"อีโซดา มึงจะเสร็จหรือยังเนี่ย!?"
เสียงตะโกนเร่งเร้าดังมาจากเพื่อนสนิทที่กำลังยืนรออยู่ชั้นล่าง มือเรียวเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าสวย ก่อนจะพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหนัก พลางวางของในมือลงพื้น เพื่อที่จะได้เดินไปตอบเพื่อนหน้าระเบียงห้อง
“ถ้ารีบมาก มึงก็ถ่อสังขารไปก่อนเลยไป!"
"นี่กูรอมึงจนหน้ากูจะกลายเป็นเมือกหอยทากแล้วนะ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปฝากงานให้มึง กูจะไม่เร่งมึงเลย!" มันพูดพลางใช้นิ้วเรียวปาดรองพื้นราคาแพงบนใบหน้าตัวเอง ให้เธอดูว่ามันกำลังเหนื่อยหนักกับการรอคอย
"แหม บุญคุณเหลือล้น ทีหลังมึงก็บอกกูก่อน ว่าจะมายืนเสนอหน้าเฉยๆ ไม่ได้ตามมาช่วยยกของขึ้นห้อง กูจะได้ให้คนอื่นมาช่วยแทน!"
"หยุดบ่นค่ะซิส ถ้าขืนกูปล่อยให้มึงตามคนมาช่วย ผู้ชายคงเดินว่อนเต็มหอพักกันพอดี เพราะฉะนั้นยกของคนเดียวไปเลยค่ะ ตัดปัญหาเรื่องรถไฟชนกัน เพราะกูปวดหัว เข้าใจไหมคะ กู ปวด หัว!" อีแซนเน้นทุกคำพูด
"ถ้ามึงปวดหัว งั้นกูไม่จงไม่จัดแม่งแล้ว ค่อยกลับมาเคลียร์ทีหลัง"
"เพิ่งจะคิดได้เนอะ!" อีแซนยืนเท้าสะเอวพลางเชิดหน้าหมวยออกจีนของมัน เสมือนว่าที่ผ่านมาเธอเป็นคนผิด ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนสนิท ป่านนี้เธอกระโดดถีบยอดหน้ามันไปนานแล้ว ไม่ช่วยแถมยังจะมายืนบ่นอีก
'โซดา' สาวสวยสุดฮอตที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพเป็นวันแรก เนื่องจากร้านสักมีปัญหา แต่จะบอกว่าเหตุผลหลักคือเหตุผลนี้ก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว ถ้าให้พูดตามหลักความเป็นจริงแบบไม่ต้องอ้อมค้อม
นั่นก็คือ เธอกำลังหนีปัญหาเรื่องผู้ชาย
ซึ่งมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย แต่เธอไม่อยากอยู่แก้ตัวกับคนที่ไม่ค่อยมีความสำคัญในชีวิต เลยตัดสินใจหอบข้าวของหนีมาเริ่มต้นใหม่เลยดีกว่า ถึงจะดูเป็นคนชอบหนีปัญหา ซึ่งก็ใช่ เธอเป็นคนอย่างนั้นนั่นแหละ…
ผับชื่อดังใจกลางกรุงเทพ
เเสงสีเสียงในยามค่ำคืนมันดีต่อใจสายแซ่บอย่างเราว่าไหม นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เธอเลือกจะมาทำงานเป็นดีเจในผับแห่งนี้
"เสี่ยคะ นี่เพื่อนสนิทของหนู ชื่อโซดา”
“คนที่จะมาสมัครเป็นดีเจใช่ไหม?”
“ใช่เลยค่ะเสี่ย เออนี่มึง คนนี้คือเสี่ยซง”
"สวัสดีค่ะเสี่ย"
มือเล็กยกขึ้นไหว้ผู้ชายสูงวัยตรงหน้า ถึงเสี่ยซงจะอายุเยอะแล้ว แต่ใบหน้าคมเข้ม บวกกับการแต่งตัวที่ดูดีมีฐานะ ทำให้เสี่ยซงดูกลายเป็นคนมีภูมิฐานพอสมควร เพียงแค่เห็นแว๊บแรกก็รู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของผับแห่งนี้
"อืม สวัสดี เริ่มงานพรุ่งนี้นะหนู”
“ขอบคุณมากนะคะเสี่ย ที่รับหนูเข้าทำงาน”
เธอคลี่ยิ้มกว้างเมื่อตัวเองถูกรับเข้าทำงานอย่างง่ายดาย แทบจะไม่ต้องสัมภาษณ์หรือทดลองจัดเพลงอะไรเลย แค่แนะนำตัวกับเสี่ยซงแบบสั้นๆ ก็ได้งานทำแล้ว
"งั้นเดี๋ยวหนูพามันไปแนะนำตัวกับพี่ๆ ก่อนนะคะเสี่ย" อีแซนยิ้มให้เสี่ยซง ก่อนจะลากเธอไปหาพวกรุ่นพี่ที่เป็นนักดนตรีในผับ ซึ่งเธออัธยาศัยดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาเรื่องการผูกมิตร ซึ่งนั่นทำให้มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาสานสัมพันธ์กับเธอไม่ขาดสาย
[ห้องน้ำในผับ]
"กระแทกแรงๆ หน่อยสิ"
คนตัวเล็กท้วงให้ชายหนุ่มด้านหลังกระแทกกระทั้นเอวสอบให้แรงขึ้น แต่ดูทรงแล้วจะท่าดีทีเหลว หน้าตาหล่อใช่ว่าจะลีลาดีเสมอไป เธอไม่น่าเสียเวลามาถ่างขาให้คนไร้น้ำยาแบบนี้เอาเลย เสียดายถุงยางเปล่าๆ
"พอแล้ว หมดอารมณ์"
มือบอบบางดึงกางเกงในลายลูกไม้สีแดงสดขึ้นมาสวมใส่ แล้วชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ชายหนุ่มที่เริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นว่าเธอไม่เอ็นจอยกับเซ็กซ์
"ขะ ขอโทษ ขอแก้ตัวอีกครั้งนะ"
"ไม่เอาแล้ว เสียเวลา" เธอตัดบทเสียงเเข็ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำ ท่ามกลางสายตาผู้ชายนับสิบคนที่กำลังยืนทำภารกิจส่วนตัวอยู่ แต่ใครแคร์กันล่ะ ในเมื่อเหยื่อที่ล่ามันไม่เด็ด เสือสาวจะทนให้กินต่อเพื่ออะไร
"ไงมึง จัดเสร็จแล้วเหรอวะ?"
พอเดินกลับมาที่โต๊ะ อีแซนก็เอ่ยถาม
"ไม่ได้เรื่อง" เสียงห้าวเกินหญิงตอบกลับ พลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดด้วยความเซ็ง คืนนี้เธอคงชวดโอกาสในการล่าเหยื่อแหงๆ
สามชั่วโมงต่อมา
หลังจากแอลกอฮอล์สูบฉีดเข้าเส้นเลือดอย่างหนักหน่วง สติสตางค์อันน้อยนิดก็ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป และด้วยความที่อีแซนมันเป็นเพื่อนที่แสนดีที่สุดในชีวิตของเธอ มันเลยเรียกรถแท็กซี่ให้ขับมาส่งเพื่อนสนิทที่หอพัก ส่วนมันก็ไปเที่ยวกับผู้ชายต่อ
ไงล่ะ เพื่อนแท้ต้องทิ้งเพื่อนไปหาผู้ชายแบบนี้แหละ
ถึงจะเป็นเพื่อนทีดี! (ดีออก)
"ห้องกูอยู่ตรงไหนวะเนี่ย~"
ร่างอรชรเซ็กซี่ในชุดเดรสสีแดง เดินสะเปะสะปะไปตามทาง เพื่อไปยังห้องพักของตัวเอง ถึงสังขารในตอนนี้จะไม่เอื้ออำนวย แต่เธอก็คิดว่ามันไม่น่ายากเกินความสามารถ แค่จำเลขห้องให้ถูกต้องแค่นี้ ทำไมจะจำไม่ได้
"303 ใช่ห้องนี้แน่ๆ เลย~" พอคิดว่าเป็นห้องตัวเองก็กดรหัสเข้าห้อง แต่รหัสดันไม่ผ่านเสียนี่
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
