บ้าน สิทธิรังสรรค์ ในวันที่ประมุขของบ้านล้มป่วยลง ก็ดูเหมือนกับว่าเข้าสู่โหมดแห่งความระส่ำระสายไปหมด
สะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง และสะใภ้เล็ก รับรู้ถึงปัญหาความยุ่งยากของตัวเอง
ธุรกิจของตระกูลส่อเค้ามีปัญหามานาน บวกกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ระหองระแหงมาตลอด เพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้
อำนาจของคนเป็นพ่อ ผู้ก่อตั้ง และพยายามยื้ออย่างที่สุดเพื่อจะให้ธุรกิจอยู่ให้ได้ เริ่มจะหมดหวัง เมื่อแบ็งก์ไม่ยอมปล่อยเงินกู้เพิ่ม
สินทรัพย์ถูกถ่ายเทออกไปสู่กระเป๋าของลูก ๆ แต่ละคนโดยเฉพาะพี่ใหญ่กับพี่รอง
น้องเล็กดูเหมือนจะได้รับเพียง...มูลค่าหนี้
บ้านหลังใหญ่ที่ยังติดจำนองธนาคารอยู่ ธุรกิจที่กำลังจะเจ๊ง
และหมายรวมถึง...เสี่ย เวทิน ประมุขแห่ง สิทธิรังสรรค์ ผู้เป็นพ่อด้วย
ในที่สุด ความเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงก็ประเดประดังเข้ามา
วาทิต ลูกชายคนเล็กดื่มทุกวัน พราวเดือนผู้เป็นภรรยาในฐานะสะใภ้เล็กมองเห็นความชอกช้ำ อ่อนแอในดวงตาของเขา
ก็เข้าใจ
เขาต่างจากเธออยู่มากมาย
ปัญหาที่เขาเจอ แม้จะเรียกว่าหนักหนาสาหัส แต่ไม่เทียบกับชีวิตของหล่อนหรอก
หล่อนเจอมาหนักกว่าเขามาก
มันไม่ใช่แค่การเสียศักดิ์ศรี แต่มันคือความหิวโหย คนเราในยามหิว ศักดิ์ศรีมันไม่ได้สำคัญอะไร
ชีวิตอันลำเค็ญของลูกผู้หญิงที่ต้องอยู่อาศัยกับพ่อเลี้ยงหื่น ๆ
รอดพ้นจากจุดนั้นมาได้อย่างหมิ่นเหม่ หลังแม่เสีย
เมื่อพบรักกับชายหนุ่ม หล่อนคิดว่าชีวิตเหมือนเกิดใหม่ ปัญหาของเขาคือปัญหาของหล่อน เพราะฉะนั้นในวันที่เขากำลังจะล้ม หล่อนจึงไม่กลัวที่จะอยู่เคียงข้างเขา
บ้านสิทธิรังสรรค์เวลานี้ เหมือนกับแพแตกจริง ๆ
ทุกคนไปคนละทิศละทาง
เหลือเพียงสะใภ้เล็ก กับคุณหนูลูกชายคนเล็กของบ้าน ที่สภาพดูเหมือนจะไม่พร้อมสำหรับปัญหาที่กำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย
พ่อป่วย หนี้สินพะรุงพะรัง เจ้าหนี้มากกว่า 20 ราย รวมทั้งทุกสถาบันการเงินกำลังรอให้เขาเจรจา
“ผมมันแย่มากใช่ไหม”
“ไม่เลยค่ะที่รัก ไม่เกี่ยวกับคุณเลย”
ความเข้มแข็งของผู้เป็นประมุขของตระกูล หรือพ่อผัวของพราวเดือน นั้นช่างแตกต่างกับความอ่อนแอที่ลูกชายของเขามีอย่างสิ้นเชิง
ราวกับรู้ดีว่า ถ้าไม่สามารถลุกขึ้นมายืนหยัดได้ จะสิ้นชื่อไปทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือ
พราวเดือน ดูแลเสี่ยเวทินตลอดเวลา เหตุผลง่ายสุดเลยคือ ประหยัดค่าจ้างพยาบาล อะไรที่พอจะประหยัดได้ก็ต้องทำ
เธอยอมเหนื่อยหน่อย
ดูแลทั้งหมด
เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาบน้ำ อาหารการกิน จนดูเหมือนกับว่าระยะหลัง เธอจะมีเวลาอยู่กับเสี่ยเวทินมากกว่า วาทิตผู้เป็นสามีเสียด้วยซ้ำ
ยิ่งได้เห็นพัฒนาการ เห็นความเอาจริงเอาจังของเสี่ยเวทิน พราวเดือนยิ่งมีกำลังใจที่จะทำ คำพูดที่พยายามจะเปล่งออกมาจากปาก แววตาที่แสดงถึงความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่ทำให้เธอมีพลังในแง่บวกเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น