“งั้นแวะกินอะไรก่อนก็ได้ค่ะ” เธอบอกอย่างเกรงใจเมื่อเขาพูดแบบนั้นขึ้นมา เกริกพลเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารบรรยากาศดีร้านหนึ่ง ก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูรถให้สาวน้อย
“ขอบคุณค่ะ”
“ร้านนี้อาหารอร่อยนะครับ”
“ค่ะ” เธอพยักหน้ายิ้มให้เขา เมื่อก่อนเธออยู่กรุงเทพฯ เพิ่งย้ายมาอยู่กับพี่ชายได้ไม่นาน ไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารหรือสถานที่อะไรจังหวัดนี้นักหรอก
“เห็นนายเชษฐ์บอกว่าเรนเพิ่งย้ายมาอยู่กับพี่ชายเหรอครับ”
“ค่ะ เมื่อก่อนอยู่กรุงเทพฯ กับคุณยายค่ะ พอคุณยายเสีย พี่นนท์เลยอยากให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เพราะเป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่คนเดียว”
“งั้นแสดงว่ายังไม่ค่อยรู้จักที่นี่น่ะสิครับ”
“ก็คงเป็นอย่างนั้นค่ะ เพราะส่วนใหญ่พี่นนท์จะไปเยี่ยมที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้มาที่นี่ค่ะ”
“เอาไว้พี่พาเที่ยวดีไหมครับ”
“เกรงใจจัง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอบอกอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เต็มใจ คิดว่าพี่เหมือนพี่ชายคนหนึ่งก็แล้วกัน”
“ค่ะ” เธอรับคำ เพราะไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ
“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”
“เอาไปทำไมคะ”
“โทรศัพท์แบตหมดครับ จะโทร. หานายเชษฐ์สักหน่อย”
“นี่ค่ะ” เธอยื่นโทรศัพท์ให้เขาแบบไม่ได้คิดอะไร เขากดโทร. ออก ก่อนจะกดอะไรที่หน้าจอโทรศัพท์ของเธอแล้วส่งโทรศัพท์ให้เธอ
“นี่เบอร์พี่นะครับ บันทึกให้แล้ว”
“คะ?” เธอยื่นมือไปรับโทรศัพท์แบบงงๆ เพิ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เขาให้แล้ว
“มีปัญหาอะไร โทร. หาพี่ได้นะครับ” เขาบอกเสียงนุ่ม จริงๆ เขามีเบอร์ของเธอแล้วล่ะ ได้จากสุรเชษฐ์ แต่จู่ๆ จะให้โทร. ไปก็ดูกระไรอยู่ แลกเบอร์กันแบบนี้ ตอนเขาโทร. ไป เธอจะได้ไม่เห็นว่าเป็นเบอร์แปลก พานจะไม่รับสายเอา
“สั่งอาหารกันดีกว่า” พนักงานมายืนรออยู่นานแล้ว เกริกพลเลยชวนสาวน้อยตรงหน้าสั่งอาหาร
รมิดาเผลอมองคนตรงหน้าสั่งอาหารและทุกครั้งก็จะหันมาถามเธอ เขาใส่ใจว่าเธอชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร หรือแพ้อาหารทะเลหรือเปล่า ผู้ชายตรงหน้าค่อนข้างละเอียดอ่อนพอสมควร
“ลองชิมดูสิครับ อาหารร้านนี้กินแล้วต้องติดใจ อร่อยมากๆ เชียวครับ”
“พี่แม็กเป็นหุ้นส่วนหรือเปล่าคะนี่”
“ทำไมล่ะครับ”
“เห็นเชียร์อาหารในร้านจังเลยค่ะ”
“ถามแบบนี้พี่อายแย่เลย พี่ก็มีหุ้นอยู่เล็กๆ น้อยๆ น่ะครับ” เขาถ่อมตัว
“นั่นไงคะ” เธออมยิ้ม
“เวลาเรนยิ้ม ทำหัวใจพี่ลอยเลยนะครับ”
“เอ่อ...” คนโดนชมถึงกับไปไม่เป็น หน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหู
“น้องเรนมีแฟนหรือยังครับ”
“ถามทำไมคะ จะจีบเหรอ” เธอพูดทีเล่นทีจริง
“ถ้าพี่จีบจริงๆ น้องเรนจะให้จีบไหมล่ะครับ” เกริกพลถามจริงจัง มองสบตาสาวน้อยตรงหน้าไม่วางตา
“เอ่อ...” โดนถามกลับแบบนั้นรมิดาถึงกับใบ้กิน
“พี่ต้องถามเอาไว้ก่อน เผื่อเรนมีแฟนแล้ว พี่จะได้ไม่โดนกระทืบไงครับ” เขาพูดปนหัวเราะ เธอเงยหน้ามองเขา ผู้ชายตรงหน้าหัวเราะแล้วดูมีเสน่ห์ ใบหน้าของเขาผ่อนคลาย เจือไปด้วยความอ่อนโยน
เกริกพลเป็นคนใบหน้าเรียว ผิวขาว หล่อเหลา สะอาดสะอ้าน ไม่ได้ดูสำอาง แต่ก็ไม่ได้คมเข้มเหมือนหนุ่มบ้านป่าอย่างพี่ชายของเธอ
รัชชานนท์พี่ชายของเธอนั้นคมเข้มดุดัน ตรงไปตรงมา นิสัยค่อนข้างนักเลงอยู่มาก
รมิดาสะดุ้งเมื่อได้ยินเขาเรียก เธอเผลอมองเขาจนคิดอะไรไปไหนต่อไหน
“อาหารมาแล้วครับ ใจลอยไปไหน” เขายื่นหน้ามาหาเธอเล็กน้อย แม้จะอยู่อีกฟากของโต๊ะก็ใกล้มากในระยะสายตา เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหลบวูบ เพราะจู่ๆ หัวใจก็เต้นแรงเสียอย่างนั้น
“พี่แม็กหิวไม่ใช่เหรอคะ กินเลยค่ะ” เธอรีบพูด เขาเลยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตักอาหารใส่จานให้เธอ
“ลองชิมห่อหมกปลาช่อนดูสิครับ อร่อยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” คนเอ่ยขอบคุณตักรับประทานแล้วพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเยือนให้เขา
“อร่อยจริงๆ ค่ะ”
“อร่อยก็ต้องกินเยอะๆ นะครับ ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอก ถ้ากลัวเดี๋ยวพี่ไปชวนออกกำลังกายเอง” รมิดาเงียบเสีย ไม่รู้จะโต้ตอบอะไรเขาดี รู้สึกว่าโดนรุกหนักอย่างไรก็ไม่รู้
ระหว่างรับประทานอาหารเขาก็ตักโน่นตักนี่ให้เธอ เอาใจสารพัด ก่อนจะเป็นคนออกค่าอาหารเองทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นผู้ชาย และเขาเองก็ควรดูแลผู้หญิงที่เอ็นดูเหมือนน้องสาว
“ที่สำคัญไปกว่านั้น” เขาพูดแล้วมองหน้าเธอ
“พี่เป็นคนชวนมากินข้าวเพราะหิว ต้องขอบใจเรนด้วยซ้ำที่มาเป็นเพื่อนรับประทานอาหารด้วยกัน อาหารมื้อนี้วิเศษมากครับ” เขาผายมือให้เธอเดินตามมาที่รถ
รมิดามองตามร่างสูงสง่าผ่าเผยของเขา ก่อนจะสะดุ้งเสไปมองทางอื่นเมื่อเขาหันมาพอดี
“พี่ทำให้เรนเสียเวลาหรือเปล่าครับ” เขาถามเหมือนเกรงใจ ขณะรีบเปิดประตูรถให้เธอ
“ไม่หรอกค่ะ เรนไม่ได้รีบไปไหน” หลังจากนั้นเขาก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ เรื่องสัพเพเหระ แต่เธอกลับคุยเรื่องส่วนตัวให้เขาฟังมากมาย เขาเป็นคนคุยสนุก ตลก อารมณ์ขัน คุยด้วยไม่เบื่อเลย
“ถึงบ้านแล้วล่ะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณเขา
“ด้วยความยินดีครับ”
“พี่แม็กเข้าไปดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนไหมคะ”
“ไม่ดีกว่าครับ เอาไว้พี่จะโทร. หานะครับ”
“ค่ะ” รับคำไปแล้ว ก็ได้แต่ยืนมองท้ายรถของเขาที่เคลื่อนออกไปตาปริบๆ
“ใครมาส่งเหรอ” เสียงของพี่ชายทักขึ้นเมื่อเธอเดินเข้าบ้าน
“เพื่อนพี่...” เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์ของพี่ชายก็ดังขึ้นเสียก่อน
“พี่ต้องรีบไปก่อนนะ”
“ไปไหนคะ”
“ไปงานเลี้ยงในเมืองหน่อย เห็นเราไปทำรายงานคงเหนื่อยเลยอยากให้พัก เอาไว้วันหลังพี่จะพาไปเปิดหูเปิดตานะ” รัชชานนท์ดึงน้องสาวมาจุ๊บเหม่งน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ค่ะ พี่นนท์รีบไปเถอะค่ะ สาวๆ โทร. มาตามแล้ว” รมิดาก็ไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงพวกนี้เหมือนกัน เธอชอบชีวิตเงียบสงบมากกว่า
“หิวไหม ถ้าหิวก็สั่งแม่บ้านให้ทำอะไรให้กินนะ”
“ไม่หิวค่ะ กินมาจนอิ่มแล้ว”
“เพื่อนเราเลี้ยงดีสินะ เห็นทีเจอกันต้องตกรางวัลให้อย่างงามเสียแล้ว”
“ตกรางวัลได้ แต่อย่าไปตบเพื่อนเรนแล้วกัน”
“ใครจะกล้าตบยายลูกหมูเพื่อนเราฮึ!”
