“นี่เป็นการนำเสนอที่น่าทึ่งและยอดเยี่ยมมากสาวน้อย คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างหาตัวจับยาก” คาร์สันกล่าวชมอย่างจริงใจ คำชมของเขาทำให้อิซาเบลล่ายิ้มอย่างมีความสุข
“เธอทำงานหนักมากค่ะท่านกับโปรเจ็คนี้” เอรินากล่าวเสริม
“ผมรู้” คาร์สันตอบ “ในส่วนของการปรับปรุงห้องของหลานสาวฉัน เมื่อไหร่ฉันจะได้รับแบบงานนี้”
เห็นอิซาเบลล่าดูเป็นกังวลและเขารู้ว่าทำไม
“ถ้าภายในสองอาทิตย์จะไม่เป็นไรใช่ไหมครับคุณลูอิส” แอชเชอร์ถามอย่างนอบน้อม
“ได้ ไม่มีปัญหา” คุณคาร์สันตอบตกลง “พอลล่าจะเข้ารับการรักษาอีกสองสามวันที่จะถึงนี้ การให้สิ่งนี้กับเธอเมื่อกลับมาจากโรงพยาบาลจะเป็นการเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เธอมีความสุข เธอพูดถึงคุณบ่อยมากนะคุณปาร์คเกอร์”
อิซาเบลล่ามองดูคุณคาร์สันและยิ้ม “เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากค่ะ” เธอพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“เธอรอคอยที่จะได้พบคุณอีกครั้ง” เขายืนยัน “ขอโทษที่ถามว่าเบลล่าคือชื่อเต็มของคุณไหม ฉันสังเกตเห็นในการนำเสนอว่าคุณมีชื่อย่อสามตัว”
“เบลล่าเป็นชื่อเล่นของฉันค่ะ” เธอตอบอย่างใจเย็น “ชื่อเต็มของฉันคือ อิซาเบลล่า สโนว์ ปาร์คเกอร์”
คุณคาร์สันทำหน้าตกใจทันทีหลังจากได้ยิน
“พูดอีกครั้งได้ไหม!?” คุณคาร์สันถามช้า ๆ ตกใจอย่างเห็นได้ชัดในน้ำเสียงของเขา
แอชเชอร์มองดูคุณคาร์สันที่กำมือแน่น มองดูอิซาเบลล่าด้วยสีหน้าจริงจังมากขึ้น ราวกับพึ่งเห็นเธอเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอบอกชื่อเต็ม “สโนว์!?” คุณคาร์สันทวนซ้ำ ๆ เขาถามขึ้นมาทำลายความเงียบ “ทำไม สโนว์ แล้วมันเป็นชื่อที่สองของคุณใช่มั้ย มันมีความหมายอะไรหรือเปล่า?”
อิซาเบลล่าพยักหน้าขณะที่เธอดูเศร้าขึ้นมา
“ใช่ค่ะ” เธอตอบ “มัมของฉันตั้งชื่อนั้นให้ฉันเพราะวันที่ฉันเกิดเป็นวันแรกที่หิมะตกครั้งแรกในรอบปีค่ะ”
……
“ท่านครับ คุณแดนมาแล้วครับ”
คาร์สัน ลูอิสเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะหลังจากที่เลขาของเขาแจ้งการมาถึงของบุคคลที่เขากำลังรอ เขาเพิ่งกลับจากรับประทานอาหารกลางวันกับแอชเชอร์ และเขาต้องการหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังรบกวนจิตใจของเขาอยู่ตอนนี้
“เป็นยังไงบ้างคาร์สัน” แดนเพื่อนเก่าแก่ของเขาถามขณะจับมือกัน
“ฉันสบายดี แล้วนายล่ะแดน”
“หลานทำให้ฉันดูหนุ่มขึ้น” แดนตอบด้วยรอยยิ้มขณะนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะ “นี่มันเรื่องอะไรกัน เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าคุณพูดว่ามีเรื่องเร่งด่วน”
คาร์สันเอนหลังพิงเก้าอี้และจ้องไปที่เพื่อนของเขาซึ่งเป็นนักสืบเอกชนที่รู้จักกันดีและตอนนี้เกษียณแล้ว
“นายเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจเรื่องนี้ได้แดน” เขาเริ่มพูดอย่างใจเย็น “ฉันต้องการให้ตรวจสอบภูมิหลังของเธอคนนี้”
“คุณหมายถึงทุก ๆ เรื่อง?” แดนกล่าวเสริม
“ใช่!”
