ฉันยังใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หรูหราเรื่อยมา ทั้งที่เงินในบัญชีของฉันที่ได้จากประกันชีวิตพ่อแม่พี่ชายและคุณตามีมากโข ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ฉันจะไม่ถอนออกมาใช้โดยเด็ดขาด
ฉันยังคงทำบุญให้กับวิญญาณที่มาแสดงตัวให้เห็นเป็นประจำ บ้างก็หายไป บ้างก็ยังคงอยู่
"เหงาว่ะ ดูละครกัน" ดาหลันยังคงชวนฉันดูละครที่ตัวร้ายในดวงใจของเธอเล่นเช่นเคย ฉันชอบผลงานที่เขาเล่น แต่ไม่ชอบการใช้ชีวิตในชีวิตจริงของเขา มันเหมือนบทบาทที่เขาได้รับในบทละครไม่มีผิด ร้ายทั้งในจอนอกจอ
"ดูทุกวันไม่เบื่อรึไง" ทักท้วงเพราะบางทีก็เบื่อกับการเห็นหน้าดาราตัวร้ายคนนี้ทุกวัน
"แกอย่ามาเบื่อสามีของฉันนะ" ดาหลันพูดพลางยื่นหูฟังใส่หูให้ฉัน ฉันจำใจต้องทนดูละครจำเจที่ดูซ้ำ ๆ ทุกวันเพราะความชอบของเพื่อน
ดูละครย้อนหลังกับเพื่อนสนิทไปเรื่อย ๆ จวบจนกระทั่งตีหนึ่ง วันนี้ฉันเข้าเวรดึก
"ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ฉันบอกดาหลัน ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ
ทำธุระในห้องน้ำสักพัก เดินกลับมาหาดาหลันแต่เธอไม่อยู่แล้ว ฉันจึงเดินไปที่ห้องฉุกเฉิน
ผู้คนมากมายกำลังรายล้อมที่หน้าห้องฉุกเฉินเหมือนกำลังรออะไรสักอย่าง บุรุษพยาบาลและผู้รักษาความปลอดภัยพยายามกันคนออก
"เกิดอะไรขึ้นคะ" ฉันถามเพื่อนพยาบาลคนหนึ่ง
"คุณบัลลังก์น่ะสิตกจากที่สูงขณะถ่ายทำละครฉากดึก เลือดนี่ไหลอาบท่วมตัว เห็นหมอว่าเป็นตายเท่ากัน" ฉันได้ยินที่เพื่อนพยาบาลตอบ แต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะภาพตรงหน้าทำให้ฉันนิ่งค้างด้วยความตกใจ ภาพที่มีวิญญาณเดินทะลุห้องฉุกเฉินออกมา
ดาราตัวร้าย นักแสดงชายที่รับบทเป็นตัวร้ายของทุกเรื่อง ขวัญใจสาวสายดาร์กหลาย ๆ คน รวมทั้งดาหลันเพื่อนของฉัน
เลือดอาบตามตัวของเขา สายตาของเขากำลังจ้องมองฉัน แวบเดียวเท่านั้น เขามาปรากฏตัวตรงหน้าของฉัน การปรากฏตัวอย่างรวดเร็วของเขาทำเอาฉันตกใจจนหัวใจเต้นแรง
ฉันแกล้งไม่สนใจ ทำเป็นมองไม่เห็น แต่เขากลับตามติดฉันทุกฝีก้าว
"หนูดี หมอกุ้งบอกให้เข้าห้องฉุกเฉินด่วน" พยาบาลนางหนึ่งเดินมาบอกฉันแล้วรีบกลับเข้าห้องฉุกเฉินไป ฉันรีบเดินเข้าห้องฉุกเฉินด้วยความรวดเร็ว ไม่สนใจวิญญาณที่กำลังเดินตามเข้ามา
"เป็นยังไงบ้างคะพี่หมอ" เอ่ยถามพี่หมอเมื่อสภาพดาราชายสาหัสพอตัว
"ต้องผ่าตัดด่วนเลยหนูดี ศีรษะเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรงทำให้เลือดคลั่งในสมอง เข้าห้องผ่ากับพี่นะ ดูสิพยาบาลแต่ละคน" พี่หมอมองรอบห้องฉุกเฉินแล้วส่ายหัว ฉันจึงมองตามสายตาของพี่หมอ พยาบาลนั่งร้องไห้บ้าง ยืนร้องไห้บ้าง คงเพราะเสียใจที่ดาราชายตัวร้ายของพวกเธอประสบเหตุ และหนึ่งในนั้นคือดาหลันเพื่อนของฉันที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก
"ลงมือเถอะค่ะพี่หมอ เดี๋ยวจะไม่ทัน" จากนั้นฉันเดินเรื่องขออนุญาตผ่าตัดโดยให้ญาติของดาราชายเซ็นรับรู้
('ช่วยฉันที ฉันยังไม่อยากตาย') ดาราตัวร้ายแวบมาตรงหน้าฉันขณะที่ฉันกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตเขา เสียงของเขาดังเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ของฉัน
เขาเป็นวิญญาณตนแรกที่ฉันสามารถได้ยินเสียงระยะประชิดไม่ใช่เห็นเพียงแค่รูปลักษณ์ที่สื่อให้ฉันเข้าใจว่าเขาเหล่านั้นต้องความช่วยเหลือ
ให้ตายเถอะ! แค่เห็นอย่างเดียวฉันก็จะบ้าอยู่แล้ว นี่ดันได้ยินเสียงด้วย โรคประสาทจะไม่ถามหาหรือไง ได้แต่บ่นในใจเพราะพูดออกไปกลัวคนรอบข้างจะหาว่าบ้า
ฉันเดินผ่านทะลุร่างของเขาไปเพื่อที่เขาจะได้คิดว่าฉันมองไม่เห็นเขา
การผ่าตัดใช้เวลานานหลายชั่วโมง ระหว่างผ่าตัดนายบัลลังก์ก็ยังคงยืนอยู่ข้างกายฉันไม่ห่าง พร้อมคำพูดก่อกวนที่ฉันต้องระงับอารมณ์ไม่พูดออกมาด้วยกลัวว่าคนอื่นจะตื่นตกใจ
('เธอดูดิ สมองของฉันไหลเยิ้มเชียว')
"..."
('โธ่ นี่ฉันจะตายรึเปล่าเนี่ย')
"..."
('ฉันรู้นะว่าเธอได้ยิน')
"..."
('เฮ้ย! หมอมันบีบสมองฉันแรงไปรึเปล่าวะ')
"..."
('นี่เธอบอกหมอให้เย็บสวย ๆ นะ เดี๋ยวแผลไม่สวยฉันจะเอาเรื่องโรงพยาบาลนี้นะ')
"โอ๊ย เงียบปาก ฉันไม่มีสมาธิ" หลุดปากเผลอตะโกนออกมาจนได้ เมื่อสติกลับมามองดูรอบตัวพี่หมอ พยาบาลคนอื่น ๆ กำลังนิ่งค้างแล้วหันมองหน้าฉัน
"ขอโทษค่ะ"
'คนบ้าทำฉันอายจนได้!' นาทีนี้แต่บ่นในใจ
('ขอโทษ ก็เธอแกล้งไม่เห็นฉันนิ') จู่ ๆ เสียงนี้ก็ดังขึ้น
'อย่าบอกว่าอีตาบ้านี่ ได้ยินความคิดฉันนะ!'
('ใช่น่ะสิ พิเศษดีเนอะ') เขายื่นใบหน้าหล่อมาใกล้ใบหน้าของฉัน
ให้ตายเถอะ! ทำไมนายนี่รู้ความคิดของฉัน
'ช่วยอย่ากวนฉันได้ไหมถ้านายอยากฟื้น' เอ่ยในใจ
('โอเค') นายบัลลังก์ยิ้มหล่อ แต่ไม่ได้ทำให้ฉันตื่นเต้นอะไรนักหรอก
การผ่าตัดสิ้นสุดลง แต่ดาราตัวร้ายยังคงยืนข้างกายฉัน เขามองร่างของตัวเองที่ถูกเข็นเข้าห้องพักฟื้น
ในเมื่อชีพจรเต้นปกติ ทำไมนายนี่ไม่เข้าร่างเป็นคำถามที่ฉันสงสัยแต่ยังไม่เอ่ยถามใคร เรื่องแบบนี้จะถามใครได้ยังไงล่ะ
('เธอ ทำไมฉันเข้าร่างไม่ได้') ดาราชายตัวร้ายปรากฏตัวที่บ้านของฉันพร้อมคำถามที่ฉันไม่สามารถหาคำตอบให้ได้
"ฉันไม่รู้ แล้วนายมาบ้านฉันทำไม ทำไมไม่ไปเฝ้าร่างตัวเองแล้วพยายามกลับเข้าร่าง" ฉันตัดสินใจพูดกับเขา เพราะความง่วงหลังจากที่ออกเวรมาในยามเช้าจึงอยากพักผ่อน อยากพูดให้จบ ๆ
('ก็มันเหงา สาว ๆ ในสต๊อกก็ไม่ใครเห็นฉันสักคน มีแต่เธอนั่นแหละที่ฉันสามารถพูดคุยได้') เขาจ้องมองฉันเหมือนฉันเป็นคนพิเศษของเขา ตอนนี้ใบหน้าและเสื้อผ้าของเขาสะอาดตาไม่มีคราบเลือดหรือรอยแผลใด
"นายจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันง่วงอยากนอน เย็นนี้ฉันต้องเข้าเวรอีก" บอกปัดอย่างเหนื่อยหน่าย
('เธอกล้าไล่ดาราดังอย่างฉันเหรอ เธอรู้ไหมมีแต่คนอยากเข้าใกล้ฉัน ทำไมเธอถึงไม่กรี๊ดฉันแบบที่คนอื่นทำ') คิ้วหนาของเขาขมวดเป็นปม
"ก็ฉันไม่ชอบนายไง เงียบเลยนะ ฉันจะนอน" ตอบและรีบเอาผ้าห่มคลุมโปง
('นี่เธอกล้าบอกว่าไม่ชอบฉันเหรอ คอยดูนะฉันจะทำให้เธอชอบฉันให้ได้!') ดาราดังผู้หลงตัวเองกล่าว ฉันไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง เลือกที่จะเงียบเพราะความง่วงเข้าครอบงำ.....