ยืนกดจนมือหงิกแต่ก็ยังไม่ผ่าน ความอดทนขาดสะบั้น ร่างเล็กยกขาขึ้นเตรียมถีบระบายอารมณ์ไปที่ประตู แต่ประตูบานนั้นดันเปิดออกเสียก่อน ทำให้เจ้าของห้องประจันหน้ากับเจ้าของรองเท้าส้นสูงที่ยังคงง้างอยู่
"โอ๊ะ~"
หญิงสาวรีบกดขาตัวเองลงแล้วเดินเซเข้าไปใกล้คนตัวสูง ใบหน้าสวยหรี่ตามองชายหนุ่มหน้าหวานอย่างพิจารณา ก่อนจะยกยิ้มชอบใจที่เห็นเหยื่อรายใหม่ ถึงจะดูเด็กไปหน่อยแต่หน้าตาถือว่าหล่อน่ารักใช้ได้เลย
"มานี่มา~"
ฝ่ามือบอบบางดึงชายเสื้อชุดนอนลายเป็ดเหลือง ให้เจ้าตัวที่กำลังสะลึมสะลือเดินตามเข้ามาในห้อง แล้วปิดประตูล็อกกลอนอย่างรู้งาน
จากนั้นก็พาร่างสูงไปนอนราบบนเตียง เพื่อที่เธอจะได้ล้วงมือเข้าไปลูบไล้ในส่วนที่ไวต่อความรู้สึก ซึ่งขนาดความเป็นชายอยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะพอมือ ในตอนแรกมีการขัดขืน แต่เมื่อถูกริมฝีปากร้อนผ่าวครอบคุมท่อนเอ็นอุ่นเข้าไปทั้งลำ ชายหนุ่มก็เริ่มกระตุกเกร็งเสียวตอบรับ
"อึก อ๊าห์ น้ำหวานจังเลย”
คำเอ่ยชมสลับกับการดูดน้ำที่ปลายหัวเห็ดอย่างเมามันส์ พอตรงนั้นเริ่มตอบรับสัมผัสสวาท ร่างเล็กก็เคลื่อนตัวขึ้นมาดูดเลียยอดปทุมถันสีน้ำตาลอ่อน เพื่อปลุกให้ความเป็นชายแข็งตัวมากยิ่งขึ้น
พอส่วนนั้นได้ที่ เธอก็จับท่อนเอ็นขนาดคับมือสอดใส่เข้าไปในร่องกลีบดอกไม้ ที่เริ่มมีหยาดน้ำหวานเอ่อล้นพร้อมรองรับการมีเซ็กซ์ แต่สัมผัสแรกที่เอวบางกดลงไป ทำให้คนใต้ร่างถึงกับสะดุ้งเฮือก เหมือนเขาไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน
แต่ช่างสิ ตอนนี้เธอสนใจแค่ได้ปลดปล่อยเท่านั้น
"อ๊าส์ ซี้ด อยากมากเลย"
เอวบอบบางร่อนไปมาบนตักแกร่ง แล้วดึงร่างชายหนุ่มให้ลุกขึ้นมาดูดเลียยอดสีสวย เพื่อปลุกอารมณ์สวาทให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น ทั้งสองเริ่มนัวเนียกันไปมา เหมือนโหยหาในความต้องการของกันและกัน จากที่ไม่สมยอม ก็จูบตอบอย่างง่ายดาย แล้วพร้อมพลีกายให้เธอขย่มท่อนเอ็นต่อเนื่อง ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ยากมาก แต่มันเป็นเรื่องที่ดีเพราะเธอชอบ
"ซี้ด อูว อ๊ะ เสียวถึงใจ"
เสียงกระเส่าดังลั่น ไม่วายโน้มตัวลงไปชิมความหวานละมุนจากริมฝีปากฉ่ำวาวของเขา คืนนี้เรียกได้ว่าจัดหนักแบบถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว
เช้าวันต่อมา
แสงแดดในยามเช้าวันใหม่ สาดส่องดวงตาคู่สวยให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้น แล้วพุ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำแบบหมดไส้หมดพุง อ้วกเสร็จก็เดินออกมาด้วยสภาพอิดโรย เพราะเมื่อคืนจัดหนักกับผู้ชายไปหลายน้ำ รู้ตัวอีกทีก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว
"ใครวะ?"
ใบหน้าสวยเอียงคอมองชายหนุ่มผมสีบลอนด์ที่นอนแก้ผ้าอยู่บนเตียง พอคิดได้ว่าไม่เคยรู้จัก เธอก็รีบโกยเสื้อผ้าตัวเองวิ่งหนีกลับห้องทันที
"ช่างแม่งแล้วกัน" เรื่องตีมึนต้องยกให้โซดาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถ้าเมื่อไหร่เมาแล้วเอากัน เธอจะไม่นับเป็นผัว ให้นับเป็นคู่ขาหรือคู่นอนชั่วคราว ยิ่งถ้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อย่างหวังว่าเธอจะสานความสัมพันธ์ต่อ