“มันคงสำคัญมากสินะคุณถึงดูกังวลขนาดนี้”
คาร์สันพยักหน้า “ใช่ เพราะฉันคิดว่าเจอลูกสาวที่หายไป...” เขาบอกพร้อมมองไปที่แดนที่ยังมีสีหน้าตกใจ “มันอาจจะฟังดูบ้านะ แต่ฉันรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่พบหน้าเธอครั้งแรก และทันทีที่ได้รู้ชื่อเต็มของเธอ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าใช่ เลยอยากจะรู้”
“คาร์สันจำไม่ได้เหรอ?” แดนถามช้าๆ “เราเคยตามและเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย”
“ฉันรู้” คาร์สันตอบและเขาก็ส่ายหัวเมื่อความทรงจำเหล่านั้นกลับมา “แต่ถ้านี้คือโชคชะตาล่ะ มันเริ่มที่จะตอบแทนคนที่ฉันรักที่สุดกลับคืนมา เซสซามีนคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน คุณเห็นว่าฉันเป็นอย่างไรเมื่อฉันสูญเสียเธอไป”
แดนมองเพื่อนของเขาครู่หนึ่ง
“ก็ได้ ฉันจะลองดูว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง” ในที่สุดเขาก็ให้สัญญา “เธอชื่ออะไร?"
“อิซาเบลล่า สโนว์ ปาร์คเกอร์”
……
อิซาเบลล่าจ้องมองตัวเองในกระจก สงสัยว่าผู้หญิงในกระจกก็กำลังมองกลับมาที่เธอเช่นกัน ค่ำคืนแห่งการจัดงานที่ Inner Of Arts Museum ก็มาถึง เธอใส่ชุดที่มากาเร็ตเอามาให้
ชุดเป็นทรงสไตล์นางเงือกสายสปาเกตตี้สีไวน์แดงที่ช่วยเสริมรูปร่างทรงนาฬิกาทรายของเธอได้เป็นอย่างดี ชุดเข้ากับสีผิวได้ดีเสริมให้เธอดูเปล่งประกาย ผิวเรียบเนียนสมบูรณ์แบบอวดโชว์ได้อย่างสวยงาม ชุดท่อนบนโอบรับกับช่วงอกได้พอดี ทั้งยังรับกับสะโพกได้อย่างลงตัว
“คุณไม่คิดว่ามันทำให้ฉันดูเตี้ยลงไปเหรอคะ?” เธอถามอย่างไม่แน่ใจขณะหมุนร่างของเธอไปมาอยู่หน้ากระจก
“เบลล่าความสูงของเธอพอดีแล้ว” มากาเร็ตตอบเบาๆ ขณะที่เธอก้าวถอยหลัง และมองสำรวจอิซาเบลล่า
“เธอใส่แล้วสวยมาก ใครบางคนจะฆ่าฉันคืนนี้เมื่อเขาเห็นเธอใส่ชุดนี้” มากาเร็ตพึมพำเมื่อนึกถึงใบหน้าถมึงทึงของแอชเชอร์
“คุณหมายถึงอะไรคะ” อิซาเบลล่าถาม
มากาเร็ตส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“อย่ามาสนใจกับคำพูดของฉันเลย” เธอพูดแทน “ใส่รองเท้าก่อน ดีนะที่เลือกคู่นี้มาเธอจะได้ใส่สบายขึ้น”
อิซาเบลล่าสวมรองเท้าและสร้อยคอที่มัมมอบให้ เธอชอบมันมากเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กจนถึงตอนนี้ เธอเคยจับมันไว้ในมือขณะที่เธอเข้านอนเวลาที่เธอคิดถึงมัม เธอมองไปที่ตัวเองในกระจกมองดูรูปร่างหน้าตาตัวเอง เธอกล่าวขอบคุณอย่างเงียบๆ ที่แอชเชอร์ยืนกรานที่จะซื้อชุดเดรสให้เธอในขณะที่เธอเปรียบเทียบกับชุดที่เธอคิดว่าจะใส่ มันสวยต่างกันมาก เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
“คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปเหรอคะ” เธอถามมากาเร็ตอีกครั้ง “ฉันไม่ได้แต่งตัวเยอะเกินไปใช่ไหม”
มากาเร็ตหัวเราะเมื่อเธอเปิดประตูห้องนอนและเรียกเทย่า
“เธอถามว่าเธอแต่งตัวเยอะเกินไปหรือเปล่า” มากาเร็ตหัวเราะ
เทย่าเข้ามาและมองเธอด้วยรอยยิ้ม อิซาเบลล่ามองเทย่าที่อยู่ในชุดเดรสสีน้ำตาลผ้าชีฟองและต่างหูแบบหนีบ “เธอดูสวยมากเบลล่า” เธอให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา “ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเจมส์จะไม่มองเธอมากกว่าหนึ่งวินาที”
“และหยุดคิดว่าเธอแต่งตัวเยอะเกินไปเพราะนั่นไม่ใช่เลย เธอจะสวยเด่นกว่าผู้หญิงทุกคนในงานเบลล่า” เทย่าพูดต่อ “นี่มันเป็นงานใหญ่แห่งปี และทุกคนรอคอยที่จะได้รับเชิญมาโดยตลอด”