ตอนที่ 2 ก็แค่เด็ก

1635 Words
เปียลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง เธอรีบเดินเข้าไปถามพี่ๆพยาบาลว่าแคนทีน (โรงอาหาร) ต้องเดินไปทางไหน เมื่อได้คำตอบแล้วสองเท้าเล็กก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อไปให้ถึงแคนทีนโดยเร็ว เธอจะได้รีบซื้อแล้วรีบขึ้นเอาข้าวไปให้คุณหมอ เปียอยากเจอคุณหมออีกจัง นี่คือสิ่งที่เธอคิดในหัวตั้งแต่ออกจากห้องของเขา เปียเดินไล่ร้านอาหารไปทีละร้าน คุณหมอบอกว่าอะไรก็ได้แต่ไม่เผ็ด ว่าแต่เธอจะเอาอะไรให้คุณหมอทานดี "ผัดผักดีไหม คุณหมอน่าจะดูแลสุขภาพนะ" เธอคิดแบบง่ายๆ คนเป็นหมอก็ต้องมีสุขภาพที่ดี เลือกอาหารที่มีประโยชน์ กินผัก กินปลา "อืม ว่าแต่มีปลาอะไรบ้าง" เธอหยุดยืนร้านข้าวอยู่ร้านหนึ่ง มีหลากหลายเมนู "ป้าคะ มีใส่กล่องไหมคะ หนูซื้อไปให้คุณหมอค่ะ" เธอฉีกยิ้มกว้างถามป้าร้านข้าว วันนี้เธอรู้สึกว่าเป็นการซื้อข้าวที่มีความสุขมากที่สุด "มีหนู จะเอาอะไรล่ะ" "อืม...ผัดผักค่ะ กับปลา...อันนี้คือปลาอะไรคะ" เธอชี้ถาม "ปลาดอลลี่" "ค่ะ ค่ะ ปลาดอลลี่ เท่าไหร่เหรอคะ" "หกสิบบาทจ้า" "นี่ค่ะป้า" เธอยื่นแบงก์ร้อยให้กับป้าร้านข้าวแล้วหยิบถุงที่มีข้าวกล่องมาถือไว้แล้วรอเงินทอน "ต้องซื้อน้ำด้วยไหมนะ" เปียเดินไปร้านน้ำแล้วสั่งน้ำเปล่ามาหนึ่งขวด หลังจากนั้นเธอก็เดินตรงไปยังลิฟต์วีไอพีตามที่คุณหมอบอก "เอ่อ คุณหมอ...ณภัทรบอกให้หนูมาขึ้นลิฟต์ตัวนี้ค่ะ คุณหมอสั่งให้หนูซื้อข้าวให้" เธอบอกกับพี่รปภ.ที่ดูแลและสำรวจความเรียบร้อยในบริเวณนั้น "ครับ" ลิฟต์เดินทางมาถึงชั้นสิบเก้า เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เปียรีบเดินตรงไปยังห้องคุณหมอทันทีด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วมองถุงกล่องข้าวที่ถืออยู่ในมืออย่างอารมณ์ดี ก๊อก ก๊อก ก๊อก "เข้ามา" เสียงจากคนด้านในห้องอนุญาต มือบางจับด้ามประตูบิดลงเพื่อเปิดเข้าไปในห้อง "เปียเอาข้าวมาส่งค่ะคุณหมอ มีผัดผักกับปลาดอลลี่นะคะ แล้วก็น้ำด้วย" เธอบอกน้ำเสียงสดใส แล้ววางถุงข้าวกล่องลงบนโต๊ะคุณหมอ "อืม ขอบใจ" "แล้วนี่ตังค์ทอนค่ะ" เปียวางเงินทอนไว้บนโต๊ะคุณหมอ ก่อนจะก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วยืนมองเขาอย่างชื่นชมอยู่ในใจจนลืมไปว่าเธอยังมีงานอื่นที่ต้องทำ เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ห้วงแห่งความฝันที่จะได้อยู่กับคุณหมอ แต่มันก็เป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆ คุณหมอหนุ่มหล่อที่พ่วงด้วยตำแหน่งรองประธานเงยหน้าขึ้นมามองเด็กสาวที่ไม่ยอมออกจากห้องไปไหน นิ้วเรียวหนาจับด้ามปากกาแล้วเคาะลงไปบนโต๊ะ มองหน้าเด็กสาว "ทำไมไม่ออกไปอีก" "เอ่อ...