“ปากเหรอคะนั่น ไปว่าลดาเป็นหมู เขาได้ยินเข้าพี่นนท์จะโดนกัดหูขาดแน่ๆ ลดายิ่งกังวลกับน้ำหนักของตัวเองอยู่ด้วย ผู้หญิงน่ะไม่ชอบให้พูดเรื่องน้ำหนักนะคะ”
“พี่ไปละ” เขาหัวเราะก่อนจะเอ่ยขอตัว เพราะถ้าขืนยังคุยกันอยู่คงยาวแน่ๆ
ชลลดาเบื่อหน่ายกับงานเลี้ยงเต็มทน มีแค่สิ่งเดียวที่ทำให้เธอหายเบื่อได้คืออาหารการกินที่แสนอร่อย พี่ชายของเธอพาเธอมาทิ้งเอาไว้ให้ยืนเคว้งอยู่คนเดียว
“กินขนาดนั้นระวังไขมันอุดตันนะ”
“แค่กๆๆๆ” เสียงหาเรื่องทำให้ชลลดาหันขวับไปมอง รัชชานนท์เพื่อนพี่ชายปากสุนัขนั่นเอง เธอสะบัดหน้าหนี ทำท่าจะเดินหนีด้วย แต่อีกฝ่ายเดินมาดักหน้าเอาไว้
“จะรีบไปไหนล่ะ”
“ไม่อยากคุยกับคนที่ชอบเลี้ยงหมาเอาไว้ในปาก” รัชชานนท์หัวเราะร่วนทันที เขากอดอกมองเพื่อนน้องสาวตัวแสบที่เคยแกล้งเขาจนหน้าแตกกลางร้านอาหารมาแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าวันนั้นนัดสาวอีกคน จะไปเจออีกคน รถไฟ ชนกันโครมใหญ่ จริงๆ ผู้หญิงอีกคนที่เขาคบอยู่คงไม่เห็น ถ้าเธอไม่บังเอิญ จงใจทักทายเขาเสียงดัง วันนี้ทั้งโดนตบ โดนสาดน้ำ แค้นนี้ยังไม่ได้ชำระ แล้วเธอก็หลบหน้าเขามาตลอด
เขากับสุรเชษฐ์เป็นเพื่อนกัน เรียนมาด้วยกัน สุรเชษฐ์เองสนิทกับเกริกพลอีกเช่นกัน เขากับเกริกพลไม่กินเส้นกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชอบแข่งกันทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องกีฬา แต่เขาก็ไม่ได้มีปัญหากับสุรเชษฐ์ เพราะอีกฝ่ายก็เป็นคนดีใช้ได้
“แต่พี่อยากคุยกับเด็กปากหมา”
“เอ๊ะ! พี่นนท์ว่าใครปากหมา” คนโดนว่ากระทบหน้าแดงโกรธจัด เขาด่าเธอ เธอรู้ดี ก็เธอดันปากเปราะหาเรื่องให้เขาโดนสาวๆ ในสต๊อกตบกัน แล้วเขาก็โดนลูกหลง ทั้งตบ ทั้งสาดน้ำ วันที่ได้แกล้งเขามันสนุกพิลึก แต่พอได้เจอกันอีก เธอกลัวโดนเขาเอาคืนน่ะสิ
พี่ชายของเธอไม่รู้เรื่องนี้ แต่ก็ดีแล้ว ถ้ารู้ก็โดนดุอีก หาว่าเธอไปก่อเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อน