คิดดูตอนมันมาสารภาพว่าได้ชลลดาเป็นเมีย มันพูดว่าเรียนจบแล้ว เขาหมายถึงจบปริญญาตรี แต่มันหมายถึงจบ ม.6 เวรตะไลไหมล่ะ เพื่อนเขา
“นี่แสดงว่าพี่เชษฐ์รู้มาตลอดว่าอีพี่นนท์คิดไม่ซื่อกับลดา”
“อือ...”
“บ้ากาม” สุรเชษฐ์สะดุ้ง มองน้องสาวตาปริบๆ
“ปวดหัวจริงโว้ย!”
“อย่ามาโว้ยนะพี่เชษฐ์ เพื่อนพี่ พี่ต้องรับผิดชอบ” สุรเชษฐ์ได้แต่ถอนใจ ไอ้เพื่อนห่ามของเขามันไม่หยุดแค่นี้แน่ แล้วก็เป็นจริงดังคาด พอรุ่งเช้ามันก็มา มาแบบซื้อของมาเยี่ยมไข้เมีย
“น้องกูไม่อยากเจอมึง”
“บอกไปว่าผัวมาหา”
“ไอ้!” สุรเชษฐ์สบถลั่นบ้าน ด่าเป็นชุด
“กูไม่ได้ป้องกัน เอาไปหลายที เผื่อท้องขึ้นมา ไปตามมาคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ไอ้นนท์มึง... มึง!” สุรเชษฐ์ชี้หน้าเพื่อนมือไม้สั่น อยากจะชักปืนลูกซองมายิงกบาลเพื่อนให้กระจุย แต่เขาไม่อยากติดคุก ได้แต่โกรธหน้าดำหน้าแดง
“ซื้อของมาฝากบำรุง จะได้หายป่วย ฤกษ์แต่งงานให้ผู้ใหญ่หาให้แล้ว ลดาตกลงแล้วใช่ไหม”
“ตกลงบ้านป้ามึงเหรอ น้องกูไม่เอามึง”
“งั้นกูฉุด”
“มึงกล้าเหรอ กูยิงไส้พรุน”
“กูจะคุย” รัชชานนท์เท้าสะเอวมองขึ้นไปบนห้องนอนของเมียเด็ก สุรเชษฐ์ขยี้หัวตัวเอง เขารู้นิสัยเพื่อนดี ไอ้หมอนี่มันบ้า ไม่เคยมีใครขวางอะไรมันได้
“ลดาไม่อยากคุยกับมึง”
“แต่กูจะคุย”
“มึงกลับไปก่อน” สุรเชษฐ์เสียงอ่อนลง
“ไม่ไป อีกไม่กี่วันก็ปิดเทอม แต่งงานกันเลย กูจะได้วางใจว่าไม่มีผู้ชาย ที่ไหนมาเกาะแกะอีก”
“มึงฟังภาษาคนรู้เรื่องไหมวะไอ้นนท์”
“ฟังรู้เรื่อง แต่กูไม่ไป หน้าที่ไปไม่ใช่หน้าที่กู”
“เออวะ! กูเพิ่งเห็นคนหน้าด้าน”
“ห้องเมียกูอยู่ไหน จะขึ้นไปคุย”
“ปัดโธ่เว้ย! บอกว่าไม่ได้” รัชชานนท์ทรุดตัวลงนั่งปักหลักอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ถ้าเป็นคนอื่น สุรเชษฐ์คงไปตามลูกน้องมาลากมันออกไปทิ้งหน้าบ้าน แต่กับเพื่อนคนนี้ เขาได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“น้องมึงท้อง กูเลี้ยงเอง ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียการเรียน มีลูกกี่คนกูก็เลี้ยง น้องมึงแต่งกับกูไม่ต้องทำงานทำการอะไร จะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี รักไปจนวันตาย ไม่ชายตาแลใคร ส่งเสียให้เรียนอีก จะเรียนจนจบปริญญาเอกก็ได้นะ”
“กูอ่อนใจกับมึง” สุรเชษฐ์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับเพื่อน
“กูจะไม่เจ้าชู้”
“ก็น้องกูไม่เอามึง”
“มึงให้กูฉุดลดาไปกกสักอาทิตย์รับรองว่าต้องใจอ่อนแน่ๆ”
“ไอ้เพื่อนห่า จะฉุดน้องกูท่าเดียว มึงเป็นเด็กมีปัญหาหรือไงวะ”
“ตอนนี้กูเป็นคนแก่มีปัญหา เด็กมันไม่เอาทำผัว” สุรเชษฐ์ไม่รู้จะขำหรือจะด่าเพื่อนยังไงดี ดูมันพูดแต่ละอย่าง
“มึงกลับไปเถอะ กูขอร้อง”
“นั่นของเยี่ยมไข้ บอกให้กินเยอะๆ นะ” แล้วคนบ้า ปากหมา ป่าเถื่อน ก็บรรยายสรรพคุณของฝากอาหารเสริมมากมายให้ฟังจนหูชา สุรเชษฐ์ให้คนแบกขึ้นไปให้น้องสาว
“เขากลับไปแล้วเหรอ”
“อ้อ... รู้ด้วยว่ามันมา”
“พูดเสียงดังคับบ้านแบบนั้น ไม่รู้ก็บ้าแล้ว และนั่นอะไร”
“ของฝากมัน มันกลัวเราผอม”
“เชอะ!” ชลลดากอดอกมองเมินไปทางอื่น
“เอาวางไว้ตรงนี้นะ กินของมันด้วย เดี๋ยวมันจะเสียใจ”
“เอาออกไปเลย ลดาไม่กิน”
“นี่มันฝากมาให้” สุรเชษฐ์ยื่นตุ๊กตาหมูให้น้องสาว เขาหันไปกลั้นขำจนปวดกราม ไอ้เพื่อนห่ามเวรตะไลของเขาซื้อตุ๊กตาปัญญาอ่อนมาง้อ น้องสาวเขา... เหอๆๆ
บางทีก็สงสารมันนะ แต่ชลลดาก็น้องเขา เธอไม่ชอบ เขาก็ไม่อยากบังคับน้อง
“หน็อย... ไอ้เพื่อนของพี่มันหาว่าลดาเป็นหมูเหรอ เอาออกไปเลยนะ ลดาไม่อยากได้อะไรจากเขา”
“พี่ไปละ ปวดกบาลมาก อยากไม่อยากก็จัดการกันเอาเอง”
“พี่เชษฐ์!” ชลลดามองตามหลังพี่ชายไปจนสุดตา ก่อนจะหันไปชกต่อยตุ๊กตาหมูด้วยความโมโห ไม่นานเสียงข้อความในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอบล็อกไลน์เขาไปแล้ว ยังมีข้อความเข้าอีก คนส่งไม่ต้องถามว่าใคร รัชชานนท์ นั่นแหละ เขามีความอดทนสูงมากในการพิมพ์ข้อความมางอนง้อเธอ
“กินเยอะๆ นะ เดี๋ยวผอม” เธอมองเฉยไม่ยอมตอบ แต่ก็อ่าน จริงๆ ก็ไม่ได้อยากอ่านหรอก แต่ข้อความมันเด้งจนน่ารำคาญ
“เดี๋ยวตอนกลางวันจะซื้อของโปรดไปให้” เธอสะดุ้งเมื่อเขาบอกว่า ตอนกลางวันจะมา คนบ้าอะไรตื๊อจริงๆ
เธอปิดประตูเงียบกริบ ไม่กล้าลงไปจากห้อง ตอนกลางวันก็ได้ยินเสียงรถเขามาจริงๆ พอไปเปิดม่านดูก็เห็นคนห่ามขนของกินอะไรต่อมิอะไรลงจากรถมากมาย เขาจะขนมาทำไม เธอกินเดือนหนึ่งก็ไม่หมด
“มาทำไมไอ้นนท์” สุรเชษฐ์มองของกินที่เพื่อนขนมาก็หน้าเหลอหลา
“ทักน้องเขยดีๆ หน่อย”
“แกขนอะไรมามากมาย”
“ของโปรดลดา”
“มึงกลัวน้องกูผอม”
“อือ... ต้องขุนให้อ้วนเข้าไว้ จะได้ไม่มีใครมองเยอะ”
“เหอะ! คิดได้ส้นตีนมากมึง”
“ถือว่าเป็นคำชม”
“กูด่า”
“อ้อ... เหรอ” คนรับคำทำท่าจะเดินขึ้นบันได แต่โดนดึงแขนเอาไว้
“จะไปไหน”
“ไปหาเมีย คิดถึง อกจะแตกตายอยู่แล้ว”
“ไม่ได้”
“ไปบอกว่าลงมากินอะไรบ้าง เดี๋ยวไม่สบายหนัก”
“ให้คนทำอะไรให้กินแล้ว”
“ไอ้เชษฐ์” รัชชานนท์เรียกเพื่อน มองด้วยสายตาออดอ้อน สุรเชษฐ์รู้สึกขนลุกขึ้นมาในทันทีที่เพื่อนมองเขาแบบนี้ เขาก็ไปไม่เป็นน่ะสิ
“มึงอย่าทำเสียงแบบนี้ กูจั๊กจี้”
“ขอขึ้นไปหาเมียหน่อย” คนพูดคุกเข่า สุรเชษฐ์ถึงกับไปไม่เป็น
“เฮ้ยๆๆ มึงอย่ามาดราม่ากับกู” สุรเชษฐ์สะดุ้งเมื่อเพื่อนคุกเข่าทำท่าจะกอดแข้งกอดขา
“เชษฐ์” รัชชานนท์เสียงอ่อนลง
“มึงอย่าบอกนะว่าจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้จนกูใจอ่อน”
“ดูหนังมากไปรึเปล่าวะ แค่นี้ก็กูปวดเข่าจะแย่” รัชชานนท์เดินไปนั่งบนโซฟา ปักหลักไม่ไปไหน สุรเชษฐ์คิดว่าจะใจอ่อน พอเจอแบบนี้เข้าเขาเลยเริ่มหมั่นไส้ไอ้เพื่อนเวรเหมือนกัน มั่นหน้ามั่นโหนกอะไรปานนี้!
“มึงไม่ทำงานทำการหรือไง” สุรเชษฐ์เอ่ยถามเพื่อน
“แล้วมึงเฝ้าน้องมึงไม่ไปไหน ไม่ทำงานทำการหรือไง”
“กูสั่งงานลูกน้องเอาไว้แล้ว”
“เหมือนกันเลย กูก็สั่งงานลูกน้องเอาไว้แล้ว” สุรเชษฐ์กอดอกมองเพื่อน ในอารมณ์เช่นนี้มันก็ยังกวนส้นรองเท้า
“เรื่องเรนว่าไง”
“ไม่ว่าไง กูสั่งห้าม เลิกยุ่ง เรนก็รับปาก”
“ไอ้แม็กมันดูจริงจังกับเรนนะ”
“ตอแหลน่ะสิไม่ว่า” สุรเชษฐ์สำลักเมื่อได้ยินเพื่อนพูด เขาเองก็ไม่กล้ารับปากว่าใครดีหรอก ยิ่งเกริกพลยิ่งแล้วใหญ่
“ดีนะ ห้ามแล้วฟัง” สุรเชษฐ์พูดขึ้น
“น้องมึงห้ามไม่ฟังเหรอวะ” รัชชานนท์เอ่ยถาม
“ไม่ใช่ มึงนี่แหละห้ามไม่ฟัง”
“อ้อ...” รัชชานนท์รับคำสีหน้าเหลอหลา
“มึงเคยเป็นไหม ความรักมันจุกอกน่ะ”
“ไม่เคย กูไม่ได้รักใครแล้วทำบ้าบอแบบมึง” สุรเชษฐ์ตอบคำถามเพื่อนเหมือนเกมพวกยี่สิบคำถาม เป็นแบบนี้ทุกวัน พอผ่านวันเสาร์และวันอาทิตย์ไป ชลลดาต้องไปมหาวิทยาลัยเพราะขาดเรียนหลายวันแล้ว
“ลดา...ผัวมารอรับ อยู่หน้าบ้านแล้ว” ชลลดาที่กำลังกินข้าวต้มอยู่สำลัก ข้าวแทบพุ่งออกจากปาก สุรเชษฐ์หัวเราะก๊าก เขาเห็นว่าการที่เพื่อนมาง้อน้องสาวของเขากลายเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว
“พี่เชษฐ์” ชลลดามองพี่ชายหน้าตาเหลอหลา
“รู้ไหม หลายวันนี้พี่ไม่ได้ไปทำงานเลย” สุรเชษฐ์อยากจะหนีจากปัญหานี้เหลือเกิน
“พี่นนท์มาเห่าหอนอะไรหน้าบ้าน ใครเป็นผัวใคร”
“ได้เห็นหน้าเสียที คิดถึงเหลือเกิน” เขาตรงเข้ามาทำท่าจะกอด
“ถอยไปเลยนะ” เธอแหวใส่คนหน้ามึน
“แพ้ท้องหรือยัง”
“บ้า!”
“บ้าอะไร” เขาเดินตาม รมิดาลงมาจากรถได้ยินทุกประโยค เธอปวดหัวแทนเพื่อนสาว พี่ชายห่ามๆ ของเธอจีบสาวแบบนี้ก็ได้เหรอ... เหอๆๆ
“คนเราจะท้องมันต้องเป็นเดือนๆ นี่ไม่กี่วันเอง” ชลลดาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยืนหน้าดำหน้าแดง เถียงกับเขาอยู่คอเป็นเอ็น รัชชานนท์ยิ้มมุมปาก มองร่างอวบที่แสนคิดถึงตาเป็นประกาย
“ยิ้มอะไร”
“น้ำยาพี่อาจจะดีก็ได้”
“บ้า!”
“เดี๋ยวไปส่งมหาวิทยาลัย”
“ไม่ต้อง”