อ้อ ค่ะ ค่ะ เปียจะออกไปเดี๋ยวนี้" เธอก้มหัวหมุนตัวกลับเดินออกไปจากห้องในทันที "บ้าจริงๆเลยยืนจ้องคุณหมออยู่ได้" เธอต่อว่าตัวเองอยู่ที่หน้าห้องคุณหมอก่อนจะเดินคอตกกลับไปยังลิฟต์ปกติที่เธอขึ้นมาในตอนแรก ไม่รู้ว่าเธอจะได้มีโอกาสมาที่นี่อีกหรือเปล่า "ทำยังไงถึงจะได้เจอคุณหมออีกคะ" เธอยืนบ่นคนเดียวอยู่ในลิฟต์ นึกถึงหน้าคุณหมอ เธออยากเจอเขาอีกแต่ก็คงไม่ได้มีวาสนาจะได้ขึ้นมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง "ป้าพรจ๊ะ หนูกลับมาแล้ว" เธอเดินนวยนาดกลับเข้ามาในร้านอาหารตามสั่งหลังจากส่งข้าวให้คุณหมอเสร็จแล้วถอนหายใจลงนั่งที่เก้าอี้ยกแขนขึ้นเท้าคาง "ทำไมทำหน้าแบบนั้น" "แบบไหนเหรอป้า" "แค่ให้ไปส่งข้าวคุณหมอมันน่าเบื่อขนาดนั้นเลย" "เปล่าจ่ะ ฉันไม่ได้เบื่อ ออกจะดีใจด้วยซ้ำไป" "ว่ายังไงนะ" "อ้อ เปล่าจ่ะไม่มีอะไร" ระหว่างทางที่กลับมาร้านอาหารเธอเดินคิดมาตลอดทาง อยากจะมีวาสนาอีกสักครั้งเพื่อจะได้เจอหน้าคุณหมอ ดวงตาสวยก้มมองดูสภาพตัวเอง เสื้อผ้าเธอมันเก่ามากแถมคอก็ย้วย แค่เงินจะซื้อเสื้อยืดธรรมดาใส่ยังยาก เพราะช่วงเย็นๆพ่อกับแม่เธอก็จะมาดักรอแถวๆหน้าร้านเพื่อแบมือขอเงินลูก ขนาดเงินแค่สามร้อยห้าสิบบาทก็ยังจะเอา ตอนที่เธอยื่นเงินให้พ่อกับแม่ พวกเขาส่งเงินให้เธอเพียงแค่ยี่สิบบาทไว้ติดตัวเท่านั้น เข้าเช้า กลางวัน เธอก็จะมาทานที่ร้านป้า ส่วนตอนเย็นป้าก็จะแบ่งกับข้าวที่ยังเหลือให้กับเธอไว้ทาน เปียเลยไม่ต้องเสียเงินซื้อข้าวสักบาท ในทุกๆวันเปียจะเดินทางกลับบ้านเป็นประจำทั้งขาไปและขากลับ ด้วยระยะทางจากบ้านมายังร้านที่เธอทำงานประจำใช้เวลาเดินทางมาก็แค่ประมาณสิบห้านาทีเท่านั้น เธอจึงไม่ต้องเดินทางด้วยรถโดยสาร ตกเย็น "เอ้านี้เงิน" ป้าร้านอาหารยื่นเงินค่าแรงให้กับเธอ "ขอบคุณจ่ะ" เธอรับเงินก่อนจะยกมือไหว้ "เปียไปก่อนนะจ๊ะป้า" เธอบอกลาแล้วมองเงินจำนวนสามร้อยห้าสิบบาทที่ถืออยู่ในมือ เงินจำนวนนี้เธอคงถือไว้ได้ไม่นานนักเดี๋ยวพ่อกับแม่เธอก็มาเอาเงินเธอไปแล้ว เปียเดินไปตามทางระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้าน แต่ก็แปลกใจที่วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่มาดักรออย่างเช่นทุกวัน หรือวันนี้พวกเขาอาจจะได้เงินเยอะจากการเล่นพนันเลยไม่คิดมาเอาเงินไปจากเธอ เดินไปได้เพียงห้านาทีเริ่มมีแสงสว่างจากทางด้านซ้าย เมื่อเดินผ่านก็พบว่ามีตลาดนัดของขายเต็มไปหมด เธอจึงแวะเดินเข้าไปดูว่ามีของอะไรขายบ้าง จริงๆเธอเดินผ่านตรงนี้ทุกวัน แต่ไม่ยักรู้ว่ามีตลาดนัดด้วย หรือเพิ่งจะมาเปิดตรงนี้ เปียเห็นมีร้านเสื้อผ้าขายอยู่ทางด้านหน้าก็รรบเดินเข้าไปดู เธอหยิบเสื้อขึ้นมาหนึ่งตัวเป็นเพียงแค่เสื้อยืดธรรมดามีลายสกรีนด้านหน้า และป้ายบอกราคาติดอยู่ "หนึ่งร้อยเหรอ" เธอมองเสื้อผ้าตัวอื่นๆที่แขวนบนราว แต่เสื้อผ้าพวกนั้นคงจะแพงกว่าตัวที่เธอถืออยู่ ชุดกระโปรงสวยๆเธอคงไม่ได้ใส่ แค่เสื้อยืดเปลี่ยนธรรมดาก็คงจะหรูมากแล้วสำหรับเธอ เด็กสาวยืนชั่งใจอยู่ว่าจะซื้อดีไหม เธออยากมีเสื้อใหม่ๆสักตัว "หนู เห็นถือนานแล้วจะซื้อไหม" คนขายตะโกนถาม "เอ่อ...มีกระจกไหมจ๊ะ หนูอยากเอาลองทาบบนตัวจ่ะ" เธอบอกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว "นู่น" คนขายชี้บอก เธอจึงเดินไปส่องกระจก ใบหน้าเธอทำไมมันถึงได้มอมแมมแบบนี้นะ ผมเผ้าที่เธอถักเปียมาก็ยุ่งหยิงไปหมด สารรูปเธอมันดูแย่มากๆเลย "ตกลงจะซื้อไหม" "ยะ ยังดีกว่าค่ะ" เธอตัดใจไม่ซื้อเสื้อใหม่ เพราะรู้สึกเสียดายเงิน วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่มาเอาเงินเธอไป งั้นเธอควรเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เพื่อต่อยอดในอนาคตถึงมันจะเป็นจำนวนเงินไม่มากก็ตาม มือบางแขวนเสื้อไว้ที่ราวผ้าที่เดิมแล้วเดินออกจากร้าน เพื่อกลับบ้าน ทางด้านคุณหมอหนุ่มหล่อในวัยสามสิบนั่งดูเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะจนเวลาล่วงเลยถึงหนึ่งทุ่ม เขาปิดเอกสารลงแล้วเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้แล้วนวดขมับเพื่อผ่อนคลาย ก๊อก ก๊อก ก๊อก "เชิญ" "คุณหมอคะ พรุ่งนี้มีเคสผ่าตัดคนไข้ห้องวีไอพีค่ะ ชื่อคุณบารมี" พยาบาลผู้ช่วยของเขาเข้ามาบอก "อืม" "อ้อ แล้วข้าวเมื่อกลางวันคุณหมอทานได้ไหมคะ" "ได้" "วันนี้โซลไม่ว่างเอาข้าวมาให้ด้วยตัวเองเลยวานให้ป้าร้านข้าวมาส่งให้ค่ะ" "ป้า?" เขาถาม ก็คนที่มาส่งข้าวใหเเป็นเด็กสาวเนื้อตัวมอมแมม "ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ" "ไม่มีอะไร คุณออกไปได้ ผมจะกลับบ้านแล้ว" คุณหมอหนุ่มขับรถออกจากโรงพยาบาลในเวลาค่ำ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงหฤหรรษ์ในการต้องฝ่ารถติด ในระหว่างที่รถติดอยู่นั้น สายตาคมกวาดมองไปรอบๆตัวมองสิ่งต่างๆที่อยู่รอบข้าง เขาไปสะดุดโฟกัสกับใครคนหนึ่งที่เดินอยู่บนฟุตบาท ละม้ายคล้ายเด็กที่วันนี้เธอซื้อข้าวให้เขา รถราบนท้องถนนค่อยๆไหลไปตามทางทีละนิด ดวงตาคมมองเด็กสาวที่เดินบนฟุตบาทสลับกับมองทางที่อยู่เบื้องหน้าสลับไปมา "ไม่เรียนหนังสือหรือยังไง" เขาคิดพิจารณามองเด็กสาวเนื้อตัวมอมแมมแต่มีใบหน้าที่... สวย นี่คือสิ่งที่เขาคิดในหัวจำใบหน้าเธอได้เมื่อช่วงกลางวันที่เธอมาส่งข้าวให้ คุณหมอหนุ่มถอนหายใจยาวๆ เลิกมองเด็กสาวแล้วหันมาโฟกัสกับรถราที่ค่อยๆไหลไปตามทางทีละนิด เขาไม่ควรคิดเรื่องอะไรที่ไร้สาระก็แค่เด็ก...มาส่งข้าวให้ จะคิดอะไรให้เยอะแยะ ทุกวันนี้แค่งานในโรงพยาบาลก็ล้นมือมากพอแล้ว °°°°°°°°°°
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD