียงผู้หญิงที่กำลังคร่ำครวญ กับเสียงหอบหายใจของผู้ชายตอบโต้กันอยู่ เธอรู้ว่านั่นเป็นเสียงของแอชเชอร์ อิซาเบลล่ารู้ดีว่าเสียงนั้นคืออะไร เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นก่อนกระแทกโทรศัพท์ลงพื้นอย่างหัวเสีย ความททรงจำในตอนนั้นหวนคืนกลับมาเธออกหักจากคู่เดตที่ดันไปมีเซ็กส์กับเพื่อนสนิทของเธอเอง และเธอเห็นกับตาว่าพวกเขานั้นมีความสุขกันมากเพียงใด และนั่นทำให้เธอกลับบ้านที่หนีออกมา หญิงสาวทนไม่โต้เถียงกับคำสอนอันยาวนานของท่าน เธอรู้สึกผิดเพราะถึงจะเป็นลูกที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง แต่พอเวลาที่เธอมีปัญหา แด๊ดของเธอจะรับฟังเธออย่างเต็มใจ ทุกสิ่งได้รับการอภัยและถูกลืม เพื่อชดเชยความผิดพลาดเหล่านั้น ในที่สุดเธอก็ตกลงแต่งงานกับลูกชายของครอบครัวแคมป์เบลล์ เธอรอเขาอย่างประหม่าวันนั้นเป็นวันที่โหดร้ายที่สุด เธอสวมชุดสีขาวเรียบ ๆ ฟุ้ง ๆ ประดับด้วยลูกไม้ซึ่งเป็นชุดของมัม เธอนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่เธออาศัยอยู่ เธอมองเห็นผู้ชายที่พวกเขาเรียกว่าแอชเชอร์ก้าวเข้ามาหาเธอด้วยความโกรธ และยืนข้างเธอขณะบาทหลวงกำลังทำพิธีแต่งงาน เธอจำรูปลักษณ์ในดวงตาสีเทาเข้มของเขาได้ สามีของเธอเกลียดเธอ นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเขา หลังจากแต่งงานแล้วเขาก็กลับไปทันทีทั้ง ๆ ที่ครอบครัวของเขาขอร้องให้เขาอยู่ต่อที่นี่อีกหนึ่งเดือน แต่เขาก็ไม่สนใจคำทัดทานของใคร การเป็นนางอิซาเบลล่า แคมป์เบลล์ ทำให้เธอต้องขออนุญาตเขาเรื่องเรียนต่อ เธอต้องรอสักพักกว่าเขาจะอนุมัติคำขอเรื่องการศึกษาต่อของเธอ แต่ต้องขอบคุณแด๊ดของเธอที่ไม่เคยทิ้งเธอไปไหน เธอสามารถจบมัธยมปลายได้ทันเวลา แม้จะผ่านความยากลำบากมาก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าเธอถูกทรยศโดยมาร์คผู้ชายที่เธอเคยเดตด้วยและเพื่อนสนิทของเธอ ทั้งโรงเรียนที่รู้เรื่องนี้พากันหัวเราะเยาะเธอ เธอกลายมาเป็นตัวตลก โดนคำพูดเหยียดหยามจากเพื่อนในโรงเรียน ‘เพราะยัยเบลล่าดันจนไม่เจียมน่ะสิ’ ‘น่าอายชะมัดที่มีลูกสาวแบบนี้ เป็นฉันคงกัดลิ้นให้ตัวเองตายไปแล้วล่ะ’ อิซาเบลล่าทนทุกอย่าง ไม่เคยบอกแด๊ดของเธอและคนอื่นถึงความเจ็บปวดทางอารมณ์ จิตใจ เธอเก็บมันไว้คนเดียวเรื่อยมา หลังจากที่เธอเรียนจบ เธอเข้าเรียนในวิทยาลัยที่ใกล้บ้านที่สุด โดยเลือกเรียนสาขาการออกแบบตกแต่งภายใน เธอคิดว่าปัญหาทุกอย่างหมดลงไปแล้ว แต่เหมือนระเบิดรอบสองกำลังเกิดขึ้น เมื่อแด๊ดของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 4 และเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่เดือน เพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อิซาเบลล่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดเรียน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดใช้หนี้ของแด๊ดทั้งหมด มันทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโทรหาสามีและอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากเขา สามีของเธอโอนเงินที่เหลือให้เธอทันที พร้อมบอกเธอว่าอย่าโทรหาเขาอีก แต่เธอโทรหาเขาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสองสามเดือนเพื่อถามว่าเธอสามารถเรียนหลักสูตรต่อไปได้หรือไม่ หลังจากขอร้องเขาหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ตกลงว่าจะให้เธอเรียนออนไลน์ และเธอก็สามารถเรียนจบทั้งที่มันไม่ง่ายเลย เธอไม่มีใครคอยให้คำปรึกษา ช่วยชี้แนะหรือระบายเวลาคิดมาก และนั่นทำให้เธอเลือกจะเอารถสปอร์ตของเขาไปแข่ง เพราะเธอเติบโตมากับแด๊ดที่ชำนาญเรื่องการแข่งรถ เขาเป็นอดีตนักแข๋งของทีมแคมป์เบลล เรสซิ่งด้วย มันทำให้เธอซึมซับและชมชอบความเร็ว อิซาเบลล่ารู้ดีว่าการลงแข่งของเธออาจก่อปัญหาให้สามี แต่นั่นล่ะถ้าเธอไม่แข่งก็ไม่มีอะไรทำให้คลายเครียดได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD