บ้านทรงไทยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าทำให้เธอกะพริบตาปริบๆ มันสวยมาก การตกแต่งก็แปลกตา เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้แทบทั้งสิ้น ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างล้วนมีราคาและเป็นของหายาก
“เดี๋ยวพี่ทำอาหารให้กิน”
“เรนเป็นลูกมือพี่แล้วกันค่ะ” เธอรีบอาสา
“ดื่มน้ำก่อนนะ” เขานำน้ำสมุนไพรเย็นๆ มาเสิร์ฟให้เธอ รมิดามองบรรยากาศโดยรอบที่เงียบสงบมีแต่ผืนป่า มีบ้านหลังนี้หลังเดียวที่ปลูกเอาไว้ในเนื้อที่กว้างใหญ่
“แล้วใครดูแลบ้านให้พี่แม็กเหรอคะ” เธออดจะเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้
“มีคนงานมาช่วยทำความสะอาดครับ พี่มานอนค้างที่นี่บ่อยๆ ด้านหลังมีลำธารด้วยนะ แต่ต้องเดินออกไปอีกสักนิด”
“อากาศดีจังเลยค่ะ”
“ปลูกเอาไว้นานแล้ว เวลามีลูกมีเมียจะได้พามาพักผ่อน ที่นี่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวดีครับ” เขาเดินมาทรุดนั่งใกล้ๆ เธอ รมิดาขยับตัวเล็กน้อย มองเขาอย่างตระหนกอยู่ไม่น้อย
“กลัวพี่เหรอ” เขาเอ่ยถาม มองเธออย่างเอ็นดู
“ค่ะ” เธอยอมรับออกไปตรงๆ เมื่อเขาถาม ไม่เคยแกล้งทำเป็นเก่งกับผู้ชาย เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะดึงมือเธอให้เดินตามเข้าไปในครัว
“พี่สั่งล็อบสเตอร์มาทำอาหารกินกัน เรนแพ้อาหารอะไรบ้าง”
“ไม่ค่ะ เรนกินได้ทุกอย่าง” เธอตอบแล้วเดินตามเขาไปทำอาหาร รมิดามองร่างสูงของเกริกพลจนเพลิน เขาทำอาหารเก่ง ไม่นานเมนูจากล็อบสเตอร์ ก็เสร็จสิ้น
“ไปนั่งกินกันที่ริมลำธารดีไหม ที่โน่นอากาศดี”
“แล้วแต่พี่แม็กค่ะ” เธอแล้วแต่เขา ตอนแรกก็กลัว แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษไม่ได้คิดรังแก เธอเลยผ่อนคลายลงไปมาก ชอบเขาก็ชอบ แต่ก็กลัวเขาล่วงเกินหรือทำอะไรไม่ดี ในขณะที่เธอยังไม่ได้มีใจให้เขาขนาดที่จะยอม มีอะไรด้วย
บรรยากาศริมลำธารเย็นสบาย เธอเห็นฝูงปลาว่ายวนมากมาย ที่นี่ อุดมสมบูรณ์ ไม่มีมลพิษหรือมลภาวะรุกล้ำเหมือนในเมืองใหญ่
“กระท่อมหลังนี้น่ารักจังเลยค่ะ” เธอมองกระท่อมหลังสวยริมลำธาร แล้วเอ่ยชม เคยจินตนาการอยากมีกระท่อมริมลำธารหลังเล็กๆ แบบนี้บ้าง ได้มานอนพักผ่อนอยู่ในที่อากาศดีๆ
“มาเที่ยวบ่อยๆ สิ พี่จะรับมาเที่ยว สมัยก่อนตอนพี่จะสอบก็มานอน อ่านหนังสือที่นี่”
“จะเป็นการรบกวนไหมคะ” เธอพูดอย่างเกรงใจ
“ไม่หรอกครับ พี่ยินดีและเต็มใจ มีความสุขเสียด้วยซ้ำที่เรนจะมาหาบ่อยๆ” เขาขยับหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ ลมหายใจร้อนๆ ที่ปะทะกับแก้มสาว ทำเธอแก้มร้อนเห่อแดงก่ำ
“พี่แม็ก” เธอเบี่ยงหลบ
“อยู่นิ่งๆ สิ แมลงอะไรไม่รู้” เขาขยับเข้าไปอีก ดึงแมลงตัวเล็กๆ ออกมาจากผมของเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
“ยังไม่หายกลัวพี่เหรอ”
“ไม่ได้กลัวค่ะ” เธอตอบเขาเสียงนุ่ม แต่ไม่กล้าสบตา
“ใช้ใจนะครับ อย่าไปฟังคนอื่น ลดาก็ชอบใส่ร้ายพี่อยู่เรื่อย” เขาพูดติดตลก เธอมองเสี้ยวหน้าของเขา แต่พอเขาหันมา เธอก็เสไปมองลำธาร
“พี่ขออนุญาตไปรับเรนกินข้าว กินไอติมบ้างได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ” เธอรับคำ ไม่ปฏิเสธน้ำใจของเขา
ชายหนุ่มนอนลงบนเสื่อ เขาใช้มือรองศีรษะเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าและนกฝูงใหญ่ที่บินผ่าน
“พ่อแม่พี่ตายหมดแล้ว เหลือญาติผู้ใหญ่คือคุณยายคนเดียว ชีวิตค่อนข้างเงียบเหงา ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามาร่วมชีวิตกับพี่ พี่ก็อยากให้คนนั้นเป็นเรน”
“มันเร็วไปนะคะที่จะพูดเรื่องนี้”
“มันก็จริงนะครับ คนอื่นอาจจะคิดว่าเร็วไป แม้แต่เรน แต่สำหรับพี่ถ้าใช่ ก็คือใช่”
“เกิดเรนมีนิสัยบางอย่างที่พี่รับไม่ได้ล่ะคะ”
“เช่นอะไรบ้างครับ ไหนลองบอกพี่มาซิ”
“เรนขี้หึงค่ะ ถ้ามีแฟนก็ไม่ชอบให้แฟนตัวเองไปเกาะแกะกับผู้หญิงอื่น”
“ไม่เห็นเป็นข้อเสียเลยนี่ครับ หึงสิดี ดีกว่าเห็นเราไม่มีตัวตน” เขาหันมายิ้ม เธอเลยอึ้งไป
“เรนเป็นคนขี้หวงด้วยค่ะ” เธอบอกเขายิ้มๆ
“ถ้าเป็นแฟนกันแล้วยินดีให้หึงให้หวงเลยครับ” เขาขยับไปหนุนตักเธอ รมิดาหนีไม่ทัน เธอเกร็งร่างเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยเลยตามเลย
“ยังไม่ได้ตกลงจะคบด้วยนะคะ”
“รอได้ครับ” เขาดึงมือเธอมาจูบแรงๆ รมิดารู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรง ใจหนึ่งก็อยากจะปฏิเสธสัมผัสของเขา อีกใจก็อยากจะโอนอ่อนผ่อนตาม
“ไม่ต้องกังวลนะครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกิน ถ้าเรนไม่อนุญาต”
“ค่ะ” เธอรับคำ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ปกติเป็นคนพูดน้อยเหรอ” เขาลุกขึ้นมานอนคว่ำแล้วเท้าคางมองเธอ
“เรนไม่รู้จะพูดอะไรค่ะ”
“ถ้าเป็นน้องไอ้เชษฐ์ละก็ พูดเป็นต่อยหอย”
“ลดาเป็นคนน่ารักค่ะ ถึงจะพูดมากก็เถอะ” เธอพูดถึงเพื่อนแล้วอมยิ้ม
“อย่าให้ใครมาจีบนะครับ พี่จองแล้ว” เขาลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับเธอ มองสบตาอ่อนหวานด้วยความเอ็นดูระคนห่วงหวง
“ค่ะ” เธอรับคำ ขัดเขินเล็กน้อย
“มีคนมาจีบเยอะหรือเปล่า” เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นสบตา
“ไม่มีหรอกค่ะ ขี้เหร่จะตายไป” เธอพูดติดตลก
“ถ้าเรนขี้เหร่ ในโลกนี้ก็ไม่มีคนสวยแล้วละครับ”
“แน้...” เธอร้องได้แค่นั้น แล้วไม่รู้จะพูดอะไรอีก
“พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม”
“ต้องขอพี่ชายก่อนนะคะ วันนี้ออกมาก็ไม่ได้ขอพี่นนท์” เธอพูดอย่างเป็นกังวล
“ได้ครับ พี่จะรอคำตอบคืนนี้นะ”
“ค่ะ” เธอนั่งคุยกับเขาอีกครู่ ก่อนที่เขาจะพาไปส่งบ้าน รัชชานนท์พี่ชายของเธอยังไม่กลับมา เธอเลยโทร. ไปขออนุญาตเขา โดนซักไซ้อยู่พักใหญ่ เธอโกหกคำโตว่าจะไปดูหนังกับเพื่อน เธอลุ้นเกือบแย่ สุดท้ายพี่ชายก็เอ่ยอนุญาต
“จะไปไหน” เสียงเข้มที่กระซิบอยู่ริมหูทำเอาชลลดาสะดุ้งสุดตัว
“ลดาจะกลับบ้าน” คนบอกเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ร่างเปลือยโดนคนเจ้าเล่ห์โอบกอดเอาไว้ รัดแน่นไม่ยอมให้ดิ้นหนีลงจากเตียง
“โทร. ไปบอกไอ้เชษฐ์แล้วไม่ใช่เหรอว่าขอนอนบ้านเพื่อนอีกหนึ่งคืน” เขากระซิบงึมงำที่ริมหู เขาบังคับเธอสารพัด ชลลดาเกลียดเพื่อนพี่ชายคนนี้จับใจ แต่ยามนี้ดันมาตกอยู่ใต้อาณัติของเขาเสียอย่างนั้น
ชายหนุ่มขยับมือมาเคล้นคลึงอกอิ่มสวย เธอปัดมือเขาออก แต่เขายิ่งฟอนเฟ้น รัชชานนท์เป็นมนุษย์ที่แปลกประหลาด สิ่งไหนที่คนอื่นไม่ต้องการหรือปฏิเสธ เขาจะทำสวนทางกันตลอด
“คิดว่าลดากลัวหรือไง” คนปากเก่งพูดแล้วปากสั่นจนต้องเม้มปากเข้าหากัน
“ใครอยากให้เมียรักกลัวผัวตัวเองกันล่ะ”
“ลดาไม่ได้เป็นเมีย”
“ที่ทำกันอยู่ไม่หยุดนี่เรียกอะไร เล่นขายของหรือไง”
“ลดาเกลียดพี่นนท์”
“รู้แล้ว ย้ำจริงเชียว เดี๋ยวก็จับกด”
“พอแล้ว ระบมไปหมดแล้ว” จู่ๆ เธอก็ปล่อยโฮออกมา รัชชานนท์ถึงกับไปไม่เป็น ตกใจที่คนใต้ร่างร้องไห้น้ำตาไหลพราก
“ร้องไห้ทำไม” เขาดึงมากอดโอ๋ โยกตัวไปมา เธอซบอกเขา ก่อนจะกัดหัวนม ข่วนอกเขาจนเลือดซิบ
“โอ๊ย! ยายหมูซาดิสม์” เขาปล่อยร่างน้อยแทบไม่ทัน เธอรีบถลาลงจากเตียง แต่เซล้มหัวซุนเพราะขาอ่อนแรง ดีที่หัวไม่ฟาดพื้น เพราะร่างสูงตามมารับเอาไว้ได้ทัน
“พี่นนท์!” เธอโดนอุ้มก็ตัวสั่น เห็นเลือดสดๆ ไหลซิบที่อกเขาเพราะรอยข่วนก็กลัวเขาทำโทษ กดติดเตียงอีก
“ไม่ทำอะไรแล้ว สัญญา” เขาเห็นร่างน้อยสั่นเทาก็นึกสงสาร เรื่องหื่นก็หื่นหรอกนะ แต่กลัวเธอจะช้ำในตายเสียก่อน
“จริงเหรอ ไม่โกรธเหรอ”
“ไม่กล้าโกรธเมีย กลัวเมียทิ้ง ใส่ยาให้ก่อน” เขาออดอ้อนแบบที่เธอต้องกะพริบตาปริบๆ แต่ก็ยอมทำแผลให้เขา
“ซี้ด... แสบชะมัด” เขาซี้ดปากเมื่อโดนแอลกอฮอล์เช็ดไปตามแผล
“ไม่ได้ตั้งใจ” คนพูดอุบอิบบอก เธอนั่งตัวลีบเล็กเพราะเปลือยเปล่า เขาไม่ยอมให้สวมใส่เสื้อผ้า
“พี่ว่าตัดเล็บออกเถอะลดา”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ทำไม”
“เวลาโจรมาฉุดหรือทำร้ายจะได้ข่วนต่อสู้ไงคะ”
“แต่เราข่วนพี่เลือดซิบ”
“ไม่ได้ตั้งใจ นึกว่าพี่นนท์จะรังแก”